Suicide ปัญหาการฆ่าตัวตายที่ไม่มีวันจบสิ้น<2>


แก้ปัญหาให้ตรงจุด

วันนี้น้องหนุ่ยติดตาม case suicide ที่แขวนคอ ..ซึ่งตอนนี้อาการทางกายดีขึ้น และแพทย์ให้กลับบ้านได้
เมื่อวานดิฉันได้พบ case ก่อนให้น้องหนุ่ยมารับต่อเพราะดิฉันต้องไปรับอีกรายหนึ่งที่พยายามฆ่าตัวตายมาสามครั้งแล้ว...

ช่วงเช้าเข้ามาที่ทำงานสายหน่อยมาเจอ case นั่งรอพอดี...ก็เลยได้มีโอกาสพูดคุย และคุยกับแม่ของ case ด้วย
ในรายนี้ สาเหตุจากการฆ่าตัวตายเท่าที่น้องหนุ่ยได้ข้อมูลมานั้น เนื่องมาจากทะเลาะกับภรรยาและคิดว่าภรรยามีชู้นอกใจ...อีกทั้ง case ดื่มสุราเมาด้วย...

 

 

 

 

 

 

 ในรายนี้ดิฉันไม่แน่ใจว่า ระดับภาวะซึมเศร้านั้นมากน้อยแค่ไหน...(คงต้องรอคุยกับน้องหนุ่ยอีกทีในเรื่องรายละเอียด case) แต่จากข้อมูลที่ดิฉันคุยด้วยกับครอบครัวนั้น คนไข้จะมีประวัติดื่มสุราเป็นประจำ...และดื่มวันละหลายๆ ครั้ง...
หากกลับไปดูความจำเป็นที่เราต้องซักข้อมูลเพิ่มเติม..นอกจากดูหลายๆ สาเหตุไม่ว่าจะเป็น
- โรคทางจิตเวช
- ปัจจัยกดดันทางสังคม
- ภาวะการเจ็บป่วยทางด้านร่างกาย
- มีภาวะซึมเศร้า ท้อแท้ ทุกข์ทรมาณใจ
และอีกอย่างที่ควรดู เพิ่มเติมคือ ประวัติการดื่มสุรา และเป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง...เพราะในกรณีนี้ ในกลุ่มผู้ป่วยที่ติดสุรา
หรือสารเสพติดมักจะเป็นคนที่มีลักษณะ หรือมีปัจจัยกดดันมาก่อนหน้านี้...
ดังนั้น..หากเราค้นหา ข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว...
ร่วมกับการประเมินสภาพทางจิตร่วมด้วย...
จะช่วยทำให้เรา...สามารถให้การช่วยเหลือที่ตรงปัญหาได้มากที่สุด...

ขณะที่เขียนบันทึกค้างอยู่นี้...เมื่อสักครู่
ดิฉันได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่อง case นี้กับน้องหนุ่ย จึงได้ทราบว่า case มีภาวะซึมเศร้าร่วมด้วย
และประวัติในครอบครัวพี่ชายเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย...
ดังนั้น..ในรายนี้น่าจะติดตามค้นไปจนถึงครอบครัวด้วย

 

หมายเลขบันทึก: 55029เขียนเมื่อ 18 ตุลาคม 2006 12:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2013 12:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีครับ

ขอร่วมแสดงความเห็นด้วยคน

กรณีฆ่าตัวตาย รู้สึกว่า นับวันเมืองไทยจะมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งที่เป็นข่าวและที่ไม่เป็นข่าวคิดว่ามีอีกมาก

ผมมีเพื่อนเป็นพยาบาลอยู่โรงพยาบาลยะลา มาปรึกษาเรื่องขอทำ Case การพยายามฆ่าตัวตายของมุสลิม ซึ่งในช่วงนั้นมีอยู่ถึง 2 ราย ผมก็สนับสนุน จะได้รายละเอียด บางทีจากข้อมูลที่ได้มา เราอาจจะป้องกันได้ ในฐานะอีกด้านหนึงเรามีหน้าที่รับผิดชอบสังด้านให้การศึกษา

ตามทฤษฎีแล้ว การฆ่าตัวตายสำหรับมุสลิมไม่น่าจะเกิดขึ้น เพราะนอกจากคำสอนในศาสนาอิสลามจะสอนว่าผู้ที่ฆ่าตัวตายจะต้องตกนรกสถานเดียวแล้ว การใช้ชีวิตของมุสลิม อิสลามสอนให้ใช้ชีวิตแบบพอเพียง โดยถือหลักง่ายๆ คือ จงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ และให้ถือว่า"อะไรที่ไม่ดีเกิดขึ้นแก่เราถือว่ามันจะเป็นผลดีในวันข้างหน้า และอะไรที่เราคิดว่าดี จริงๆอาจจะไม่ดีก็ได้"

 วันนี้ขอแค่นี้ก่อนนะครับ และขอเป็นกำลังใจในการทำงานด้วยครับ

สวัสดีคะ..คุณมูซา ฟารอบี

กะปุ๋มคุ้นๆ นะคะว่าเราเคยคุยกันที่ไหนมาก่อน...

เรื่องเล่าที่คุณมูซานำมาต่อยอดให้ ดีมากเลยนะคะ...

เพระกะปุ๋มก็เพิ่งทราบน่ะคะว่า ในมุสลิมเองก็มีการฆ่าตัวตายด้วย...เพราะก็พอทราบมาบ้างคะว่า...ขัดกับหลักศาสนา หรือในศาสนาพุทธเองก็เช่นเดียวกัน..

...

ขอบคุณนะคะสำหรับกำลังใจ

ไม่ทราบว่าคุณมูซา  ฟารอบีเปิด Blog หรือเปล่าคะ..กะปุ๋มจะได้ตามไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยคะ

(^________^)

กะปุ๋ม

สวัสดีครับ

ตอนนี้ยังไม่มีครับ

ส่วนเรื่องเคสที่ว่า  ผมเองก็ไม่ได้สอบถามเพื่อนที่ติดตามเรื่องนี้ว่าไปถึงไหนแล้ว ถ้าผมได้รายละเอียดเพิ่มเติมจะมาแลกเปลี่ยนกัน

อรุณสวัสดิ์นะคะคุณมูซา ฟารอบี

อากาศยามเช้าวันนี้สดใส...แสงแดดรำไร...

ทาบทอท้องฟ้า...ทำให้ละมุนละไม..ยิ่งนักคะ

...

ขอบคุณนะคะที่เช้านี้แวะเข้ามาทักทาย

(^__________^)

กะปุ๋ม

สวัสดียามเช้าครับ

ตอนนี้ผมอยู่ในมัสยิด ไม่ค่อยได้สังเกตท้องฟ้าเท่าไร แต่เห็นคำบรรยายของคุณกะปุ๋มแล้ว รู้สึกสดชื้นไม่ต่างกัน

แต่ทางใต้ตอนนี้ท้องฟ้าเช้าๆค่อนข้างมืดมีหมอกคลุม บางวัน 8 โมงเช้าก็ยังมืดอยู่ คงเป็นเพราะอากาศเย็นผสมกับหมอกอินโด

คุณกะปุ๋มคงรู้นะครับว่ามัสยิดของมุสลิม ปกติแล้วพวกเราจะเข้ามัสยิดวันละ 5 เวลา เช้าตรู๋ เที่ยง เย็น ค่ำและดึก เพื่อไปละหมาดซึ่งเป็นพิธีหนึ่งทางศาสนาที่ทุกคนจะต้องทำด้วยตนเอง

เมื่อหลายปีก่อน อาจารย์ ม.บูรพาท่านหนึ่งมาปรึกษา มีนักศึกษาคนหนึ่งละหมาดบ่อยมาก ผมก็แนะนำว่า อ.อย่าได้ใส่ใจเลย ประกันได้เลยว่า นักศึกษาผู้เป็นคนดีมากๆ เขาก็ตอบว่า ใช่

ที่มุสลิมต้องละหมาด เพราะต้องการให้จิตระลึกถึงพระเจ้า(อัลลอฮฺ) เสมอ

ศาสดาของเราสอนว่า
ในตัวเรามีสิ่งหนึ่ง ถ้าสิ่งนั้นดี ทุกส่วนของร่างกายก็ดี ถ้าสิ่งนั้นไม่ดี ทุกส่วนก็ไม่ดีด้วย สิ่งนั้น คือ จิต

คนเราถ้าจิตดี ระลึกถึงพระเจ้าเสมอ  พฤติกรรมที่เขาแสดงออกย่อมเป็นพฤติกรรมที่พึงประสงค์ ด้วย

แม้ท้องฟ้าที่เรามองยามเช้าๆ จะสดใส แต่ไม่ใช่สดใสตลอด บางครั้งมันจะมืดครึ้ม บางครั้งน่าสะพรึงกลัว ชีวิตของคนเราก็คงไม่ต่างจากนั้นมากนัก บางวันจะสดใสและเราอยากให้เป็นเช่นนั้นตลอดไปซึ่งเป็นไปไม่ได้ มันต้องมีมืดบ้างสว่างบ้าง แต่เมื่อใดที่มันมืด ก็ได้นักจิตวิทยาอย่าง กะปุ๋มนี้แหละที่คอยให้ทางเพื่อที่จะได้เดินทางสู่ความสดใสต่อไป

มูซา ฟารอบี

สวัสดีคะคุณมูซา ฟารอบี

เช้าเข้ามาเปิดอ่าน Gotoknow.org ทำให้ได้มาเจอการพูดคุยนี้ของคุณมูซา...ทำให้มองเห็นภาพและเข้าใจในกิจของชาวมุสลิมมากขึ้น...กะปุ๋มไม่ค่อยทราบรายละเอียดในกิจต่างๆ ของชาวมุสลิมมากนัก อาจจะเป็นเพราะว่ามองว่าเป็นเรื่องไกลตัวก็อาจเป็นได้...เพราะในสิ่งแวดล้อมของกะปุ๋มเองก็แทบไม่ได้สัมผัสกับชีวิตของชาวมุสลิมมากนัก จึงรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่คุณมูซามาแลกเปลี่ยน เล่าสู่กันฟัง ทำให้เราได้รับรู้เรื่องราวอีกมุมของชาวมุสลิม...

....

และรู้สึกชื่นชอบกับที่ว่า

ศาสดาของเราสอนว่า
ในตัวเรามีสิ่งหนึ่ง ถ้าสิ่งนั้นดี ทุกส่วนของร่างกายก็ดี ถ้าสิ่งนั้นไม่ดี ทุกส่วนก็ไม่ดีด้วย สิ่งนั้น คือ จิต

เพราะโดยส่วนตนนั้นให้ความสนใจในเรื่องจิตๆ ใจๆ ด้วย..โดยไม่ได้มีเงื่อนของแนวคิดใดใดเชิงสังคม-วัฒนธรรมใดใดมาเกี่ยวข้องด้วย..."จิตดี...ทุกอย่างก็จะดี"....เพราะนั้นเป็นเรื่องของ positive จริงๆ...

ขอบคุณนะคะที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้

(*^__^*)

กะปุ๋ม

 

สวัสดีครับ ดร.กะปุ๋ม

วันก่อนได้เจอพยาบาลที่ได้เล่ามาข้างตน ได้สอบถามเรื่องที่เขาศึกษาเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายอยู่ ก็ได้คำตอบว่า มีเยอะสองสามอาทิตย์ก่อนก็มี แต่ที่เคยเล่าว่ามีมุสลิมคิดฆ่าตัวตายนั้น เขาได้ตรวจสอบแล้วว่าเป็นมุสลิมที่ไม่ค่อยเคร่งศาสนา คือ ไม่ค่อยได้ปฏิบัติตามหลักศาสนามากนัก  เรื่องฆ่าตัวตายนี้ตอนนี้เขาส่งให้คนอื่นทำต่อ ส่วนตัวเขากำลังศึกษาเรื่องที่มีความสำคัญไม่ต่างกัน คือ ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสามจังหวัด

เฮ้อ..เมื่อไรสามจังหวัดจะสงบสักที

:( มูซา ฟารอบี

สวัสดียามบ่ายๆ ในวันอาทิตย์คะ..คุณมูซา ฟารอบี...ดีใจนะคะที่เห็นคุณเปิด Blog และพูดคุยเรื่องจิตวิทยา และเชื่อมโยงแนวคิดจิตวิทยาในเชิงศาสนา..กับแนวคิดทฤษฎีทางจิตวิทยาที่ว่าอยู่ในปัจจุบัน..

...

เป็นอีกมุมมองที่ดูเป็นเรื่องที่น่าท้าทายมาก เพราะจิตวิทยาในแนวพุทธนี้มีคนว่าไว้ ศึกษา และกำลังศึกษาอยู่มาก และหากว่าเราได้มุมมองในเชิงศาสนาอิสลามเข้ามาร่วมด้วย...สุดท้ายทุกอย่างก็ย่อมนำไปสู่หนึ่งเดียว คือ เรื่องของจิตวิญญาณ ในความเป็นมนุษย์...

...

ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้

และที่สำคัญกะปุ๋มรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากในเรื่องการฆ่าตัวตายในกลุ่มชาวมุสลิม เพราะเราแทบจะไม่ได้ยิน หรืออาจเป็นเพราะว่ากะปุ๋มอยู่ห่างไกล..บุคคลในกลุ่มนี้ก็อาจเป็นได้

(*^__^*

กะปุ๋ม

 

น้องนิดค่ะ(นางสาววรรณดี นุ่มฉาว พยาบาลศาสตร์ปี1วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกล้า)

หนูก็เคยมีประสบการณ์ที่คิดจะฆ่าตัวตายเหมือนกันค่ะ คนที่เขาทำแบบนี้บางทีก็หน้าเห้นใจนะค่ะ มันไม่มีที่ระบายเลยหรือไม่มีที่ปรึกษาเลย หันไปหาใครก็ไม่ได้ ไม่รู้จะไปถามใคร แต่หนูก็พ้นวันนั้นมาได้เพราะมีกำลังใจจากเพื่อน ครู และที่สำคัญคือพ่อแม่ ของหนู ท่านใจดีกว่าที่หนูคิดและท่านก็รักหนูมาก พร้อมจะฟังทุกเรื่อง เรื่องของหนูมันยาวค่ะ แล้วหนูจะเล่าให้ฟังนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท