ละครใจ
สิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราอยู่ในทุกๆวัน สิ่งนั้นอาจเป็นบทบาทหน้าที่ที่เราทุกคนจะต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน ที่บางคนมีหน้าที่ที่ตนเองต้องรับผิดชอบมาก มีภาระมากในแต่ละวัน แต่ในอีกบางคนกลับมีภาระหน้าที่น้อยมากหรือไม่มีเลย อีกสิ่งหนึ่งที่คนเราทุกคนต่างกันก็อาจเป็นบทบาทหน้าที่ที่ตนเองได้รับผิดชอบ บางหน้าที่ที่ได้ทำ หลายคนจะมีความสุข แต่บางหน้าที่ได้อีกหลายคนได้รับผิดชอบเขากลับมีความทุกข์ “แต่ทำไมล่ะบางหน้าที่เขาถึงมีความสุข และบางหน้าที่เขาถึงไม่มีความสุข” อาจเป็นเพียงเพราะ “ใจ” หน้าที่ที่มีความสุขเป็นเพราะเราได้เอาใจเข้าใจ และหน้าที่ที่ไม่มีความสุขเป็นเพราะเขาไม่ได้เอาใจใส่...แต่หากเป็นเพราะใจ เราอย่าลืมไปว่าใจของคนเราแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ใจเดียว หลายใจ ความชอบ ความถนัดต่างกันไป ลองสังเกตตัวเองได้ง่ายๆว่า “ทำไมเราทำงานนี้แล้วเราไม่มีความสุข” และ “ทำไมเมื่อเราได้ทำงานนี้แล้วเรามีความสุข” ซึ่งคำตอบต่างๆนานานั้นอยู่ที่แก่นกลางใจของตนเองเท่านั้นที่จะสามารถตอบตนเองได้ ความรักความชอบในบทบาทหน้าที่นั้นจึงเป็นต่างกันไป ตามใจของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน “เราไม่สามารถบังคับจิตใจคนได้ เราไม่สามารถซื้อจิตใจของคนเราได้” เพราะจิตใจนี้อยู่ภายในแก่นกลางใจ ที่สิ่งอื่นๆเป็นเพียงสิ่งเร้า มาทำให้ใจเราคล้อยตามเพียงเท่านั้น ถ้าใจเราไม่คล้อยตามในทางที่ไม่ดี ไม่ควรเสียอย่าง สิ่งเร้านั้นจะไร้ค่าโดยทันใด ฉะนั้นคำตอบอยู่ที่ใจ ความสุขอยู่ที่ใจ เพราะถึงแม้ว่าในบางครั้งเราจะถูกคำพูดหยามหยัน ในชีวิตจริง แต่เรามีความสุขได้ นั่นล่ะก็อาจเป็น “ใจ” เท่านั้นที่กำหนด ทุกสิ่งอยู่ที่ใจเรากำหนด ไม่ได้อยู่ที่ฟ้ากำหนด ไม่ได้อยู่ที่ใครกำหนด มีแต่เราเองเท่านั้นที่จะสามารถกำหนดชะตาชีวิตลิขิตใจตนเองได้
เราทุกๆคนนั้นตลอดช่วงเวลาของชีวิตคงจะผ่านเรื่องราวของความทุกข์ ความสุข ความสบายใจ ความไม่สบายใจ ความกดดัน ความเกรงใจ ต่างๆนานาที่ผ่านเข้ามาในชีวิตมากมาย ในเวลาวันเกิดตนเองเรามีความสุข ในเวลาที่ได้เลื่อนฐานะเรามีความสุข เวลาที่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเราเศร้าโศกเสียใจ เวลาที่ไม่ได้ดั่งใจบางครั้งเราก็อาจมีความทุกข์ ซึ่งในห้วงของความรู้สึกเหล่านั้นก็เหมือนกับ “กราฟ” ที่มีขึ้นมีลง มีสุขก็ต้องมีทุกข์เป็นธรรมดา แต่จงอย่าไปจมกับความรู้สึกเหล่านั้นให้มากนัก เพราะเมื่อถ้าเราจมกับความรู้สึกเหล่านั้นมากๆเราจะขึ้นอยู่ในภวังค์เดิมที่เราเคยอยู่นั้นค่อนข้างยากหรือ “กลับมาเป็นคนเดิมได้ยาก” ให้เรียนรู้ที่จะอยู่กับความรู้สึกไปเรื่อยๆ และเผื่อใจไปเรื่อยๆ ให้คิดว่าสักวันสิ่งนั้นย่อมเกิดได้ แต่อย่าไปกระวนกระวายกับสิ่งที่ตนเองคิด... คิดทบทวนในใจตนเองเสมอว่าชีวิตคนเรามีขึ้นมีลง เหมือนกราฟ หรือ พาราโบลา... สิ่งที่เราดำเนินอยู่ในทุกๆวัน ใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในทุกๆวัน เราคงหนีไม่พ้นกับห้วงของความรู้สึกต่างๆที่คอยมาเร้าอยู่ตลอดเวลา เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเราจะไม่มีความทุกข์ในชีวิต และเราไม่สามารถกำหนดได้ว่าสิ่งต่างๆที่จะเข้ามาหาตัวเราที่จะมาคอยทำให้เรามีความทุกข์นั้นเป็นอย่างไร ชีวิตคนเราก็เหมือนกับละคร แต่ละครเรื่องนี้เป็นตัวจริง เราแสดงจริง ที่อยู่ในชีวิตจริง ละครเรื่องนี้มีตัวละครเยอะที่สุดกว่าละครเรื่องใดใดที่เราเคยเห็นมา และความรู้สึกนานา เป็นความรู้สึกที่ยิ่งใหญ่กว่าละครเรื่องใดใดหลายร้อยเท่า อาจมีย้ำพูดเล่นๆคอยย้ำเตือนเราอยู่สเมอว่า “ชีวิตจริง คือ ละครใจ” ที่มีเรื่องราวต่างๆ ห้วงความรู้สึกต่างๆมาให้เราได้คิดอยู่ในตลอดเวลา... แต่จงเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งนั้น จงเรียนรู้ที่จะอยู่กับห้วงความรู้สึกนั้น ด้วยตนเอง แต่อย่าไปจมกับความรู้สึกที่ตนเองเป็นผู้ก่อขึ้น ให้เรียนรู้ไปเรื่อยๆ ให้มองไปเรื่อยๆ มองตนเองอยู่เรื่อยๆ ละครชีวิตเรื่องนี้ยืดยาวมาก มากจริงๆ เราเป็นตัวเอกของละคร เราเป็นผู้กำกับละคร และเราเป็นผู้อำนวยการผลิตละคร ชีวิตเรานี้ เราสามารถลิขิตเองได้ ไม่มีใครกำหนดและเราไม่สามารถกำหนดใจของใครได้ ชีวิตที่เราลิขิตเองจะทำให้เราเป็นอีกบทบาท คือ ผู้กำกับละครชีวิตเรื่องนี้ แต่กว่าจะถึงบทบาทของการกำกับชีวิตนั้นเราจะต้องเริ่มเรียนรู้ละครใจ และเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ๆ จนกระทั่งสามารถกำกับละครเองได้ สิ่งที่กำหนดมิใช่ฟ้าอีกต่อไป แต่มีเพียงใจเราเท่านั้นที่ลิขิตเอง...
ขอขอบคุณภาพสวยๆจาก... board.postjung.com
“ใจ” เท่านั้นที่กำหนด ทุกสิ่งอยู่ที่ใจเรากำหนด ไม่ได้อยู่ที่ฟ้ากำหนด ไม่ได้อยู่ที่ใครกำหนด มีแต่เราเองเท่านั้นที่จะสามารถกำหนดชะตาชีวิตลิขิตใจตนเองได้...
ผมชอบถ้อยคำข้างบนมากครับ
ขอบคุณนะครับ
ขอขอบคุณมากๆ... สำหรับคำติชมข้างต้นครับ...