พ่อของฉัน


พ่อผู้ก่อเกิด ให้กำเนิดลูกรักประจักจิต  พ่อหวังเจ้าแทนชีวิต  มีความคิดจิตเมตตา

     ไม่มีใครเลยที่เกิดมาไม่มีพ่อ ถ้าเขาพูดว่าเขาไม่มีพ่อนั้น มันเป็นเพียงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่างหาก จึงเขาเรียกว่ากำพร้าต่างหาก 

วันนี้เป็นวันที่ทุกคนต้องคิดถึงพ่อของตนว่าท่านนั้นมีพระคุณต่อเรา เพราะท่านเป็นผู้ให้กำเนิดเรา หรือว่าทุกส่วนในร่างกายของเรานั้นคือองท่านนั้นเอง แต่สิ่งหนึ่งอาจจะไม่ใช่ หรือว่าใช่ก็ตาม สิ่งนั้นคือ จิตใจ หรือคุณธรรมที่มีอยู่ในลูกทุกคนไม่ว่าจักเป็นผู้หญิงหรือชายก็ตาม ดังนั้นผู้ที่ได้ร่างกายเกิดมาเป็นมนุษย์ควรคิดถึงบุญของท่านให้มาก เพราะเราคือท่าน ถ้าท่านเป็นคนดีเราควรรักษาความดี และทำความดีเหมือนของท่าน ถ้าท่านเป็นคนไม่ดี แต่ท่านก็มีพระคุณต่องเรา ดังนั้นเราผู้มีจิตที่เป็นของเราควรคิดท่าความดี ดีกว่าของท่านเพื่อจักได้เป็นอภิบุตร ให้ชาวโลกสรรเสริญ

      ส่วนประชาชนชาวไทยทั้งประเทศไม่ว่าจักเป็นฝ่ายไหน ทุกคนก็คือคนไทย เจ้าของประเทศหรือว่าเจ้าของบ้าน ซึ่งมีในหลวงเป็นพ่อของประชาชนทั้งประเทศของคนทุกฝ่าย ในฐานะที่เราทุกคนเป็นดังลูกของพระองค์ ควรที่จักรักเคารพทำความดีเพื่อพระองค์และประเทศของตน ที่เป็นบ้านของเรา จงรักและสามัคคีกันไม่ควรที่จักมาแบ่งฝ่ายและทะเลาะกันเพื่อประโยชน์ของตน

      ในวารโอกาสวันเฉลิมพระชนพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๕ ธันวาคม ๒๕๕๖ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

                                                                              ขอถวายพระพร

                                                                        พระอธิการมงคล ปญฺญาวุโธ

                                                                             วัดสุวรรรณคีรี จ.สงขลา

คำสำคัญ (Tags): #พึงคิด
หมายเลขบันทึก: 555413เขียนเมื่อ 5 ธันวาคม 2013 00:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 ธันวาคม 2013 00:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

เพราะเหตุผลว่าเรามีพ่อ และพ่อย่อมมีพ่อของพ่อ ของพ่อ ของพ่อ และของพ่อ และต่อๆไปอีก

ฉะนั้นด้วยหลักเหตุและผล ย่อมต้องรัก และ กตัญญูต่อต้นทาง ไม่มีการยกสะพานออกจากต้นทางง่ายๆ มิเช่นนั้น จะเป็นการแอบฝึกให้จิตเนรคุณ

การเสพสุข ย่อมมาจากต้นทาง โดยที่เกิดขึ้นเองย่อมไม่ได้ จากการที่ชาวไทยมากมายสามารถยกสะพานออกได้อย่างง่ายดายว่า "ไม่เอาพ่อ" นั้น น่าจะมาจากสาเหตุที่หลงไปเชื่อเรื่องเกิดเองตามธรรมชาติ เรื่องเสพฟรี เรื่องมีการหลุดพ้นได้กระมัง

ฉะนั้นลองฝึกจิตดูกันใหม่ อย่าละเมิดการไม่รู้ใดใด หลงไปยกสะพานออกจากผู้มีพระคุณรายใด โดยเฉพาะรายแรก ที่สากลเรียกว่า พระเจ้า หรือ อัลลอฮ์ กันเลย. เราจะกล่าวว่า มนุษย์ทุกคนมีอัลลอฮ์ ไปหมดแล้ว แต่ส่วนน้อยเท่านั้น(มีชาวไทยปนอยู่) ที่มีเป็นสิ่งปิดกั้นปฎิเสธเนรคุณ. นอกนั้นจะมีเป็นสิ่งกตัญญู

การที่ยินยอมให้จิตเนรคุณ หลงไปฝึกให้จิตอกตัญญู หรือ ห้ามกตัญญู ยกสะพานออกจากผู้มีพระคุณได้กันมานาน นี่เอง

ที่ทำให้ชาวไทยเป็นส่วนน้อยของโลกที่มีปัญหารอบด้านที่มาจากการ เนรคุณ เป็นเหตุ ลองก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบเชื่อ

ลองมีอัลลอฮ์ เป็นสิ่งกตัญญู แทนมีเป็นสิ่งปิดกั้นปฎิเสธมานานเถิด การกตัญญูไปพลางๆ แม้จะไม่ศึกษา ก็ยังกุศลกว่าการเนรคุณ เพราะ เราทั้งหลาย"เสพจริง"จากหลักฐาน อย่างเป็นทางการ มาตั้ง 6500 กว่าปีในการเป็นเจ้าของสรรพสิ่งทั้งหลาย บวกกับพยานล้นโลก หากเราเพิกเฉย แต่เสพ เท่ากับเราขโมยเสพ แล้วหละ นั่นคือศีลพื้นๆข้อ2 มิใช่หรือ หรือเราจะมุสาว่าเราไม่เสพล่ะ เราไม่เสพออกซิเจนดอกหรือ เราจะยอมมุสา ยอมขโมย แล้วหลุดพ้นจริงๆหรือ มันง่ายไปหน่อยไหมที่จะผิดศีลพื้นๆ แล้วบรรลุสิ่งใดได้อีก ลองเถิดอย่าเพิ่งเชื่อ การลองนั้น ก็ไม่มีใครทราบ ไร้ภาวะการตกเป็นทาส เป็นนายต่อมนุษย์หน้าไหนด้วยซ้ำ. ท่านแน่ใจหรือว่า พระพุทธเจ้า จะห้ามกตัญญูต่อผู้ให้ออกซิเจนท่านฯหายใจ คนดีเช่นท่านนั้น จะห้ามในธรรมที่สำคัญหรือ พืช สัตว์ วิญญาณ เราไม่ทราบได้ว่า เขาเหล่านั้น ค้นหาผู้สร้าง และ มีพระคุณ ค้ำจุนเขากันหรือไม่น๊ะ แต่เราเป็นมนุษย์ที่เป็นจักรกลที่ประเสริฐแล้ว ใยต้องรีบยอมพ่ายแพ้แก่พวกเขาเหล่านั้นด้วยล่ะ

หากเด็กๆ ถูกให้เหตุผลตั้งแต่เล็กๆ ว่า หากเขาทำผิด ทำสิ่งที่พ่อแม่ห้ามปราม แล้วจะทำให้พ่อแม่ถูกตำหนิ ถูกนำจากไปได้

เด็นๆทุกคน แม้จะยังพูดไม่ได้ ย่อมเกรงกลัวผู้ที่จะนำพ่อแม่จากไป ตำหนิ ลงโทษ พ่อแม่ตนได้ นั่นคือการที่ยังมีผู้รับผิดชอบเหนือพ่อแม่อยู่

นั่นคือ ประโยชน์แห่งการมีอัลลอฮ์ เพราะเด็นร้อยทั้งร้อย ย่อมกลัวพ่อแม่ถูกนำจากไป กลัวพ่อแม่จะถูกลงโทษ นั่นทำให้พ่อแม่สอนสั่งเขาง่ายขึ้น การตอกย้ำว่าพ่อแม่นั้นมีการเกรงกลัวยังผู้มีพระคุณของท่าน ยำเกรง ไม่ยกสะพาน ลูกก็จะยำเกรงยังผู้ที่พ่อแม่ยืนยันเช่นกัน ความเกรงกลัวที่มาจากการเกรงกลัวผู้มีพระคุณต่อพ่อแม่ โดยมิต้องมีภาวะการเป็นนายเป็นทาสต่อเพื่อนมนุษย์ เช่น กลัวตำรวจ กลัวรถขยะ หรือสิ่งงมงายใดใด เช่น กลัวผี กลัวเทวดา กลัววิญญาณใดใด(ที่เขาไม่รู้เรื่องและไม่เคยบอกเลยว่าจะลงโทษเด็ก) ก่อนเติบจากนั้นเมื่อเขาเติบโต จากนั้น เมื่อรู้ความแล้ว พ่อแม่ยังคงยืนยันว่า มีผู้มีพระคุณต่อท่านๆทั้งสองอยู่มิเสื่อมคลาย ไม่ยกสะพานออกไป ลูกๆ จะยังคงสภาพการเกรงกลัวผู้มีพระคุณของพ่อแม่ได้อยู่ ศึกษาตรรกะ หลักฐานต่างๆ พยานต่างๆ วงจรต่างๆที่ตนเสพ ไม่เร่งรีบไปกล่าวเนรคุณ และ เมื่อเขากลายไปเป็นพ่อแม่รุ่นใหม่ เขาก็สอนลูกในคุณค่าแห่งการกตัญญู เกรงกลัวผู้มีพระคุณของพ่อแม่ต่อไปอีก. กตัญญูรุ่นต่อรุ่น โดยมีเหตุผล มีประโยชน์แท้จริง มีหลักฐาน และพยาน

การมีพระเจ้าเป็นสิ่งกตัญญูรู้คุณ แทนการมีเป็นสิ่งปิดกั้น ปฎิเสธ เนรคุณนั้น สามารถสร้างคนในชาติ ให้มั่นคงในเรื่อง กตัญญูกตเวทิตาธรรมได้ เพราะผลของการดำรงชีพ แบบเนรคุณกันง่ายๆ แม้แต่ผู้ที่เสพการพัฒนาของเจ้าแผ่นดิน มาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายายของเขา ยังสามารถยกสะพานหนีผู้มีพระคุณ คือ ผู้ใช้กำลังกายลงพัฒนาแผ่นดินอย่างสุดความสามารถ เต็มกำลัง ทำตามภาระหน้าที่ท่าน อย่างสมดุลและพอเพียงที่สุดแล้ว วันนี้ ยังมีผู้ที่เสพความเจริญนั้นมาตลอด ยกสะพานออกว่า ฉันไม่เอาเจ้าฯ ได้เลย(พบแล้วจริง) นั่นแหละ ผลของการฝึกจิตที่ปฎิเสธปิดกั้น หรือยกสะพานความกตัญญู ออกจาก อัลลอฮ์ กันอย่างช่ำชองแล้วนั่นเอง การไม่เอาเจ้าฯ เลยกลายเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับหัวใจ สำหรับจิตขันธ์ ที่สั่งจริตของเขา ได้เช่นนั้นไงล่ะ

พบผลแล้ว ค้นเหตุแล้ว แจงปัจจัยที่น่าศึกษาแล้ว จงตรองกันเถิดว่า ใกล้เคียง ใช่เลย หรือ หวาดเสียว เพื่อทางเดินต่อไปที่เที่ยงตรง มั่นคง ปลอดภัย นี่คือ แถลงการณ์ ที่มิใช่ข้อเสนอใดใด ที่ต้องการ การต่อรอง และยิ่งกว่านั้นคือ มิใช่คำสั่งต่อใครทั้งสิ้น

นมัสการพระอธิการ

หายไปนานมากเลยครับ

ที่วัดท่านเป้นอย่างไรบ้างครับ

ผู้ที่มาอยู่ข้างกระดายเอ๋ย เมื่อเจ้ามานั่งอยู่ข้างกระดานแล้ว จงรักษาความเป็นครูไว้ให้มั่นเถิด

เพราะมันหวาดเสียวที่เจ้าไม่แสดงความชัดเจนเรื่องการตระหนักรู้เรื่อง กตัญญู เจ้าอาจจะไม่กตัญญูต่อตนเองได้นะ

จงมีสมาธิ เพื่อศีล และ ปัญญา เถิด

นมัสการพระคุณเจ้า จงเจริญในธรรม และขอร่วมถวายพระพรวันเฉลิมพระชนม์พรรษา

จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ฝอยทองต้องเพียรอีก

แม้แต่การประณีประนอม ที่มีประโยชน์. ยังเกิดโทษ เกิดการปิดกั้นในปัญญาญาณของมนุษย์ได้. คือ การประณีประนอมว่า ตนเองไม่สามารถศึกษา ไม่สามารถเข้าถึงคุณค่า ในปรัชญาที่มีสันติธรรม หรือ สันติวิธีเป็นหลัก มีกตัญญูกตเวทิตาธรรมเป็นพื้นฐาน เพื่อที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งๆที่ชาวโลกสากล เขาเข้าถึงคุณค่านั้นโดยทั่วกันอย่างเปิดเผยแล้ว. และหากมีความหวาดกลัวเล็กๆก่อขึ้นในจิต มาผสมโรง คือ กลัวสูญเสียสังคมพยากรณ์ ที่ครอบครองกันมานาน ไปอีก. มันอาจจะ คือเครื่องมือก่ออันตรายต่อความสามารถของตน ปัญญา ศีล สมาธิ ได้. ลองศึกษาอย่างไม่ประณีประนอมต่อมายาคติใดใด ไม่ประณีประนอมต่อการปิดกั้น ต่อความสามารถ ต่อการปฎิเสธเพียร ปฎิเสธอินทรีย์5 อิถิบาท4 ลองเถิด ลองก่อฉันทะ มีวิริยะ มียิตตะ หาวิมังสามาตอบในสิ่งที่ไม่เคยทราบ ไม่เคยตระหนัก ไม่เคยระลึกรู้กันดูก่อน. อย่างน้อย 'ลองก่อนเชื่อ' ก็ยังดี.

อย่าประณีประนอมหากจะขอโทษ

หากเราทำสิ่งใด ผิดพลาดหวาดเสียวไป. การบออภัยนั้น คือสิ่งที่สมควรยิ่ง เพราะจะพ้นจากวิบาก พ้นจากการสงสัยว่า

พ่อแม่เราสอนสั่งเรามาเช่นไร หลุดพ้นจากการสงสัยว่า พระศาสนทูตที่เราติดตาม มีการสอนสั่งเรามาเช่นไร

อย่าทำให้บัญชีพ่อแม่ และศาสนทูต เสียหาย หรือเพียงถูกสงสัย. ยิ่งเรามีโพรไฟล์เป็นถึงด็อกเนอร์ อย่าให้เสื่อมเกียรติกันระนาว

เนื่องจากการกระทำของเราเลย ทำได้รีบทำ การไล่ลบทำลาย การรวมหัวกัน เพื่อเกลียดชังต่อผู้มีความจริงมาตักเตือนนั้น มิใช่ทางหลุดพ้นไปได้จริง กุศลเกิดได้ไหม

ขอใจทุกท่านที่เขามาแสดงความคิดเห็นหรือว่าทักทายกัน

เมื่อรู้ว่าตนแลเป็นที่พึงแห่งตน ตนเองนั้นจงพยายาม ในการสร้างสิ่งที่ดี เพราะที่ตนเองสร้างดีแล้วย่อนำควาสุขมาให้โดยไม่ต้องสงสัย ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะการกระทำของตนเอง ชนิดไม่ต้องกลัวว่าจักไม่เป้นคนดีที่โลกสรรเสริญ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท