อยากเป็นเศรษฐี เขาทำอย่างไร ??

     

       คนเราเกิดช่างลำบาก เพราะกว่าจะเกิดเป็นคนหรือมนุษย์ ต้องกระทำความดีอย่างมาก สะสมบุญในการเกิดมาเป็นคน    เกิดมาแล้ว ก็ลำบาก เพราะต้องกระทำตน คอยรักษาตนเองให้ปลอดภัย จากสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเรา ทั้งโรคภัยไข้เจ็บ อันตรายจากการเดินทางบ้าง จากคนรอบข้างบ้าง  จะหาความแน่นอนอะไรเลยไม่ได้กับชีวิต  ดังนั้นเราจึงพึงตั้งตัว ด้วยสติ ตลอดเวลา 

 

      จุดมุ่งหมายแต่ละคนในการเสาะแสวงหาชีวิต มีความแตกต่าง    บ้างอยากดัง อยากรวย อยากสวย อยากเด่น  แต่ที่จะปฏิเสธไม่ได้เลย คือ อยากรวย อยากเป็นเศรษฐี     แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ   นั่ง ๆ นอน ๆ คิด  แล้วจะรวยหรือเปล่า ? อันนี้ก็ใช่ที่

 

     เคยได้ยิน พระพยอม ท่านให้คาถา คนขยันในโฆษณา กันมาบ้าง ขยันทำงาน 

     ได้อ่านบทธรรมะของท่าน ว.วชิรเมธี เรื่องหัวใจเศรษฐี  นับว่าน่าปฏิบัติตามยิ่งนัก จึงนำบางส่วนมาบอกต่อ เผื่อท่าน และเพื่อนกัลยาณมิตร จะได้ร่ำรวยทรัพทย์ กันบ้าง จะเป็นผลบุญอันยิ่งใหญ่  

 

     หลักธรรม หัวใจเศรษฐี มี 4 ประการ 

1.อุ มาจาก อุฎฐานสัมปทา แปลว่า ขยันหา  ไม่เกียจคร้าน  ใครขยันหามาก ก็ได้มาก คนขยันน้อยก็ได้น้อย เพราะเงินเป็นของกลาง ใครเดินเข้าไปหาก็เป็นของคนนั้น ไม่ได้ผูกขาดไว้ว่าเป็นของคนรวย  อันนี้ข้าพเจ้าก็ว่าจริง 

2.อา มาจาก อารักขสัมปทา แปลว่า รักษาดี เงินเข้ามา ก็ต้องรู้จักเก็บ รู้จักใช้ 

 

พระพุทธเจ้าท่านสอนการใช้เงินเป็นส่วน ๆ ดังนี้ 

- เก็บเป็นเงินสำรองคงคลัง เก็บไว้ก้อนหนึ่ง เผื่อเจ็บเผื่อไข้ เมื่อไม่สบายขึ้นมาก็ไปเบิกมารักษาตัว จะได้หาย เมื่อมีเงินสำรอง เราก็เกิดความมั่นคงทางใจ เมื่อเรามั่นคงทางใจแล้วก็มีความมั่นคงทางกาย คือ ครอบครัวอบอุ่น และมั่นคง ไม่เป็นทุกข์ เพราะไม่มีตังค์

- แบ่งเงินมาใช้กินด้วย เงินเป็นของสมมุติ ชีวิตมนุษย์เป็นของจริง เราต้องแบ่งมากินมาใช้ ให้เกิดประโยชน์ บำรุงร่างกาย ให้กินอิ่ม กินให้มีประโยชน์ อย่าใช้หมด ใช้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น 

- เอาเงินมาต่อเงิน หรือทำธุรกิจ คือให้รู้จักทำมาหากิน อย่าให้เกินกำลัง 

- รู้จักเสียภาษี คนเราเกิดมาในแผ่นดิน เราเป็นหนี้บุญคุณแผ่นดิน อย่าหลีกเลี่ยงภาษี เมื่อรวยแล้วให้แบ่งปัน

- บำรุงสมณชีพราหมณ์ เพราะท่านเป็นรักษาธรรมไว้ให้สังคม ให้สังคมอยู่เย็นเป็นสุข เพราะทุกคนเชื่อในบาป บุญ คุณโทษ

- อุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษผู้ล่วงลับไป เพราะคนที่ยังอยู่เราก็อุปการะ ผู้ที่ล่วงลับไป เราทำบุญอุทิศส่วนบุญไปให้

 

3.กะ มาจาก กัลยาณมิตตตา แปลว่า มีกัลยาณมิตร คือรู้จักคบคนดีเป็นเพื่อน เพราะเขาจะนำแต่สิ่งดี  ๆ มาสู่เรา 

หลีกเลี่ยง

- บาปมิตร คือ เพื่อนเลว เพื่อนชั่ว เพราะถ้าเราคบจะทำให้เราเสียทรัพย์  

- พันธมิตร คือ เพื่อนที่มาคบกับเราไม่จริงใจ หวังแต่หาผลประโยชน์กับเรา เมื่อขัดผลประโยชน์ก็คอยทะเลาะ ไม่ช่วยเหลือ

 

4.สะ มาจาก สมชีวิตา แปลว่า ใช้ชีวิตพอเพียง  คือทำอะไรแต่พอดีตัว อย่าทำเกินตัว ทำอะไรต้องมีเหตุผล ใช้แต่พอประมาณ  เดินทางสายกลาง 

 

  สรุป หัวใจเศรษฐี อุ อา กะ สะ คือ " ขยันหา รักษาดี มีกัลยาณมิตร ใช้ชีวิตพอเพียง "