"ต้นกล้าจิตแจ่มใสฯ" หนูได้เห็นอะไร ผ่านไปแล้ว 9 สัปดาห์
ผ่านๆไปแล้ว 9 อาทิตย์
ได้เห็น แม่ครูกะปุุ๋ม ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ประคับประคอง เกื้อกูล เด็ก ๆ ในโครงการแบบเต็มกำลัง
หลายอาทิตย์ ที่เหลือแม่ครูกะปุ๋ม พาทำกระบวนการเพียงคนเดียวท่านก็ทำ
สำหรับหนูเองทำหน้าที่อะไร ก็อำนวยความสะดวก ที่หลับที่นอน จัดที่นั่งที่ลานธรรม
เป็นเพียงแค่ ติ่งเล็ก ๆ ช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ได้เห็นพัฒนาการของเด็ก ๆ จากความแก่นเซี้ยว ตามวัย
ทุกคนถูกพัฒนาตามศักยภาพที่มีของตนเอง และยังคงความสดใส
พอมารวมกัน เด็ก ๆ คือ ความยิ่งใหญ่ที่ "ทรงพลัง"
เด็กๆเติบโต รู้กาละเทศะ รู้ว่าเวลาไหน ทำอะไรได้บ้าง คนมาประจำรู้จักบอกเพื่อนที่มาใหม่
เริ่มต้นเรื่องที่หลับที่นอน หนูยังจัดการไไม่ได้เรื่อง แม่ครูเมตตามาวางระบบให้ จนปัจจุบันนี้
สำหรับใจหนูเองรู้สึกว่า "ลงตัว"
มีตำแหน่งที่ตั้ง เด็ก ๆ แม่ขาวน้อย ก็รู้หน้าที่ว่า
ตื่นแล้วก็ช่วยเก็บที่นอน ถุงนอน เสื่อหมอนเข้าที่"
จากเดิมที่หนูต้องปลีกเวลามาทำช่วงกลางวัน ก็สามารถ เก็บให้เรียบร้อยได้ก่อนออกไปศาลา 4
เพราะระบบที่ดี ที่แม่ครูวางไว้ให้ ทำให้ทุกคนใช้ชีวิตแบบคล่องแคล่ว หนูเองก็มีเวลาได้ทำในส่วนอื่นและไม่กังวล
หรือแม้กระทั่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ใจหนูเองก็ ไม่ดิ้นรน
พร้อมที่จะ "หาทาง ให้เป็นไปตามที่เเม่ครู ชี้ให้ทำ"
สิ่งที่รู้สึกว่า ได้กับตนเองคือ การจัดการ เรื่่องที่หลับที่นอน
อีกเรื่อง แม้จะยังไม่คลิ๊กกับตนเอง แต่ก็ค่อย ๆ ขยับพัฒนา คือ เรื่อง อาหาร แม้จะทำได้บ้าง แต่ใจก็ยังไม่ค่อยนิ่งเย็น ยังร้อนรนอยู่
แต่ก็ได้เห็นพัฒนาการแม้จะยังเตาะแตะ
ครูยังเปิดโอกาสให้พ่อ แม่ ผู้ปกครองได้เข้ามาพักภาวนาในสำนักแม่ชี เตรียมที่ภาวนาเป็นกระต๊อบ ๆ พร้อมมุ้งกลด
และให้ทำจงกรมไว้พร้อมเดินภาวนา ตามสะดวก เป็นพื้นที่ ๆ อบอุ่น
ที่ผู้ปกครองมาแล้วก็รู้สึกเหมือนได้พักใจ อิ่มใจทุกครั้งที่ได้มา
เรื่องการมาวัด แม้หลายอาทิตย์จะเป๋ ๆ แต่ครูก็เมตตาจับมือไว้
อาทิตย์นี้จากที่จะมาวันเสาร์ ก็เอาชนะกิเลสตนเองได้จนมาถึงวัดวันศุกร์แม้จะมืด แต่ก็ถือว่า พอใช้ได้
กลางเดือนธันวาคม มีเรื่องการเดินทางไปดูงาน 1 อาทิตย์ที่จีน มาหลอกล่อ
โจทย์นี้ ทำอยู่สองอาทิตย์กว่าจะลงใจ และได้ทางออก
และการเดินทางไป นนทบุรี สามวันที่ผ่านมา เป็นวิถีชีวิตที่ได้เช็คซ้ำกับตนเองว่า
"เรื่องไปจีน ไม่ได้กระทบใจแล้ว รอดอีกครา"
ตัวล่อดูจะ หน้าตาดีขึ้นเรื่อย ๆ ให้ได้เรียนรู้ นี่ซินะครูเมตตาให้ฝึกใช้ปัญญา
เพราะต้นทุนที่ผ่านมาครูเมตตาชี้ ให้เห็นและได้ฝึกเลยพอจะประคองตนเองได้บ้าง
ถ้าครูไม่เมตตา ก็คงเตลิดไปทั่วทุกข์สารทิศ ไร้ที่ยึดเหนี่ยวกับตนเอง
การมาของเด็ก ๆ ทำให้หนูได้เห็นความสดใส มีชีวิตชีวาของพวกเขา
เห็นความเมตตาที่ไร้ขีดจำกัดของแม่ครูกะปุ๋ม ทำให้ได้เห็นต้นแบบที่ทำให้ใจหนูระลึกถึงคำว่า
"เมตตาไม่มีประมาณ ที่ลึกซึ้งเข้าไปอีก"
เพราะทุกห้วงของชีวิตที่ได้เห็นท่าน ไม่มีครั้งไหนที่ท่านไม่เมตตา
ทุก ๆลมหายใจของครู เป็นการเพียร เสียสละเพื่อผู้อื่น
เกื้อกูล กัลยาณมิตร แบบสุดใจ สุดชีวิต ยิ่งได้เห็น ได้ใกล้ชิด ยิ่งรับรู้ว่า ครูกะปุ๋มงามไร้ที่ติ โครงการนี้ เหมือนเป็นโครงการที่เข้ามา สะท้อนใจ ที่เปี่ยมล้นด้วยความ เมตตา กรุณา ของครู ที่พร้อมจะโอบอุ้มทุกสรรพสิ่งที่เข้ามาสัมพันธ์กับครู ขอบพระคุณทุกความงดงาม ขอบพระคุณครูที่เมตตาให้ได้เรียนรู้ได้เห็น "ต้นแบบแห่งความดี ในวิถีพุทธรรม" อนุโมทนาสาธุเจ้าค่ะ
สาธุๆๆครับ
ชื่นชมการทำงานมากๆๆ