นวัตกรรมการเรียนรู้ในโรงเรียน
หนังสือ Education Nation : Six Leading Edges of Innovation in Our Schools เขียนโดย Milton Chen แค่อ่านคำนำโดย George Lucas (นักสร้างภาพยนตร์ชื่อก้องโลก ผู้สร้างภาพยนตร์ชุด สตาร์ วอร์ส) ก็กินใจแล้ว
Lucas เสนอเป้าหมายของการเรียนรู้สำคัญ ๕ ประเด็น ได้แก่
เมื่อ ๕๐ ปีที่แล้ว ความรู้ / สารสนเทศ อยู่ในตำรา ที่มีความแม่นยำถูกต้อง แต่เดี๋ยวนี้ ความรู้/สารสนเทศอยู่บน อินเทอร์เน็ต มีอยู่หลายแหล่ง และอาจไม่ตรงกัน นักเรียนจึงต้องฝึกให้ค้นเป็น และรู้จักตรวจสอบความน่าเชื่อถือ ความรู้จากต่างแหล่งเหล่านั้น เลือกเอาที่เหมาะสมที่สุดมาทดลองใช้
สมัยก่อน การเรียนรู้เน้นที่การ “รู้” และตอบแบบทวนความจำ (คาย/สำรอก) ความรู้เหล่านั้นเพื่อตอบข้อสอบได้ แต่สมัยนี้ ต้องเรียนได้มากกว่านั้น คือต้องรู้จักนำความรู้นั้นไปใช้ประโยชน์อย่างสร้างสรรค์ และได้ผล
ครู/อาจารย์ ต้องตั้งคำถามต่อนักเรียน ว่าเมื่อค้นความรู้มาได้ และเลือกชุดความรู้ที่เหมาะสมแล้ว ต้องแสดงให้เห็นว่า รู้วิธีใช้ความรู้เหล่านั้น ให้เกิดประโยชน์และสร้างสรรค์
แต่แค่จัดการสารสนเทศ หรือจัดการความรู้ เป็น ยังไม่พอ ต้องจัดการอารมณ์-สังคม ได้ด้วย นักเรียน/นักศึกษา ต้องฝึกฝนการจัดการอารมณ์ของตน เชื่อมโยงกับการจัดการ ความสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่น ต้องเรียนรู้พัฒนามิติของความเป็นมนุษย์ ในด้านสังคมและอารมณ์
ข้อน่าเสียดาย หรือข้อผิดพลาดรุนแรงของการศึกษาไทย คือการที่ระบบการบริหาร การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ไม่เอาใจใส่เป้าหมายการเรียนรู้ข้อนี้เลย
สภาพการเรียนรู้ในศตวรรษที่ ๒๑ นักเรียน/นักศึกษา ค้นหาความรู้จาก ไอซีที ได้เอง ครู/อาจารย์ ไม่ต้องเสียเวลาบรรยายถ่ายทอดความรู้อีกต่อไป จึงควรใช้เวลาสร้างความ สัมพันธ์ใกล้ชิดกับศิษย์ พูดคุยตั้งคำถาม “ทำไมเธอจึงคิดเช่นนั้น” และคำสนทนาอื่นๆ เพื่อช่วยให้ศิษย์เรียนรู้สู่วุฒิภาวะด้านสังคม-อารมณ์
ผมขอเพิ่มเติมข้อคิดของผมเอง ว่า ครู/อาจารย์ ของศิษย์วัยรุ่นและวัยนิสิตนักศึกษา มหาวิทยาลัย พึงทำหน้าที่นี้ ภายใต้ความสัมพันธ์แบบผู้ใหญ่ต่อผู้ใหญ่ เคารพและรับฟัง ข้อคิดเห็นของศิษย์ ใช้วิธีตั้งคำถามและรับฟัง ส่วนไหนที่เห็นว่าศิษย์มีความคิด/อารมณ์ ที่ไม่ถูกต้อง ก็ใช้วิธีตั้งคำถามและรับฟังไปเรื่อยๆ จนศิษย์ฉุกคิดได้เอง ให้เน้นถาม-รับฟัง อย่าเน้นสั่งสอน วัยรุ่นและคนรุ่นใหม่ ไม่ชอบการสั่งสอน
ครูอยู่ในยุคเรียนจากการอ่านกระดาษ นักเรียน/นักศึกษาอยู่ในยุคอ่านจากหน้าจอ ในที่สุดแล้ว โลกการศึกษาจะยิ่งก้าวหน้าต่อไปอีก ไอซีที ที่ก้าวหน้ายิ่งขึ้น จะยิ่งเปลี่ยนโฉม ระบบการเรียนรู้ และคนรุ่นใหม่ (ไม่ใช่รุ่นพวกเรา) จะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง
เทคโนโลยีเลียนแบบ (simulation) จะก้าวหน้า นำมาใช้เป็นตัวช่วยให้เรียนรู้ เรื่องยากๆ ให้เข้าใจง่าย เช่นการเรียนรู้กายวิภาคศาสตร์ของมนุษย์ พืช และสัตว์ ชนิดต่างๆ แทนที่จะต้องเรียนโดยการผ่าศพ ก็เรียนรู้จากจอคอมพิวเตอร์ สามารถตัดร่างกาย อวัยวะ เซลล์ ในระนาบต่างๆ เพื่อเรียนรู้ รวมทั้งสามารถสร้างเป็นภาพเคลื่อนไหวแสดงการทำงาน ของส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือของพายุหมุน ให้ดูทางจอคอมพิวเตอร์ได้ ความรู้หลายอย่างที่เคยคิดว่ายาก และซับซ้อน ต้องไปเรียนในระดับมหาวิทยาลัย จะเลื่อนมาเรียนในระดับมัธยม
สรุปว่า George Lucas แนะนำว่า ในยุคศตวรรษที่ ๒๑ นี้ วงการศึกษาต้อง “คิดใหญ่กว่าเดิม” หาทางใช้เทคโนโลยีเครื่องช่วยต่างๆ เพื่อให้การเรียนรู้สนุก ให้ความสุขความตื่นเต้น แก่ผู้เรียน และแก่ครู พัฒนาศักยภาพสร้างสรรค์ของมนุษย์ ยกระดับความสามารถของมนุษย์ และยกระดับความเป็นมนุษย์ ขึ้นไปในระดับที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
วิจารณ์ พานิช
๕ ธ.ค. ๕๖
วันพ่อ
แนวคิดดี...ค่ะ
ความรู้หลายอย่าง ได้เรียนรู้ฟรี จากผู้ที่ไม่หวังประโยชน์ทางการค้า
แต่ความรู้บางอย่าง ก็สร้างมาเพื่อขาย ถ้าเราไม่มีเงินซื้อ เราก็จะไม่มีโอกาสเรียนรู้เทคโนฯ เหล่านั้น
ความรู้บางชนิด คนรวยเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสเข้าถึง
แต่ครูบางคนทำตัว เหมือนรับจ้างสอน ใครเรียนด้วย ก็เกรดดี...ค่ะ