อ่านรู้เรื่องและสื่อสารได้...ภาพที่ทุกคนอยากเห็น
อ่านรู้เรื่องและสื่อสารได้...ภาพที่ทุกคนอยากเห็น
ผมอ่านประกาศกระทรวงศึกษาธิการเรื่อง มาตรการเร่งรัดคุณภาพการอ่านรู้เรื่องและสื่อสารได้ ลงวันที่ 5 กันยายน 2556 จบลงด้วยความเข้าใจอยู่ 2 ประการ คือ ประการแรก ส่วนกลางยอมรับว่า ปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ของเด็กเป็นปัญหาระดับชาติ ประการที่สอง ขอความร่วมมือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการให้สถานศึกษาทุกแห่งปลอดเด็กที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ และสรรหาวิธีการทำให้เด็กชั้น ป.3 กับเด็ก ป.6 มีความสามารถในการใช้ภาษาระดับอ่านรู้เรื่องและสื่อสารได้ นั่นแสดงถึงว่า ก่อนหน้านั้น ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้ลดลงเลย แม้จะมีการทุ่มเทงบประมาณ วางกลยุทธ์พัฒนา จัดทำโครงการอบรมครู พัฒนาสื่อนวัตกรรมเทคโนโลยีสนับสนุนไปแล้วแต่ละปีมากมาย รายงานข้อมูลเด็กที่อ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ก็ยังชี้อยู่ระหว่าง 8 -11%ที่เป็นเช่นนี้เพราะการพัฒนายังไปไม่ถึงผู้เรียนอย่างเข้มข้น เอาจริงเอาจัง จนเห็นความต่อเนื่องยั่งยืนนั่นเอง
เรื่องนี้ ผมได้สัมภาษณ์ครูผู้สอนชั้นป.1-3 กลุ่มตัวอย่าง (พลวิจัย) ผ่านเครื่องบันทึกเสียง แล้วนำมาถอดรหัส (code) ในทำนองวิจัยเชิงคุณภาพ บันทึกนี้ ผม code ข้อความมาบางช่วงบางตอนที่น่าสนใจเพื่อให้เห็นภาพแนวคิดของครูผู้สอนผู้อยู่ปลายทางคุณภาพที่แท้จริงของระบบการศึกษา....
“....ให้ผมสอนอย่างเดียว รับรองเด็กอ่านออกเขียนได้ร้อยเปอร์เซนต์ เอาคอเป็นประกัน นี่ทั้งรับผิดชอบงานคอมพิวเตอร์ งานการเงิน งานชุมชน แล้วยังต้องสอนแทนเพื่อน ซึ่งไปราชการ ไปอบรม ลากิจ ลาคลอดสารพัดลาไม่เคยได้สอนเต็มเม็ดเต็มหน่วย เดี๋ยวก็เขต เดี๋ยวก็ อบต. เดี๋ยวก็สาธารณสุข เดี๋ยวก็มหาดไทย ไม่ไปก็ไม่ได้ อย่างนี้ อย่าว่าแต่เด็กเลยที่ต่อไม่ติด ครูก็ต่อไม่ติดเหมือนกัน...”
“....หนูรับผิดชอบงานวิชาการ เดือนนี้ ศน.เรียกไปอบรม 3 ครั้งแล้ว รวมแล้ว 10 วัน จริงๆก็อบรมตามคู่มือ สพฐ.นั่นแหละ นำมาอ่านเองก็เข้าใจ ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ต้องทิ้งเด็ก...สอนประจำชั้นด้วย...เอ้อ ไม่ได้ว่าเขตนะคะ”(หัวเราะ)
“...หนูแทบไม่ได้สอนเด็กเลยอาทิตย์นี้...ผอ.สั่งให้ทำแผนรองรับประกันคุณภาพ เทอมหน้า สมศ.จะมาประเมินโรงเรียน บางทีเสาร์ อาทิตย์ก็มาโรงเรียน เห็นใครเขาว่า ประเมินภายนอกไม่เน้นเอกสาร ทำไมหนูทำเอกสารเยอะเลย ไม่เหนื่อยอย่างเดียวนะ เครียดด้วย ...”
“...เด็กสองคนนั่นเขาไปไม่ได้จริงๆ สมองเขาช้ามาก คนนี้อยู่กับตายายกวนเพื่อนได้ทั้งวัน ต้องแยกสอน ที่พอไปได้ก็ราวสิบคน คนเป็นหัวหน้าชั้นนั่นเก่งกว่าเพื่อน แค่อ่านคล่อง เขียนคล่องนี่ก็บุญแล้ว....”
“.....เด็กของหนูอ่านออก เขียนได้ทุกคน ตอนนี้ฝึกเด็กทำหนังสือเล่มเล็ก ได้สื่อการ์ตูนของศน.นั่นแหละ ทำให้เด็กวาดภาพประกอบสวย แต่การเขียนเรื่องยังสะกดคำไม่ค่อยถูก ต้องให้เด็กเล่าเรื่องก่อนจึงค่อยเขียนตามที่ตนเองเล่าก็ได้ผลอยู่ ใช้เวลาซักหน่อยก็คิดว่าจะได้ผลดี....”
“...เรื่องการอ่าน การเขียนของเด็ก ผมเน้นให้ครูป.1 ป.2 สอนเด็กแจกลูกสะกดคำ คัดลายมือ เขียนตามคำบอก ทุกวันๆละ 1 ชั่วโมง ส่วน ป.3 ให้อ่านเอาเรื่องด้วย (อ่านแล้วตอบคำถาม) แล้วใช้สื่อการ์ตูนของ ศน. นี่แหละ ฝึกเสริมทักษะภาษาเพิ่มเติม เด็กๆสนุกมาก....”
...ตัวอย่างแนวคิดครูดีๆยังมีอีกมาก...เท่านี้ก็คงเห็นภาพเลาๆ กระมังว่า ความสามารถในการใช้ภาษาของเด็กระดับอ่านรู้เรื่องและสื่อสารได้ (Literacy) อยู่ใกล้แค่ไหน....
ความเห็น (6)
เห็นภาพชัดเจนเลย เข้าใจได้ทันทีครับ ขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆ นั้ ครับ
ผมขอสื่อชุดหนึ่ง ครับ ซีดี ก็ได้ครับ จะนำไปเร่งคุณภาพ ป.๑ - ๓
เห็นภาพภาระหนักอึ้งค่ะ
"ครูป.1 ป.2 สอนเด็กแจกลูกสะกดคำ คัดลายมือ เขียนตามคำบอก ทุกวันๆละ 1 ชั่วโมง ส่วน ป.3 ให้อ่านเอาเรื่องด้วย (อ่านแล้วตอบคำถาม) แล้วใช้สื่อการ์ตูนของ ศน. นี่แหละ ฝึกเสริมทักษะภาษาเพิ่มเติม เด็กๆสนุกมาก....”
ขอบคุณนะคะสำหรับแนวคิดดีๆ
ขอสื่อการ์ตูนของท่าน ศน.เพื่อนำไปพัฒนาเด็กค่ะ
ขอบคุณค่ะ
องค์ประกอบของการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ มีมากมายหลายประการ ทั้งที่ตัวเด็กเอง
ตัวครู ครอบครัว ตลอดจนสิ่งแวดล้อม ซึ่งล้วนแต่มีอิทธิพลต่อเด็กทั้งสิ้น แต่อย่างไรก็แล้ว
แต่ หากโรงเรียนมีระบบงานวิชาการที่ดี มีครูที่มีความมุ่งมั่น มีจิตวิญญาณที่เต็มเปี่ยมด้วย
ความรัก ความเมตตา อย่างไรเสีย ในเวลา 6 ปี เด็กต้องอ่านออกเขียนได้จ้ะ สำหรบปัญหา
อื่น ๆ ที่มีผลต่อการเรียนการสอนของครูนั้น....เชื่อว่า...ให้ครูเกษียณไปอีก 10 รอบ ก็ไม่มี
วันที่จะแก้ได้หรอก มีแต่จะทับถมคาราคาซัง...พูดกันมาตั้งนานเนแล้ว...มีใครฟังบ้าง
ล่ะ..นอกจาก...ฟังกันเองเหมือนเสียงสะท้อน ให้ช้ำใจกันเข้าไปดีก
ขอบคุณครับ ที่แวะมา ได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน สื่อการ์ตูนโหลดได้จากสมุดบทความที่บันทึกไว้ 3 ตอนครับ
เอิ่ม ..tablet จะช่วยได้มั้ยครับ