นักศึกษาสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน(มหาวิทยาลัยชีวิต)ทุ
วิชานี้จัดให้เรียนในภาคเรียนที่ ๒ หลังจากได้เรียนวิชาการวางเป้า
เหตุที่จัดให้เรียนวิชาการรู้จักตนเองหลังจากเรียนวิขาการวางเป้าหมายและแผนชีวิต
ก็เพราะต้องการให้นักศึกษาได้จัดการชีวิตตนเองด้านกายภาพก่อน
ได้แก่การวางเป้าหมายชีวิต (อะไร ทำไม อย่างไร) แล้ววางแผนเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น
โดยนักศึกษาต้องวางแผน ๔ แผนต่อไปนี้ด้วย คือ
เมื่อได้เริ่มจัดการชีวิตนอกตัวและเริ่มดำเนินชีวิตตามแผนนั้นแล้ว จึงจัดให้ได้เรียนรู้และปฏิบัติเรื่องข้างในตน
ด้วยวิชาการรู้จักตนเอง ซึ่งเป็นไปตามทฤษฎีบันใด ๕ ขั้น แห่งความต้องการของมนุษย์ของมาสโลว์
ที่เริ่มตั้งแต่ขั้นแรกความต้องการปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิต (อาหาร เครื่องนุ่มห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค)
ขั้นที่สองความมั่นคงปลอดภัย ขั้นที่สามความรักและการได้รับความรัก (การเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม)
ขั้นที่สี่การเห็นคุณค่าของตน (self-esteem) และขั้นที่ห้าคือ การรู้จักตนเองอย่างถ่องแท้ (self-actualization)
การเข้าใจและรู้จักตนเองอย่างถ่องแท้ไม่ใช่เรื่องง่าย นับประสาอะไรจะไปเข้าใจและรู้จักคนอื่
บางครั้งเราไม่เข้าใจว่าทำไมคนอื่นไม่เข้าใจเรา
ขณะที่เราเกิดความคิดว่าคนอื่นไม่เข้าใจเรานั้นก็เพราะภาพตนเองที่เราเห็นตนเองกับ
ที่ที่คนอื่นเห็นเป็นคนละภาพกัน (หรือเปล่า?)
เราเห็นแต่พฤติกรรมภายนอกขอ
ส่วนพฤติกรรมภายใน เช่นความคาดหวัง ความต้องการที่แท้จริง ความคิด ความเชื่อ ฯลฯ
เราได้แต่คาดเดาเอา ตรงบ้าง ไม่ตรงบ้าง
คนจำนวนมากก็ไม่เปิดเผยความ
แต่ละคนมีทุกข์กันไปคนละแบบ
การรู้จักตนเอง คนทั่วไปที่ไม่ได้เรียนรู้วิชานี้ โดยเฉพาะการเรียนที่มีครูคอยช่วยชี้แนะ ก็ยากที่จะรู้จัก
เว้นแต่เป็นคนที่หมั่นสังเกตตนเ
วิชานี้จัดให้เรียนผ่านกิจกรรม ทั้งกิจกรรมกลุ่ม (เป็นกระจกสะท้อนซึ่งกันและกัน) และกิจกรรมเดี่ยว (ได้ไตร่ตรองและเชื่อมต่อกับสิ่งที่อยู่ใต้จิตสำนึกหรือที่เรียกว่าส่วนของภูเขาน้ำแข็งที่จมอยู่ในน้ำ) รวมทั้งให้นักศึกษาแต่ละคนได้ทำโครงงานสังเกตตนเองในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องเล็กๆ เป็นรูปธรรม (เพราะเรื่องใหญ่ๆ อาจซับซ้อน เข้าใจยาก) เรื่องเล็กๆ ก็เช่น ฝึกบอกความต้องการของตนเองแก่ผู้อื่นอย่างจริงใจ (ต้องจริงใจกับตนเองก่อนจึงบอกคนอื่นได้) ฝึกพูดคำว่า "ไม่" อย่างตรงไปตรงมา ฝึกทำอะไรให้ช้าลง เช่น เคี้ยวข้าวให้ช้าลง ขับรถให้ช้าลง เดินให้ช้าลง (เลิกเดินนำลิ่วทิ้งครอบครัวไว้ข้างหลัง) ฝึกยิ้มทักทายคนอืน ฝึกไปถึงที่นัดหมาย(หรือเข้าที่ทำงาน) ๑๕ นาทีก่อนเวลานัด
ด้วยเหตุนี้ นักศึกษามหาวิทยาลัยชีวิตทุ
ลิงก์ข้างล่างนี้คือผลการเรียนวิชาลักษณะนี้ที่ผมเคยสอน
http://www.gotoknow.org/posts/392770
http://www.gotoknow.org/posts/319588
d
วิชานี้ดีมากเลยครับ ผมพยายามเรียนรู้จริง ๆ หลังจากจบจากมหาวิทยาลัยแล้ว...นับว่าเป็นวิชาที่ทุกคนต้องเรียนกันตลอดชีวิต ไม่ใช่เพียงช่วงเวลาที่เป็นนักศึกษา
วิชานี้เมื่อเรียนแล้วสามารถนำมาปรับใช้กับตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคมได้ ทีี่่สำคัญคือสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองได้อย่างดีเยี่ยม อยากให้วงการศึกษาได้นำวิชานี้ไปใช้ในระบบการศึกษาเพื่อนักเรียนและนศ.ในระบบจะได้เรียนรู้ได้