สืบเนื่องจากปีการศึกษา2556 ฝ่ายทะเบียนได้คัดเกรดเด็กนักเรียน เด็กที่เรียนเก่งจะอยู่ห้องต้นๆ โดยเฉพาะห้อง1กดดันในการเรียนมาก เด็กที่ถูกค้ดขึ้นมาไม่กล้าแสดงออก จับตัวกันเป็นกระจุก เสียงหัวเราะแทบไม่มีเลย ห้องที่เรียนแบบสบายๆคือห้อง2-4 ส่วนห้องรวมดาวคือห้อง 5-7
ในฐานะครูที่ปรึกษาห้องหนึ่ง เมื่อเด็กๆปรึกษาว่าคุณครูค่ะห้องพวกเราไม่สามัคคีกันค่ะ พวกหนูจะทำอย่างไรดีค่ะ...ได้เสนอแนะให้พวกเขาก็จัดกิจกรรมเพื่อนกันฉันและเธอ เมื่อพวกเขาเปิดใจให้กันมีทั้งรอยยิ้มและน้ำตา จากกิจกรรมเขาแอบมาบอกครูว่าครูค่ะพวกเรารักกันแล้วค่ะ
แต่ที่หนักสุดคือห้อง5-7เด็กชายไม่เข้าเรียน ถ้าเข้าเรียน(เพราะโดนครูบอกว่าไม่เข้าเรียนตาย..)เขาจะเข้าแล้วเล่นกันไม่มีสมาธิ ไม่สนใจในการเรียน เด็กหญิงที่ตั้งใจเรียน บอกว่าครูขาอย่าให้พวกนี้เข้าเรียนเลยค่ะ พวกหนูเรียนไม่รู้เรื่อง ส่วนเด็กหญิงอีกส่วนหนึ่งออกจากบ้านแล้วหนีเที่ยว ยอมรับหนักมาก แต่ไม่เลวร้ายเกินไปเมื่อเพื่อนครูเดินเข้ามาคุยว่าจะทำอย่างไร ครับพี่ ผมไม่ไหวแล้วครับ...มันไม่เข้าเรียนเลยได้โอกาสเสนอแนวความคิดว่า เปิดโรงเรียนเล็กในโรงเรียนใหญ่ดีไหม
สภาพห้องเรียน 3/7 จำนวน 40 คน เหลือแค่นี้
วงครูระดับ ม.3 จึงได้เกิดขึ้น ส่วนมากมองในแง่ลบ ไว้ก่อน แต่ในที่สุด ทุกคนก็ยอมรับจะบูรณาการให้เด็กพวกนี้เรียนตามอัธยาศัย โดยมีครูร่วมกระบวนการทั้งหมด 8 คน ครูแต่ละท่านยินดีเขียนกำหนดการสอนในภาพรวม วันจันทร์ ครูจารีต(การงาน) วันอังคาร ครูแมนกับครูต่าย(วิทย์) วันพุธ ครูกุ้ง(แนะแนว) วันพฤหัส ลูกๆฝึกประสบการณ์3คน และวันศุกร์ ตัวข้าพเจ้าเอง
พวกเราได้เชิญผู้ปกครองนักเรียนจำนวน 130 คน มาร่วมแก้ปัญหาทราบพฤติกรรมลูกๆและได้เสนอแนวความคิดห้องเรียนอัธยาศัยขึ้นมา รับความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครองที่ต้องการร่วมโรงเรียนเล็ก พบว่าเราได้นักเรียนตามความสมัครใจ 30 คน (ไหวไหมหนอ..เยอะเกินคาด คิดว่าจะได้ไม่ถึง20 คน)
ได้แต่หวังว่าโรงเรียนเล็กในโรงเรียนใหญ่ของเราจะประสบผลสำเร็จแน่นอนเพราะเด็กๆเขาบอกว่า "ครูคับตั้งชื่่อโรงเรียนเฮาว่าอีหยั่งคับ" ฮา..ความตระหนักเริ่มเกิดขึ้นแล้ว
เด็กๆ มีความสุขนะคะ ความสุขและสนุก เกิดการเรียนรู้ คู่การปฏิบัตินะคะ ขอบคุณนะคะ เขียนมาอีกนะคะ รออ่านค่ะ
มาชื่นชมการทำงานของพี่ครู
พัฒนาไปมากเลยครับ
สู้ๆๆครับ