ลืมไปหรือเปล่า....ว่าเคยรักกัน


ความสุขสามารถสร้างได้ โดยไม่ต้องทำร้ายกัน

วันนี้ วันที่ 25 พฤศจิกายน องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็น วันต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีสากล หรือ Stop Violence Against Women's Day ซึ่งเป็นวันที่มีการร่วมรณรงค์แสดงพลังไม่ยอมรับ ไม่ยินดี กับความรุนแรงกับสตรี โดยเฉพาะการเกิดความรุนแรงในครอบครัว  ด้วยการทำสัญลักษณ์รอยช้ำใต้ตาโดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ในการเป็นทูตสันถวไมตรีให้กับกองทุนการพัฒนาเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติในการต่อต้านความรุนแรงต่อผู้หญิง (UNIFEM) ในโครงการ Say NO to Violence Against Women  นอกจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  กระทรวงยุติธรรม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) มูลนิธิเพื่อนหญิง และเครือข่ายยุติความรุนแรงต่อผู้หญิง ยังได้รวมพลังในการสร้างค่านิยม “ไม่เพิกเฉย” ต่อความรุนแรง และมีการดำเนินโครงการรณรงค์ “หนึ่งเสียง หยุดความรุนแรงต่อผู้หญิง” ร่วมด้วย

จะเห็นได้ว่า ความรุนแรงในครอบครัวไม่ใช่เป็นภัยที่ผู้หญิงพบเจอเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนในครอบครัวนั้นอีกด้วย  จากข่าวในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อความจริงเริ่มคลี่คลายทำให้หลายคนแทบคาดไม่ถึง เพราะในกรณีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งของการเกิดความรุนแรงในครอบครัวเช่นกัน แต่ผลกระทบกลับส่งผลต่อเด็กอย่างชัดเจน เมื่อเด็กไม่มีคุณพ่อที่รัก ย่อมเหมือนขาดความอบอุ่นและความรักจากพ่อเหมือนเช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องอดทนต่อความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นจนถึงที่สุด เพราะสามารถแจ้งความ สามารถร้องขอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ช่วยเหลือ โดยพบว่าความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัวจาก รายงานสรุปจำนวนเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว พบว่าการให้บริการของศูนย์พึ่งได้ในโรงพยาบาลสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปี 2554 พบว่า มีจำนวนถึง 22,565 รายที่มาเข้ารับบริการ เฉลี่ยวันละ 62 ราย หรือทุกชั่วโมงจะมีเด็กและสตรีถูกกระทำความรุนแรง 3 ราย  (http://www.women-family.go.th) หากมองย้อนกลับไปความรุนแรงที่เกิดขึ้นในครอบครัวนั้น มักเกิดขึ้นกับคนที่เคยรักกันมาก่อนแทบทั้งสิ้น เพราะรักกันจึงแต่งงานกัน จึงมาอยู่ร่วมกันในครอบครัว  หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำร้ายกันในวันนี้ควรใช้ สติและปัญญา นึกถึงวันที่เคยรักกัน คิดถึงวันที่ดี สำหรับผู้หญิงความอดทนไม่ได้แก้ปัญหาทุกอย่างที่เกิดขึ้น หากอดทนไม่ได้ ก็ไม่จำเป็นต้องทน เพราะความอดทนของผู้หญิงมักกลายเป็นชนวนในการตอบโต้ที่รุนแรงกว่ากับฝ่ายชาย  แนวทางในการแก้ไขที่ดีนั่นคือ ทั้งสองฝ่ายควรหาทางแก้ไขปัญหาที่สามารถจะดำเนินชีวิตร่วมกันต่อไปได้ในแบบฉบับของแต่ละครอบครัว โดยสามารถมอบความรักและประคับประครองลูกให้เติบโต โดยทั้งพ่อแม่ และลูกไม่ทุกข์หนักจนเกินไป และมีความสุขแบบพอดี ความสุขสามารถสร้างได้ โดยไม่ต้องทำร้ายกัน  ซึ่งนั่นก็จะเป็นการช่วยลดการสูญเสียที่รุนแรง และอาจจะนำมาซึ่งการเกิดขึ้นโศกนาฏกกรรมที่น่าเศร้าที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดอีกด้วย

ในวันนี้ แม้ว่าจะมีการเรียกร้องเกี่ยวกับการเมือง การปกครองจากหลายฝ่าย ทำให้วันต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีสากล ดูเงียบเหงาไป แต่หากใครพบเห็นความรุนแรงในครอบครัว โปรดอย่าเพิกเฉยที่จะช่วยเหลือเพราะอาจจะมีเด็กน้อยอีกหลายคนที่กำลังรอคอยพ่อแม่ของเขาอยู่นะค่ะ

 

#womenagainstabuse

#วันต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีสากล

 

Stop Violence Against Women′s Day
ภาพน่ารักๆ จาก https://www.facebook.com/happyfanpage

 

หมายเลขบันทึก: 554525เขียนเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2013 15:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2013 15:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

มาร่วมรณรงค์ยุติความรุนแรงทั้งจากในครอบครัว และสังคมค่ะ

...ช่วยกันรณรงค์ ... เรื่องที่สำคัญนี้นะคะ ...ขอบคุณบันทึกดีดีนี้ค่ะ

มาช่วยกันสร้างสิ่งดีให้สังคมครับอาจารย์

เย้ๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท