ดวงประทีปแห่งเเรงบันดาลใจ ๑๓


จะสามารถมี “ความสุขกับตนเองได้ยังไง และคนรอบข้างจะมีความสุขกับเราได้ยังไง” นั่นล่ะเป็นสิ่งที่เราควรถามตนเองอยู่เป็นประจำ...

ระบายใจ

 

  

          ความทุกข์ที่เราประสบผ่านเข้ามาในชีวิตจนทำให้เราเองหลายที่จนชาชิน กับความทุกข์และความไม่สบายใจ  คนที่สามารถปรับตนเองได้กับความทุกข์เหล่านั้นให้กลายเป็นความสุขได้  การมีความสุขอยู่บนความทุกข์ได้ในหลายๆเรื่องราวอาจมีน้อยคนนักที่จะสามารถปรับใจจากความทุกข์ให้กลายเป็นความสุขได้ง่าย   ถ้าเราทุกคนลองคิดดูดีดีแล้ว “ทุกสิ่งจะมีแต่ความทุกข์” ทุกสิ่งในโลกนี้ก็มีแต่ความทุกข์   ความรู้สึกต่างๆก็มีแต่ความทุกข์   ความรักต่างๆเราก็มีแต่ความทุกข์  ความคิดต่างๆเราก็มีแต่ความทุกข์  ไม่มีความสุขในโลกนี้  แต่เราสร้างความสุขในโลกนี้ขึ้นมาด้วยตนเองโดยการปรับใจเข้าหาความทุกข์ให้สามารถกลายเป็นความสุขได้  แต่การที่เราจะสามารถปรับใจให้กลายเป็นความสุขได้นั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างละเอียดอ่อนเพราะสิ่งนี้ คือ “การปรับใจ” ซึ่งความคิดของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วการควบคุมใจของตนเองนั้นหลายๆคนสามารถทำได้ยากมาก  หลายๆคนที่มีความทุกข์โดยเฉพาะวัยรุ่นซึ่งเป็นวัยแห่งช่วงของการเปลี่ยนแปลงที่มีอารมณ์ค่อนข้างเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยที่ในยามที่ช่วงวัยนี้มีความทุกข์ จะเป็นความรู้สึกที่ค่อนข้างลึกและไม่ได้คิดอย่างถี่ถ้วน หรือ ไม่ค่อยคิดรอบคอบในการทำสิ่งต่างๆ เมื่อสิ่งนั้นไม่ได้ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ก็จะมักระบายสิ่งที่ไม่สบายใจนั้นออกไปเพื่อให้ตนจะได้ผ่อนคลาย และไม่ใช่แค่เพียงวัยรุ่นเท่านั้นที่จะเป็นแบบนี้ วัยอื่นๆก็เช่นกัน เมื่อมีความทุกข์เก็บไว้ก็ต้องระบายออกเป็นธรรมดา ถ้าเก็บไว้กับตนเองก็จะทำให้ตนเอง “เก็บกด” เสียเปล่าๆ แล้วจะทำให้เสียสุขภาพจิตของตนเองในที่สุด หลายๆคนเชื่อว่า เมื่อได้ระบายออกมาแล้วจะทำให้ตนเองรู้สะบายใจ แล้วเมื่อได้พูดคุยกับเพื่อนๆ  กับน้องๆ  กับพี่ๆ  กับพ่อแม่ จะสบายใจขึ้นมากกว่าการคุยอยู่คนเดียว อีกทั้งในยุคนี้สังคมออนไลน์เข้ามาอย่างแพร่หลายและเข้าถึง  วัยรุ่นหลายคนใช้ช่องทางนี้ในการระบายใจให้คนเพื่อนได้รับรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตนเอง “แต่ทำไมล่ะ ต้องระบาย” เป็นเพราะความรู้สึกของคนธรรมดาอย่างเราๆคงมีข้อจำกัดในเรื่องของอารมณ์โดยที่เมื่อมีเรื่องทุกข์มากๆ เราก็จะระบายความทุกข์นั้นออกมาผ่านช่องทางที่เราคิดว่าเราสะบายใจที่สุด ผ่านเพื่อนๆ ให้เพื่อนได้รับรู้ทั้งทางการพูดคุยโดยตรงและทางสังคมออนไลน์ “เพราะอะไรล่ะ  ต้องระบายกับเพื่อนๆ” เพราะเราเชื่อว่าเพื่อนจะให้คำปรึกษาเราได้ดี และการปรึกษาเพื่อนๆ ไม่ต้องคิดมากเหมือนกับการปรึกษาผู้หลักผู้ใหญ่ แล้วมนุษย์ส่วนใหญ่นั้นมีแนวคิดเป็นสัตว์สังคมที่ต้องอยู่กับสังคม เมื่อได้ระบายสิ่งที่มีความทุกข์นี้ไปให้เราอื่นๆได้รับรู้แล้วตนเองจะรู้สึกสะบายใจและวางใจจากเรื่องร้ายๆที่เราเองได้คิด  แต่การปรึกษาเพื่อนและปรึกษาคนอื่นๆอาจไม่ได้ผลในอีกหลายๆคน ซึ่งหลายคนในที่นี้ต้องการความเป็นส่วนตัว  ต้องการที่จะอยู่คนเดียว  ต้องการปรับใจอยู่กับตัวเองสักระยะ โดยการพูดกับตนเอง  โดยการร้องไห้  โดยการร้องเพลง  โดยการไปเที่ยว  โดยการไปทำบุญ เข้าวัดปฏิบัติธรรม ซึ่งการกระทำเหล่านี้เชื่อว่าทุกคนส่วนใหญ่เคยกระทำ  เคยร้องไห้  เคยพูดกับตนเองอยู่เป็นประจำ  การร้องไห้เป็นสิ่งที่ดี เมื่อเรามีความทุกข์ต่างๆแนะนำให้ร้องออกมาให้มากที่สุดแล้วหลังจากร้องไห้เสร็จเราจะรู้สึกว่า เรารู้สึกดีขึ้น แล้วแนะนำให้เมื่อหายจากการเศร้าแล้วให้เข้ามาปรึกษาคนที่เราสามารถปรึกษาได้แล้วอย่าลืมปรึกษาตนเองให้ดีด้วยการคุยกับตนเอง ด้วยตนเอง   การระบายใจเป็นสิ่งที่ไม่มีถูกไม่มีผิด เพราะอยู่ที่ความคิดของแต่ละคน  การระบายใจเป็นสิ่งที่ดีกว่าการเก็บไว้ให้ตนเองไม่สะบายใจไปเสียเปล่าๆ  การเก็บความรู้สึกไว้บางครั้งเป็นสิ่งที่ดี  เช่น  เรารู้สึกเช่นนี้ เราไม่สามารถบอกเพื่อนๆได้เพราะเมื่อได้บอกไปแล้วนั้นจะทำให้เกิดการไม่เข้าใจกันครั้งยิ่งใหญ่  แต่ถ้าเป็นความทุกข์ที่ควรระบายใจออกมาจริงๆ ก็ให้ระบายออกมาได้ เพราะมีแต่ตนเองเท่านั้นที่จะอยู่กับตนเองได้ในตลอดชีวิต  เมื่อเราเกิดความไม่สะบายใจ พอเก็บไว้นานๆ สักวันความรู้สึกที่ถูกเก็บไว้นานๆนั้นอาจทำให้เราเปลี่ยนแปลงกลายเป็นคนละคนเลยก็เป็นได้   แต่เมื่อเราประสบความความกดดันมากๆ   ความทุกข์มากๆ  ความไม่สะบายใจมากๆ  ก็ให้ระบายออกมา  ระบายออกมาในช่องทางที่เราเองคิดว่าจะทำให้ตนเองสบายใจมากขึ้น อาจผ่านช่องทาง การพูดคุย  สังคมออนไลน์  ร้องไห้  ร้องเพลง  ไปเที่ยว  ไปปฏิบัติธรรม  แต่เมื่อเราระบายออกมาแล้วเราจะรู้สึกสะบายใจได้ แล้วลองปรึกษาคนที่ควรปรึกษาได้แล้วอย่างลืมพูดกับตนเอง  ปรึกษาตนเองให้ดี เพราะ “มีแต่ตนเองเท่านั้นที่จะอยู่กับตนเองได้ในตลอดชีวิต” ความทุกข์ต่างๆในโลกนี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง  ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถปรับใจจากความทุกข์ให้กลายเป็นความสุขได้อย่างไร  จะสามารถมี  “ความสุขกับตนเองได้ยังไง  และคนรอบข้างจะมีความสุขกับเราได้ยังไง” นั่นล่ะเป็นสิ่งที่เราควรถามตนเองอยู่เป็นประจำ...     

 

 

**ขอขอบคุณภาพสวยๆจาก .... writer.dek-d.com

หมายเลขบันทึก: 554961เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2013 20:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2013 20:21 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ทึ่งมากกับบันทึกนี้อีกเช่นเคยค่ะ

ปกติพี่มีเวลาน้อยนิด ยาวๆ แบบนี้อ่านไม่ค่อยจบค่ะ

แต่ก็ติดพันกับบันทึกนี้นะคะ

เอ้อ .....น่าจะรวมเล่มเล็กๆ ได้อยู่นะคะ

อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจครับ ขอบคุณมากครับ

ขอขอบคุณมากๆ... สำหรับคำติชมข้างต้นครับ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท