ปิดเทอมครั้งคราวใด..คิดถึงโรงเรียนแห่งแรกทุกที ในที่นี้ผมไม่ได้หมายถึงโรงเรียนที่ผมเรียนชั้นประถมฯหรอกครับ แต่เป็นโรงเรียนที่ผมบรรจุเป็นข้าราชการครูครั้งแรก ในตำแหน่งอาจารย์ ๑ ระดับ ๓ /อัตราเงินเดือน ๒,๗๖๕ บาท เมื่อ ๒๗ ปีมาแล้ว..วันนั้น...๒๙ เมษายน ๒๕๒๙
.
ณ โรงเรียนบ้านไพรพะยอม อ.ห้วยทับทัน จ.ศรีสะเกษ ผมไม่ได้กลับไปเลย แต่ให้น้องสาวที่อยู่ที่นั่นบันทึกภาพมาฝาก ให้ผ่อนคลายความคิดถึงไปได้บ้าง สิ่งที่ทำให้ต้องตราตรึงไว้ในความทรงจำ ก็คงเป็นเพราะ เป็นที่ที่ทำให้มีเงินเดือน เป็นเดือนแรกของชีวิต เป็นสถานที่ที่ให้งานทำ และเป็นงานมั่นคงที่ทรงเกียรติมาถึงทุกวันนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิตของการรับราชการ..ก็มาจากการเริ่มต้นที่ดีงามจากโรงเรียนแห่งแรกทั้งสิ้น
.
จากมาอย่างประทับใจ ไม่ลืมเลือนหลายสิ่งหลายอย่าง และแปลกใจที่ไม่ได้ในบางสิ่งติดตัวมา เป็นสิ่งที่ขาดทุนหรือเป็นกำไรชีวิตกันแน่ ยังประเมินไม่ได้ แต่ยิ้มอย่างมีความสุขทุกครั้งที่นึกถึง
.
ณ โรงเรียนหลังแรกที่บรรจุ ช่วงหนึ่งต้องอยู่บ้านพักครู และโรงเรียนอยู่ติดวัด พอโรงเรียนเลิกและทำงานต่อจนมืดค่ำ จะไม่รู้สึกกลัว แต่พอเข้าบ้านพักแล้วรู้สึกกลัวความมืดมากๆ จะไม่ลงจากบ้านพักจนกว่าจะถึงตอนเช้า จึงไม่รู้จักคำว่าเที่ยวเตร่กลางคืน จวบจนถึงปัจจุบันการเที่ยวงานวัด ชมการละเล่น เห็นแล้วไม่รู้สึกสนุกเลย
.
ครูกับสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นของคู่กัน แทบจะแยกกันไม่ออก ครูสมัยนั้นกู้สหกรณ์ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้ความสะดวกตัวเอง สมัยนี้ครูบรรจุใหม่ออกรถเก๋ง ซื้อโน่นผ่อนนี่มีเหลือไว้ใช้หน่อยเดียว ไม่พอก็กู้ฉุกเฉิน ทั้งในและนอกระบบ(นี่คือปัจจัยพื้นฐานเล็กๆว่าทำไมคุณภาพการศึกษาจึงต่ำ..ครู..ไม่อบอุ่นใจในชีวิตจะสอนดีได้อย่างไร)
.
ผมเป็นครูบ้านนอกไม่รู้จะใช้รถไปไหน ไปอำเภอก็ไปกับครูใหญ่ เงินเดือนก็น้อย ต้องส่งเงินให้พ่อกับแม่ ส่งน้องเรียน ส่วนหนึ่งเก็บไว้ใช้และเก็บเป็นเงินออม โดยทำบัญชีครัวเรือนทุกเดือน แต่ละเดือนก็มีเงินเหลือบ้างเล็กน้อย แต่ไม่เป็นหนี้และไม่เป็นสมาชิกสหกรณ์ ตอนหลังเขาให้สมัคร กบข.ก็ไม่ขอสมัครอีกเหมือนกัน ชอบที่จะบริหารเงินของตัวเองมากกว่า..แปลกใจเหมือนกันที่รอดการกู้สหกรณ์มาได้....
.
สมัยนั้น..ครูทั้งตำบลก็ว่าได้ จะมีความสุขมาก ในวันหวยออก เสียงวิทยุประกาศการออกเลขรางวัลดังแข่งกันไปทั่วหมู่บ้าน ไม่เว้นแม้แต่โรงเรียน แต่ผมเล่นไม่เป็นและไม่รู้สึกว่าอยากเล่น ก็บอกไม่ถูกว่าทำไม จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่ซื้อหวยใต้ดิน จะมีบ้างก็ลอตเตอร์รี่ ปีละ ๒ - ๓ ครั้ง ในโอกาสสำคัญเท่านั้น ภาพที่ครูเฮฮาถูกหวยและอาการเศร้าซึมที่ถูกกิน ยังติดตาอยู่เลย
.
เมื่อไม่มีรถ ก็ไม่รู้จะไปไหน วันเสาร์อาทิตย์ก็ไปทำงานที่โรงเรียน ทั้งที่บนโรงเรียนไม่มีทีวีและตู้เย็น แต่เน้นอ่านหนังสือที่ห้องสมุด อ่านไปจัดไป ได้รู้จักและสัมผัสหนังสือดีๆเยอะแยะ บางครั้งก็เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ครูใหญ่และเพื่อนครูมาชวนให้ไปท้องนา เป็นที่รู้กัน ว่าที่นั่นมี "สาโท"ชาวบ้านต้มเอง ใสซาบซ่า ร้อนแรงอย่าบอกใคร จิบเดียวร้อนแสบไส้แสบพุง ผมลองจิบสองจิบก็ขอตัว มันจะเมาเสียให้ได้ ตั้งแต่นั้นมา จะรู้สึกว่าเหล้าสุรา เป็นของที่กินยาก /เหม็น และไม่น่ากิน เข็ดและไม่ติดมาจนถึงทุกวันนี้ (รวมทั้งบุหรี่ด้วย)
.
ทุกวันนี้ จึงไม่รู้สึกรำคาญที่ต้องไปทำงานในวันหยุด แต่จะรู้สึกรำคาญมาก ถ้าต้องนั่งในหมู่พวกพ้องที่ดื่มเหล้าและสูบบุหรี่ ไม่ใช่รังเกียจแต่รู้สึกแพ้กลิ่นและเสียเวลาอย่างบอกไม่ถูก
.
ครับ..ที่มักพูดกันสมัยนั้น ว่าโรงเรียนแห่งแรก จะสอนครูหนุ่มๆไฟแรง ให้โชกโชนและเชี่ยวชาญประสบการณ์ ผมมั่นใจว่า ผมได้เพียงงานการสอนเป็นส่วนใหญ่และชอบงานสอนมาถึงทุกวันนี้....
.
ก็มีบ้างตามประสาชายหนุ่มอายุ ๒๔ ปี ที่ไม่ปฏิเสธ "ความรักครั้งแรก" ณ หมู่บ้านไพรพะยอม..แต่ด้วยความเป็น "ครู"จึงรักษาบุคลิกที่ดีงาม ไม่ทำอะไรรุ่มร่ามย่ามใจ ให้เกียรติและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการไปรังแกข่มเหงจิตใจใคร ด้วยความที่ไม่หล่อแต่ก็ไม่ขี้เหร่ น่ารักนิดๆ แต่ไม่เจ้าชู้ประตูดินให้เป็นที่รังเกียจของชุมชน จวบจนปัจจุบันก็ทำได้ให้เห็นเป็นแบบอย่าง สอนลูกสอนหลานต่อไป
.
สรุปแล้วโรงเรียนแห่งแรก..ไม่สอนอะไรให้ผมเลย..แต่ผมก็รู้สึกขอบคุณที่โรงเรียนได้ให้โอกาสเรียนรู้คุณค่าของชีวิตและลิขิตเส้นทางเดินของตัวเองได้..จนถึงทุกวันนี้ได้เป็นผู้บริหารโรงเรียนระดับ ๘ ชำนาญการพิเศษ..ภูมิใจจริงๆครับ
. ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
๒๐ ตุลาคม ๒๕๕๖
www.bannongphue.com
.
ป้ายสวยมาก เมื่อก่อนไม่สวยอย่างนี้
พระพุทธรูปในบริเวณวัดที่อยู่ติดโรงเรียน
บ้านครูใหญ่และถนนใจกลางหมู่บ้านที่เจริญขึ้นอย่างผิดหูผิดตา
ถนนไปทุ่งนายังเหมือนเดิม ครูใหญ่เคยพาผมไปกินสาโท นั่งรถเครื่องสองคน แต่เมาตกคันนาคนเดียว
ไปร่วมงานกับชุมชน
ไม่มีกล้องถ่ายรูป พอน้องจะถ่ายให้...ทำท่าซะ
หวนคำนึงถึงที่ไร...ใจอิ่มสุข
แม้จะทุกข์..ก็ยังมีที่...ให้ฝัน
คนไม่หล่อ..แต่..น่ารัก...อ๋อ.!.หรือนั่น
ฝัน..กลางวัน...หรือเปล่านั่น...ท่าน...ผอ. อิ อิ
เป็นความประทับใจที่ดีนะคะ
- บันทึกนี้ สะท้อน ภาพ เมื่อ 27 ปี ที่แล้ว อย่างน่าห่วงใย !!! นะคะ (ขนาด 27 ปีที่แล้ว บรรยากาศ สิ่งแวดล้อม รอบตัว ทั้ง หวยใต้ดิน ทั้ง สาโท ....ตรงกันข้ามกับ ภูมิทัศน์ โดยรอบ นิ่งนัก..... ไม่ว่าเวลา จะผ่านไปนานเพียงใด.... ความมั่นคงในสิ่งดีงาม...เป็นอุดมการณ์ ที่สำคัญ นะคะ/// มาชื่นชมท่าน ผอ. ค่ะ
ยินดีค่ะที่ทราบว่า ผอ.ชยันต์ เคยเป็นครูที่ศรีสะเกษ ดิฉันก็บรรจุเป็นครูที่ศรีสะเกษตั้งแต่ มกราคม ๒๕๒๙ จนกระทั่งปัจจุบันยังอยู่ที่เดิมค่ะ
กลับไปเยี่ยมเยือนไพรพะยอมบ้างสิคะ
....อุ๊ยตาย......ทำมัย จำแม่น จังวุ๊ย.!!!!.....
นานมากๆเลยนะครับ
ตอนสอนมัธยมฯทำไมมีแต่คนอยากให้สมัครสหกรณ์
ผมก็ไม่สมัคร แต่กบข ต้องสมัครเหมือนโดนบังคับ
การสอนในชนบททำให้เรามีความสุขจริงๆครับ
ตอนสอนมัธยมศึกษา
ผมก็ไม่ได้สมัคร สมาชิกสหรกรณ์ครับ
แต่ดูเหมือนว่า กบข จะถูกบังคับให้สมัคร
การสอนในชนบท ทำให้ได้เรียนรู้มากเลยนะครับ
อยากเห็นคุณครูและผู้บริหารที่รักความเป็นครูและเป็นครูแท้จริงทั้งการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างให้นักเรียนและชุมชน..ในฐานะอดีตครูอดีตผู้บริหารการศึกษาและศน.ขอชื่นชมคุณครูครับที่ครองตนให้รอดพ้นอบายมุขมาได้ ซึ่งเป็นการยากมากสำหรับ ผู้มีอาชีพข้าราชการครู ที่สังคมมีความคาดหวังสูง..ขอบคุณแทนลูกศิษย์และผู้ปกครองด้วยครับ..