"ไอฟัก" กับ "อากุน"


วาระุสุดท้ายของอากุน แกจากไปโดยที่ร่างแกอยู่บนรถไถ วันนั้นแกไปขับรถไถตามปกติ ทั้งๆ ที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล แกกลับไม่พัก ภาพสุดท้าย จากเจ้าของรถไถที่เป็นญาติของแกเล่าว่า แกมาดูอากุนขับรถไถที่ไร่คนคนจ้าง เห็นรถไถจอดอยู่ใต้ต้นไม้ อากุนฟุบหน้าลงที่พวงมาลัย ญาติแกเข้าใจว่า อากุนหลับเลยตั้งใจจะเดินไปเรียกให้กินข้าว ภาพที่เห็นคือ มีเลือดไหลกองอยู่ตรงพื้นรถไถ ญาติแกพยายามเรียก แต่อากุนไม่ตื่นแล้ว แกหลับไปแล้ว แกหมดทุกข์ไปแล้ว

 

คำพิพากษา...

มะตะอ๊อด  ชุมชนร้อยเล่มเกวียน เปลี่ยนชีวิต

 

เคยมีคนถามว่า ชอบหนังสือเล่มไหนมากที่สุด... มีหลายเล่มค่ะ เพราะมุมมองที่ได้จากหนังสือแตละเล่มนั้นต่างกัน เพราะฉะนั้น จึงชอบหนังสือทุกเล่มที่ตัดสินใจอ่าน ไม่ว่าจะเป็นธรรมมะ ข้อคิด การ์ตูน นวนิยาย ฯลฯ

"คำพิำพากษา" ก็เป็นหนังสืออีกหนึ่งเล่มที่ยังทำให้เรานึกถึงอรรสรถในถ้อยอักษรที่ทำให้ตะอ๊อดสร้างจินตนาการของตัวละครขึ้นมาในมุมของตัวเอง จนท้ายที่สุด ไอฟัก ก็มีชีวิตอยู่ในห้วงความคิดทุกครั้งที่นึกถึงหนังสือเรื่องนี้

"คำพิพากษา" เล่มที่ตะอ๊อดเคยอ่านนั้น ได้รับมาจากพี่ชาย (ที่นับถือกัน) เป็นเล่มที่พิมพ์ครั้งที่ 1 รักมาก กระทั่ง ได้เล่าเรื่องไอฟักให้พี่สาว (ที่นับถือกัน) ฟัง เมื่อพี่สาวได้ฟังก็อยากอ่านเองบ้าง จึงขอยืมไปอ่าน หลังจากนั้นตะอ๊อดก็พยายามตามหนังสือเล่นั้นกลับมา ทว่า มันกลับหายไป ความเสียดายหนังสือเล่มนี้มีอยู่มาก แต่ด้วยความที่เคารพนับถือพี่สาวก็มีอยู่มาก จึงได้แต่ทำใจ...

แม้หนังสือจะไม่อยู่ แต่ความทรงจำในเนื้อเรื่องยังคงไม่หายไป ไอฟัก ชายผู้น่าสงสาร ผู้ที่ทิ้งชะตาชีวิตของตัวเองไปกับการคิดไปเองของผู้คนมากมาย ความคาดหวังและความไว้เนื้อเชื่อใจที่ไอฟักที่ให้ครูใหญ่ ก็เป็นอีกหนึ่งจุดหักเหที่สุดท้าย ไอฟักก็กลายเป็นแค่ไอขี้เหล้า ไอคนติดเหล้า

"ไอฟัก" ทำให้ตะอ๊อดคิดถึง "อากุน" ผู้ชายในหมู่บ้านที่เมืองกาญฯ หมู่บ้านที่ตะอ๊อดอยู่มาตั้งแต่เด็ก แกเป็นคนใจดี จิตใจดี ใครให้ช่วยอะไรแกไปหมด ติดที่ว่าแกชอบกินเหล้า กินทุกวัน แกมีเมีย มีลูก ตะอ๊อดมาเรียนมหาวิทยาลัยที่นครปฐม นานๆ กลับไปทีแกก็ยังยิ้มแย้มเหมือนเดิม จนตะอ๊อดมีลูกๆ ไปอยู่กับตา ทุกครั้งที่กลับไป ไอตัวน้อยจะได้รับขนทเล็กๆ น้อยๆ ที่ตากุนขี้เหล้าซื้อมาฝากตุ๊กตาน้อยของแก

ช่วงที่ตะอ๊อดเรียนจบ มาทำงาน  สิ่งทีไ่ด้รับรู้คือ ชีวิตครอบครัวของอากุนกำลังเริ่มแย่ แกกินเหล้าหนัก ลูกแกก็แต่งงานมีครอบครัว แยกย้ายกันไป นานๆ จะมาหาพ่อที ส่วนเมียที่อยู่กินกันมาไม่ต่ำกว่า20 ปี ก็หนีจากไปมีสามีใหม่ ทิ้งให้อากุนผู้น่าสงสารใช้ชีวิตอยู่ในบ้านคนเดียว แม้จะมีญาติๆ อาศัยอยู่ข้างๆ แต่แกก็ไม่ค่อยออกมาพูดคุยกับใคร นอกจากเดินจากบ้านมาร้านค้า หรือไม่็ขี่มอไซต์คันเก่าๆ

พ่อกับแม่อบกว่า ไอตัวเล็กมันจำเสียงรถได้ พอได้ยินเสียงมอไซต์ผ่านหน้าบ้านก็จะร้องเรียก หรือไม่ถ้าแกเดินมาแกจะตะโกนเรียก ไม่พ่อก็แม่จะต้องพาไอตัวเล็กมาทักทาย

หากคนข้างนอกมาเจอแก คงไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ เพราะลักษณะของแกคือ ผอม ตัวบวม ท้องบวม ตาเหลือง หน้าเหลือง แต่แกก็ยังคงยิ้มได้อยู่เสมอ น้ำใจที่แกมีให้ก็ยังมีเสมอ

อากุนเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างขับรถไถให้ญาติๆ ร่างกายแกไม่ค่อยดี ญาติแกให้แกหยุดขับไปหาหาหมอ แกก็ไม่ไป แกไม่เคยแย่งชิงกับใครเลยในชีวิตนี้ แกทำงานไม่เคยบ่นเกี่ยง

วาระุสุดท้ายของอากุน แกจากไปโดยที่ร่างแกอยู่บนรถไถ วันนั้นแกไปขับรถไถตามปกติ ทั้งๆ ที่เพิ่งออกมาจากโรงพยาบาล แกกลับไม่พัก ภาพสุดท้าย จากเจ้าของรถไถที่เป็นญาติของแกเล่าว่า แกมาดูอากุนขับรถไถที่ไร่คนคนจ้าง เห็นรถไถจอดอยู่ใต้ต้นไม้ อากุนฟุบหน้าลงที่พวงมาลัย ญาติแกเข้าใจว่า อากุนหลับเลยตั้งใจจะเดินไปเรียกให้กินข้าว ภาพที่เห็นคือ มีเลือดไหลกองอยู่ตรงพื้นรถไถ ญาติแกพยายามเรียก แต่อากุนไม่ตื่นแล้ว แกหลับไปแล้ว แกหมดทุกข์ไปแล้ว

แกไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ ตั้งแต่เล็กจนโต ภาพแกในความคิดก็ไม่เคยหาย ไม่มีโอกาสได้ไปงานศพแก เนื่องจากรู้ข่าวสายไป ได้แต่ไปทำบุญ อุทิศส่วนกุศลให้แก

อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวข้องซักเท่าไร ระหว่างไอฟัก กับอากุน แต่มโนภาพที่ทำให้ตะอ๊อดเห็นเหมือนกันคือ การถูกคนใกล้ตัวที่เรารักหักหลัง มันก็อาจจะทำให้ชีวิตเราถึงจุดเปลี่ยน เพราะถ้าเราไม่เข้มแข็งพอเราอาจจะไมยอมยืน เดิน ในทางที่ถูกที่ควร 

ไอฟัก และ อากุน ต่างเลือกที่จะใช้เหล้าในการปลอบประโลมตัวเอง ทั้งๆ ที่จริงแล้วมันไมไ่ด้ช่วยให้วิถีการดำเนินชีวิตเราดีขึ้นแม้แต่น้อย หากแต่เรามีสติยืนหยัดอยู่กับสังคมด้วยจิตใจที่แน่วแท้ วันนี้ ไอฟัก กับ อากุน อาจจะยังมีชีวิตโลดแล่นอยู่ในสังคม

สุดท้ายนี้ ขอไว้อาลัยแด่ไอฟัก ตัวละครในดวงใจ และอากุน ชายผู้พ่ายแพ้ต่อชะตาชีวิต

 

หมายเลขบันทึก: 555197เขียนเมื่อ 3 ธันวาคม 2013 10:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 ธันวาคม 2013 10:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีครับ คุณมะตะอ็อด

ไอ้ฟัก จาก คำพิพากษา อ่านจบครั้งแรกเมื่อตอนอยู่มัธยมปลาย ผมเองได้บันทึกไว้บนปกใน ด้วยอารมณ์โกรธสังคมที่รังแกฟัก ด้วยอารมณ์ร่วมกับหนังสือเล่มนี้

ตอนนี้ยังไม่กลับไปอ่านอีก...ด้วยไม่อยากจะมีอารมณ์แบบนั้นอีก หรือว่า...

@ มะตะอ๊อด ...ใช่ค่ะ..เหล้าไม่ได้ช่วยอะไร ทางออกที่สร้างสรรค์มีมากมาย

@ พ.แจ่มจำรัส ..ดิฉันก็ไม่แน่ใจนะว่า เมื่ื่อเวลาผ่านไป หนังสือเล่มเดิมอาจให้ความคิดใหม่ๆ ได้ในอีกมุมหนึ่ง

พ.แจ่มจำรัส ตะอ๊อดอ่านสมัยเรียนมหาวิทยาลัยฯ ค่ะ ชอบมาก พอใครถมถึงหนังสือที่ชอบ มักจะมีเรื่องนี้เข้ามาอยู่ด้วยเสมอค่ะ และก็กำลังจะพยายามตามหาต่อไปว่าหนังสือไปซ่อนอยู่ที่ไหนในบ้านพี่สาว ^^ แต่คาดว่า น่าจะได้ไปหาซื้อมาไว้มากกว่าไปตามหา...

เกศินี จุฑาวิจิตร ใช่ค่ะอาจารย์ แต่ในบางมุม สังคมของคนบางคนเป็นสังคมเล็กๆ มองเห็นก็แต่ขวดเหล้ามาตั้งแต่เกิด เหมือนถูกปลูกฝังมาตั้งแต่ต้นว่า สุขก็กินเหล้า ทุกข์ก็กินเหล้า เห็นกันมาตั้งแต่ยุคก่อนๆ ในสังคมชนบทเหล้าขาวจึงเป็นตัวแทนแห่งความเมามายที่ผู้คนในสังคมไมไ่ด้รู้สึกผิดเมือ่กินมัน เพราะมันแทบจะแยกกันไม่ออกว่าอันไหนคือน้ำเปล่า อันไหนคือเหล้าขาว // ตะอ๊อดเห็นพ่อกินเหล้ามาตั้งแต่เด็กๆ เมามาก็ทะเลาะกับแม่ อ๊วกเต็มบ้าน สร่างเมาก็ทำงาน เมามาก็ทะเลาะกับแม่ เพราะในบ้านป่า ชุมชนเล็กๆ ไฟฟ้าไม่เข้า ทีวีก็ไม่ให้ดู ห้างร้านอะไรก็ไม่มีๆ ก็แต่ร้านขายของชำเล็กๆ ที่เดินเข้าไปทีไรก็เห็นไอเจ้าขวดเหล้าขาวตั้งล่อตาล่อใจบรรดาขาเมา คนตังค์น้อยก็กินเป็นเป๊ก มีขึ้นมาอีกนิดก็เท่าขวดเอ็ม เพิ่มตั้งค์อีกหน่อยก็ได้ครึ่งขวด ถ้าเป็นงานใหญ่ๆ ก็จัดไปขวดนึง

ชอบครับ..เล่มนี้สมเป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลซีไรต์..เป็นหนังสือที่ยิ่งอ่านยิ่งทำให้เข้าในสังคมมากขึ้น..รู้สึกโตขึ้นทุกที่อ่านจบ

ใช่ค่ะ... อ่านแล้วทำความเข้าใจ เราจะเข้าใจชีวิตมากขึ้น ^^

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท