ในวันที่หนาวเหน็บ ตนใคร่ต้องการไออุ่น เพียงเพื่อจักได้หนุนนอนอย่าสุข
ความหนาวเหน็บกัดกินใจแสบสันต์ คืนวันร้องร้าวระบมโหยร้องหวีดห
นิมิตหมายไว้ว่าจักก่อกองไฟสักก
แรกเริ่มเดิมทีไฟอุ่นร้อนหลงใหล
พักเดียวเดี่ยวให้ร้อนราโรยแรงล
ราตรีนั้นคลืบคลานเข้ามาอีกคราห
เสียงด้านในมันร่ำร้องมาว่าเจ้า
รัตติกาลขับขานกล่อมบรรเลง เสียงบทเพลงแห่งความฝันอันอ่อนห
วนเวียนหมุนเปลี่ยนไปมา กองแล้วกองเล่าเผาไฟ กองเก่ากองใหม่ใจสับสน อ่อนเพลียอ่อนแรงเผลอหลับไป
ไฟทั้งกองเก่ากองใหม่ถาโถมโหมกร
แขนขาเราไหม้เกรียมเปื่อยยุ่ยลง
สรรพสิ่งรอบข้างวอดวายฉิบหายหมด
ไฟแรงไฟร้อนไฟอาฆาต ไฟบยาบาทไฟตัณหา ไฟแห่งความบาดหมางที่ได้สั่งสมส
ผลตอบแทนมิใช่อื่นใด คนก่อไฟนั่นแหละ ก่อไฟเผาตน เผาคนอื่น ทั้งทางตรงทางอ้อม ยิ่งใส่เชื้อไฟมากเท่าใด ไฟยิ่งแรงร้อนรุ่ม
ทั้งกองไฟ ผู้ก่อกองไฟ จักเผาไหม้ไปพร้อมกันๆ หรือไม่ก็หยิบดุ้นไม้นั่นออกไป คือ เยื่อใย คือ เชื้อไฟ ที่จักรอการเผาไหม้ ตลอดๆต่อไป จงดับไฟนั่นเสียเถิด จงดับไฟ .....ดับใจตน
ไม่มีความเห็น