พลังใจที่ได้กลิ่น
กลิ่นไอเเห่งความอบอุ่นที่ฝังอย่างละมุมในแก่นความฝันของการดำเนินชีวิต กลิ่นไอของสิ่งเดิมๆที่เราอยู่เเล้วเราสุขใจทุกครั้งครา ความเป็นธรรมชาติแห่งรากที่จากมานำพาให้หวนคิดตรึกตรองอยู่ในใจ กลิ่นไอที่เป็นธรรมชาติของเราเเต่เดิมยังคงมีเสน่ห์ที่คอยดึงใจให้หวนคิดถึงอยู่ตลอดเวลา กลิ่นไอที่ชวนให้หลงไหลซึ่งเป็นกลิ่นไอของความเดิมเมื่อครั้งที่เคยได้สูดเข้าไปอย่างปิติใจ ความสดชื่นเมื่อได้สูดกลิ่นไอนี้ไปทำให้เกิดความสุขใจทุกครั้งครัน... "จมูก" ที่ได้สูดกลิ่นไอของความเป็นธรรมชาติในฉากเดิมๆของชีวิตฉากเเต่ละฉากไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชีวิตเราทุกคนไม่เหมือนกัน หลายๆคนมีฉากเเห่งความสุขใจเมื่อได้สูดกลิ่นฉากนั้นไปในครั้งใดใดจะสุขใจในกลิ่นไอนั้นทุกที หลายๆคนมีฉากแห่งความภูมิใจเมื่อได้สูดกลิ่นในฉากนั้นๆไปทุกครั้งคราจะสุขใจทุกที ในขณะที่อีกหลายๆคนมีฉากแห่งความเศร้าใจที่เมื่อได้สูดกลิ่นฉากนั้นๆไปจะทำให้เสียใจกับฉากที่คอยตอกย้ำกลิ่นไอแห่งความทุกข์ กลิ่นไอแห่งความเศร้าใจ..กลิ่นไอเป็นสิ่งที่เราทุกคนไม่สามารถจับต้องได้แต่เราสามารถรู้สึกได้ ได้สูดกลิ่นกุหลาบเรารู้ว่านั่นคือกุหลาบ ได้สูดกลิ่นป่าเรารู้ว่านั่นคือป่า ได้สูดกลิ่นอาหารเรารู้ว่านั่นคืออาหาร เรารู้ว่าสิ่งที่เราได้สูดกลิ่นนั้นเป็นอย่างไรบางคนจำสิ่งนั้นได้เพราะกลิ่นที่คุ้นเคย ที่ที่คุ้นตา กลิ่นที่เคยได้สูดนั้นนำพาให้เราได้เห็นในหลายๆสิ่งที่อาจถูกลบเลือนไปจากความทรงจำ...คนเราทุกคนมีการสูดกลิ่นต่างๆอยู่ตลอดเวลา หลายคนจำกลิ่นอันหอมหวนที่แม่ได้ทำกับข้าวในเราทานในทุกวัน เรารู้ว่านั่นคือกลิ่นที่เเสนอร่อยของแม่ที่ทำให้เรากินในทุกๆวัน หลายคนจำกลิ่นน้ำหอมของคนอันเป็นที่รักที่เขาชอบได้ใส่อยู่เป็นประจำ...เราหลับตาเราสามารถรับรู้ได้ เรามองไม่เห็นเราสามารถรับรู้ได้อาจเรียกว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำให้เรารับรู้ได้ สามารถทำให้เรามองเห็นภาพได้ สามารถทำให้เราจดจำในเมื่อครั้งอดีตที่เรารู้สึกดีเเละมีความสุขแต่ในขณะเดียวกันทำให้เราได้ย้ำความเศร้าใจในสิ่งที่ได้ทำไปเมื่อครั้งอดีตได้เช่นกัน เมื่อครั้งใดใดที่เรารู้สึกไม่่สบายใจหรือทุกข์ใจในครั้งใดใด การเดินทางออกไปสูดอากาศภายนอกสามารถทำให้เรารู้สึกดีดีได้ สามารถทำให้เราดีขึ้นจาก "ภวังค์" ของความเศร้าได้ หรืออาจออกไปเที่ยวสูดกลิ่นไอของความเป็นธรรมชาติจะสามารถทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเเล้วสามารถทำให้เราปรับตัวของตัวเองได้อย่างเหมาะควร หรือออกไปสูดกลิ่นสวนที่เราจัดไว้ หรือออกไปสูดอากาศในที่ที่อากาศดีที่สุดในบ้าน ให้นั่งเก้าอี้ลงสักครู่หนึ่งเเล้วหลับตาลงเเล้วนึกภาพแห่งความสุขใจเมื่อครั้งอีตที่ผ่านมา หายใจเข้าลึกๆหายใจออกช้าๆ ภาพแห่งความสุขในเมื่อครั้งอดีตของเรานั้นจะทำให้เรารู้สึกดีขึ้นจากการได้สูดกลิ่นที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ลองหลับตาคิดไปคิดมาให้รอบคอบเเล้วสิ่งที่น่าเศร้าจะไม่เศร้าใจเราอีกต่อไป เเต่เราต้องอาศัยเวลาที่คอยกล่อมเกลาจิตใจให้เข้มเเข็ง...กลิ่นไอแห่งความอบอุ่นจากครอบครัว จากบุคคลอันเป็นที่รักเป็นกลิ่นไอที่มองไม่เห็นแต่จะไม่สูญหายไปไหน เเต่จะอยู่ฝังเเน่นในใจเราอยู่ทุกวัน เมื่อยามที่เราท้อครั้งใดใดหันมาสูดกลิ่นไอนี้สิ กลิ่นไอแห่งความอบอุ่นของครอบครัว เมื่อเราทุกข์ใจครั้งใดใดให้หันมาสูดกลิ่นไอนี้สิ กลิ่นไอของคนอันเป็นที่รัก ให้หันมาเห็นความเป็นกลิ่นไอนี้มากขึ้นเมื่อได้สูดไปในครั้งใดใด ความรู้สึกนั้นจะยิ่งใหญ่กว่าได้สูดกลิ่นสิ่งใดใดทั้งปวง พลังใจที่ได้จากคนอันเป็นที่รัก กลิ่นไอแห่งความอบอุ่นสอนเราได้ในหลายๆสิ่งหลายๆอย่างให้เราได้จดจำเเล้วได้ทำในสิ่งที่ดี...ความสุขเล็กๆที่ได้สูดกลิ่นไอเเห่งความอบอุ่นของบุคคลอันเป็นที่รักจะกลายเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ นึกภาพของคนอันเป็นที่รักแล้วหลับตาลงสนิทให้สูดลมหายใจเข้าหายใจออก เเล้วคิดในทางที่สร้างสรรค์แก่ตัวงานเเละตัวเรา พลังจากการได้กลิ่นไอของเขาจะช่วยให้เราดีขึ้นจากความทุกข์ใดใด... สายใยที่ผูกพันธ์โดยมีความอบอุ่นนั้นเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจนเกิดกลิ่นไอแห่งความอบอุ่นที่สั่งสมมานานนับนานตั้งเเต่สมัยยังเด็กมาถึงปัจจุบัน...สิ่งที่เราควรเห็นค่าอีกสิ่งที่สำคัญ คือ กลิ่นไอเเห่งความอบอุ่นจากบุคคลอันเป็นที่รักที่สามารถผลักค้ำชูให้เราเดินอยู่อย่างไม่จม...
"ดี..ค่ะ"...ยายธี
กลิ่นอายของจักรวาล และกลิ่นอายแห่งความรัก ความผูกพันของครอบครัว
ล้วนเป็นพลังของชีวิตให้ก้าวต่อไปอย่างมีคุณค่าจ๊ะ
ขอขอบคุณมากๆ... สำหรับคำติชมข้างต้นครับ...