ระบำควนคราบุรี" ควนคราบุรี " หมายถึง ชื่อเมืองจันทบุรี ตามหนังสืออักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทยกล่าวว่า มองซิเออร์
เอเตียนน์ เอ โมนิเออร์ (Etienne Aymonier) ได้เขียนเรื่องราวไว้ในหนังสือ " แคมโบช " (Le Cambodage) เมื่อ ค.ศ. ๑๙๐๑ มีบาทหลวงคนหนึ่งได้พบศิลาจารึกอักษรสันสกฤตที่บริเวณเขาสระบาป ( ปัจจุบันเขาสระบาปอยู่ในเขตอำเภอเมืองจังหวัด จันทบุรี ) มีข้อความว่าเมืองจันทบุรีได้ตั้งมาช้านาน ๑,๐๐๐ กว่าปีมาแล้ว ในเวลานั้นเรียกว่า " ควนคราบุรี" ผู้สร้างเมืองชื่อ หาง หรือแหง คนพื้นเมืองเป็นพวกชอง
อนึ่ง มีคำกล่าวกันว่า ไทยกับเขมรได้รบกันเมื่อ ค.ศ.๑๒๗๓ - ๑๓๙๓ ( พ.ศ. ๑๙๑๖ - ๑๙๓๖ ) เพื่อแย่งการครอบครองเมืองจันทบุรี ซึ่งบางทีเรียก จันทบุรี เขียนเป็นภาษาอังกฤษ CANDRAPURIการที่ CANDRAPURI ( คานคราบุรี ) กลายเป็น ควนคราบุรีไปนั้น สันนิษฐานว่าอาจเกิดจากการออกเสียงของภาษาไทยแล้วนำไปเขียนเป็นภาษาอังกฤษ หรือจากการฟัง ภาษาอังกฤษแล้วนำมาพูดภาษาไทย แนวความคิดในการประดิษฐ์ระบำควนคราบุรี เนื่องจากจังหวัดจันทบุรีได้รับอิทธิพลทางศิลปะจากขอม มีหลักฐานทางศิลปะ วัฒนธรรมของขอมเหลืออยู่ เช่น ซากกำแพงเมืองเก่า ศิลาแกะสลักเทวรูป ศิลาจารึก ภาษาขอมและภาษาขอม เป็นต้นภาษา
ความหมายของระบำควนคราบุรี ระบำควนคราบุรี สมมุติถึงการร่ายรำของชาย หญิงชาวควนคราบุรี แสดงความสนุกสนานรื่นเริงในงานนักขัตฤกษ์ต่าง ๆ โดยร่วมกลุ่มกันจับระบำรำฟ้อน
โอกาสที่ใช้แสดงระบำควนคราบุรี ระบำควนคราบุรีนั้นสามารถใช้แสดงได้หลายโอกาส แบ่งตามจุดประสงค์ได้ดังนี้
1. เป็นการแสดงให้เห็นถึงศิลปะของไทยผสมศิลปะขอม
2. เป็นการแสดงให้เห็นว่าจังหวัดจันทบุรีเป็นแหล่งอารยธรรมเก่าแก่แห่งหนึ่งของไทย
3. เพื่อให้แขกผู้มาเยือนหรือผู้อื่นรู้จักจังหวัดจันทบุรียิ่งขึ้น
4. เพื่อให้เกิดความบันเทิง
แนวคิดประดิษฐ์ การแต่งกายระบำควนคราบุรี การแต่งกายได้ประดิษฐ์ขึ้นโดยอาศัยศิลปะการแต่งกายของสมัยลพบุรี ซึ่งมี ลักษณะคล้ายคลึงกับศิลปะของขอมเป็นหลักมีส่วนที่ดัดแปลงบ้างเล็กน้อย สตรีสมัยลพบุรี ไม่สวมเสื้อ นุ่งผ้าให้ชายมาซ้อนกัน ตรงหน้าแล้วปล่อยชาย ผ้าออกสองข้าง ใส่กรองคอมีลวดลายเป็นแผ่นใหญ่ มีลวดลายสวยงามปลายทำด้วยเทริด ไม่นิยมใส่รองเท้า ชายสมัยลพบุรี ไม่สวมเสื้อ นิยมนุ่งผ้าสูงสั้นเหนือเข่า ทิ้งชายพกออกมาด้านนอกเป็นแผ่นใหญ่ คาดเข็มขัดมีลวดลาย ประดับ ใส่ต่างหูและกรองคอ การแต่งกายชุดควนคราบุรี หญิง ใส่เสื้อรัดคอ ( สมมุติว่าไม่สวมเสื้อ ) นุ่งผ้าชายซ้อนกันตรงหน้า ใส่กรองคอ ใส่ต่างหูคาดเข็มขัดขนาดใหญ่มีลวดลายสวยงาม รัดต้นแขน ใส่กำไลข้อมือและกำไลเท้า แต่งผมเกล้ามุ่นเป็นมวยตรงกลางศรีษะ มีเครื่องประดับศรีษะ
หมายเหตุ สำหรับผู้แสดงเป็นตัวเอก มีเครื่องแต่งกายและเครื่องประดับที่วิจิตรงดงามยิ่งขึ้น ชาย ไม่สวมเสื้อ นุ่งผ้าลักษณะโจงกระเบนสูงสั้นเหนือเข่า ทิ้งชายออกมาข้างนอก คาดเข็มขัด มีลวดลายประดับ ใส่ต่างหู กรองคอ รัดต้นแขน กำไลแขนและกำไลเท้า ดนตรี ใช้วงปี่พาทย์ไม้แข็ง หรือวงกระจับปี่ โดยเพลงดนตรีมีทำนองคล้ายของเขมร การแสดงชุดนี้ใช้ผู้แสด จำนวน ๙ คน ( ชาย ๔ คน หญิง ๔ คน และตัวเอกเป็นหญิง ๑ คน )
ไม่มีความเห็น