เมื่อตอนไปธุระที่สตูล โรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์
แต่ผมไม่ได้เรียนจบจากพิมานนะครับ ผมเรียนจบกำแพงวิทยา แค่ไปธุระเฉยๆ
ธุระเสร็จลงจากอาคารเรียน ก้าวลงบันไดเห็นชายพอมีอายุคนหนึ่งนั่งคุยกับแม่บ้าน นั่งบนพื้นกันเลยทีเดียว ทีแรกนึกว่าเป็นภารโรงมาแอบกิ๊กแม่บ้าน
แต่เมื่อมาถึง มันใช่เลย มันใช่เลย! ใช่ป้าววว ตาฝาดมั้ยเนี๊ยะ
รองผอ.นี่หว่า อดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนเก่าผม แปลกใจทำไมแกเปลี่ยนไปมาก เซอร์จัง ทั้งที่แต่ก่อนดูเท่ๆอยู่แบบสำอางๆพูดจายียวนกวนประสาท ผมล่ะมันไส้แกจริงๆแต่ก่อน แกดูแลฝ่ายปกครอง เพื่อนผมโดนเชิญออกก็ฝีมือแกล้วนๆ บอกเลยว่าโหด เอากันแบบราบคาบกันเลยทีเดียว
เพื่อไม่ให้เสียมารยาทก็เข้าไปทัก จับไม่จับมือ คุยไปคุยมาผมจำแกได้ แกจำผมไม่ได้ _ _ ! แต่ผมก็ดีใจนะที่แกจำผมไม่ได้ ^^ คงเพราะแต่ก่อนแกไล่จับผมไม่เคยได้เลย ^^ นั่นสิ ก็แต่ก่อนแกสูงหัวอยู่เท่าๆจมูกผม มาตอนนี้ตัวแกสูงหัวอยู่เท่าหน้าอกผม หุ่นเท่าเดิมเลย^^ พูดไปพูดมาต่างคนก็ต่างงง แกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะจำได้นิดๆ
ผม : ผมถามแกไปว่า '' เป็นผอ.แล้วหรือครับตอนนี้ครู ก็นานแล้วนะ "
แกยิ้ม ยิ้มอย่างหน้าใส เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ยิ้มเหมือนคนแก่เห็นเด็กเล็กๆ แล้วยิ้มให้ รอยยิ้มที่นุ่มลึก รอยยิ้มที่บ่งบอกว่าเข้าใจโลกผ่านโลกมาเยอะแล้ว
ครู : ไม่เอาแล้ว พอได้แล้ว ครูแก่มามากแล้ว แค่นี้ก็บาปหนัก แบกไม่ไหว ภาระเยอะจัดการอะไรก็ได้ไม่มากแล้ว เด็กดื้อ เด็กอ่านหนังสือเรียนไม่ได้ ไม่เข้าเรื่อง ปัญหาวุ่นวายแค่นี้ก็ไม่รู้จะแบกรับและตอบกับคนอื่นเขายังไง เอานี้ให้ได้ก่อน ให้ดีก่อน
ผม : แล้วเพื่อนครูตอนนี้เป็นถึงที่ปรึกษารองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ แล้วเขาไม่เลื่อนตำแหน่งให้เหรอครู เบอะเพื่อนกันเบอะ แปลกจังครู
ครู : ครูว่าครูพอได้แล้ว แค่นี้แหละพอแล้ว ไม่ต้องการไรแล้ว จัดการของวันนี้ให้ดีให้ได้ก่อน ใครจะเอาตำแหน่งไรเอาไป ไอ้นัน(ที่ปรึกษาปลัดกระทรวง)มันก็ให้เอาหลายครั้งแล้วตำแหน่งผอ.โรงนั้นโรงนี้ แต่ครูบอกว่า อย่าเหลยแหละเพื่อน พอแล้วต่ะ ขอบใจหว่ะ
" เรียนๆแล้วตั้งใจทำงานไปเน้อบ่าว" คำครูทิ้งท้าย พูดกันจบเราก็จากลากัน
ผมยังงงอยู่ไม่หาย ปิดเทอมแล้ว แล้วแกมาทำอะไรที่โรงเรียน มาตรวจโน้นตรวจนี่ พูดคุยกับแม่บ้านแบบกันเอง อยู่แบบบ้านๆ ที่แรกนึกว่าภารโรง
ถ้าผมเป็นผู้บริหารคนอื่นๆ ป่านนี้คงไปเที่ยวที่ไหนสักแห่งแล้ว หรือไม่ก็พักผ่อนอยู่กับครอบครัว แกขยันมากไปป้าวว แปลกเว้ย นึกในใจ
รอยยิ้มที่ปล่อยวาง ยิ้มที่ติดใจติดหน้าติดตา ยิ้มไม่หยุด สงสัยแกคงติดโรคยิ้มมาสักพักเป็นแน่แท้ หรือไม่ก็คงแอบสูบกัญชา ^^ ก็โง่คิดไป
ยิ่งอีก ถ้าเป็นผมหรือคนอื่นป่านนี้คงรับตำแหน่งผอ.ไปแล้วหล่ะ หรือไม่ก็จะเอาให้ดีกว่าสูงกว่านั้น แต่วันนี้แกก็ปล่อยวางเสียดื้อๆ แกเท่จังหว่ะ
มันสอนให้เราคิดได้ว่า คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ ให้ดูที่บั้นปลาย คนที่หาความสุขที่แท้จริงเจอ เขาจะไม่ต้องการสิ่งใดแล้ว รอยยิ้มคือสมบัติที่มีค่า คือขอล้ำค่า เงินตรา อำนาจ เกียรติยศ ณ จุดจุดหนึ่งมันก็ถึงเวลาหมดความหมาย สิ่งสามัญคือการเป็นอยู่แบบพื้นๆสบายๆ เราสบายใจ คนอื่นสบายใจ สังคมสบายใจ ทำอะไรแล้วทำให้ดีที่สุด ให้รับผิดชอบ
ความมันไส้ที่ถูกแช่แข็งมานานเกือบสิบปี ถูกหลอมละลายลง รอยยิ้มที่น่าประทับใจ ข้อคิดที่น่าใคร่ครวญ ผมจำได้ดี ยิ้มนั้น" ยิ้มใสหน้าชื่นตาบาน"
โห้ว!!!! ใจครูแกหล่อมากกกกก ผมล่ะปลื้ม นี่พูดเลย
......ข้อคิด เมื่อพบท่านรอง.......