สุดยอดอาชาไนยแห่งวงวรรณกรรมไทย
สุดยอดอาชาไนยแห่งวงวรรณกรรมไทย
ม้าสีหมอก แห่งขุนช้างขุนแผน
ม้าสีหมอกเป็นม้าของขุนแผน แม่เป็นม้าเทศเมืองมะริด ส่วนพ่อเป็นม้าน้ำ เกิดเมื่อวันเสาร์ขึ้นเก้าค่ำ มีนัยน์ตาดำสนิท เป็นม้าที่ซุกซนมาก ในเรื่องขุนช้างขุนแผนกล่าวถึงประวัติของม้าสีหมอกไว้ว่า
...กรมการกุยปราณส่งเนื่องมา ผ่านชะอำถึงท่าเพชรบุรี
เลี้ยงม้าอยู่ศาลาบ้านแตงแง บันไดอิฐติดแค่คิรีศรี
สีหมอกลองเชิงเริงฤทธี เข้ากัดฟันขยี้เอาม้าเทศ
ฝ่ายหลวงทรงพลแกขัดใจ ให้ไพร่ไล่ตีม้าผีเปรต
มันดุร้ายซุกซนเป็นพ้นเพศ เข้าที่ไหนไล่เฉดมันออกไป...
ครานั้นขุนแผนแสนสนิท ทุกทิศลือทั่วกลัวสยอง
เห็นม้าสีหมอกออกลำพอง สมปองปรารถนาที่นึกไว้
ลักษณะถูกต้องตำราสิ้น ดังองค์อินทร์เทวราชประสาทให้
ท่วงมีแคล่วคล่องว่องไว ก็เข้าไปหาหลวงทรงพลพลัน
ขุนแผนขอซื้อม้าสีหมอกจากหลวงทรงพล ซึ่งก็เข้าทางหลวงทรงพลที่กำลังเอือมระอากับความซุกซนของม้าสีหมอกอยู่พอดี จึงขายให้แก่ขุนแผนในราคาสิบห้าตำลึง
...เสกหญ้าด้วยมหาละลวยใหญ่ เข้าใกล้สีหมอกแล้วบอกว่า
จะไปกับเราก็เข้ามา ยื่นหญ้าให้พลันในทันที
สีหมอกรับหญ้ามาเคี้ยวกลืน ชมชื่นปรีดิ์เปรมเกษมศรี
ให้มีใจจงรักด้วยภักดี ติดขุนแผนเดินรี่ตามหลังไป...
ตั้งแต่นั้นมาม้าสีหมอกก็กลายเป็นม้าคู่ใจของขุนแผนได้ร่วมผจญภัยกับขุนแผนมาตลอดเรื่อง
ม้านิลมังกร แห่งนิทานคำกลอนพระอภัยมณี
ม้านิลมังกรเป็นม้าของสุดสาคร โอรสพระอภัยมณีกับนางเงือก เมื่อสุดสาครลงเล่นน้ำในทะเลได้พบกับสัตว์น้ำที่มีลักษณะประหลาด เป็นลูกผสมระหว่างม้าและมังกร
...พอพบม้าหน้าเหมือนมังกรร้าย แต่กีบกายเป็นม้าน่าฉงน
หางเหมือนอย่างหางนาคปากคำรณ กายพิกลกำยำดูดำนิล
กุมาราถาโถมเข้าโจมจับ มังกรรับรบประจัญไม่ผันผิน
เข้าคาบคอหน่อกษัตริย์จะกัดกิน กุมารดิ้นโดดขึ้นนั่งหลังอาชา
ม้าสะบัดพลัดหลุดยังยุดหาง ดูกลิ้งกลางเกลียวคลื่นลื่นถลา
ตลบเลี้ยวเรี่ยวแรงแผลงศักดา เสียงชลาเลื่อนลั่นสนั่นดัง
สุดสาครไม่สามารถจับม้านิลมังกรได้ พระฤๅษีต้องบอกมนต์วิเศษให่สุดสาครใช้จับม้านิลมังกร
...ม้าตัวนี้ดีจ้านเจียวหลานเอ๋ย เป็นกะเทยเขี้ยวเพชรไม่เข็ดขาม
จับไว้ขี่มีสง่ากล้าสงคราม จะได้ตามบิตุเรศไปเขตคัน...
เจ้าได้ม้าพาหะตัวนี้ไว้ จะพ้นภัยภิญโญสโมสร
ให้ชื่อว่าม้านิลมังกร จงถาวรพูนสวัสดิ์แก่นัดดา...
ม้านิลมังกรได้กลายเป็นเพื่อนเล่นของสุดสาคร เป็นตัวละครสำคัญที่ช่วยพาสุดสาครผจญ
ภัยตามหาพระอภัยมณี
ม้าเซ็กเธาว์ ม้าศึกขนแดงแห่งสามก๊ก
ม้าเซ็กเธาว์เป็นม้าสีแดงเพลิง สูง 8 ฟุต ความยาวลำตัว 10 ฟุต สามารถวิ่งได้วันละพันลี้ (520 กิโลเมตร) เดิมเป็นม้าของตั๋งโต๊ะ ซึ่งต่อมาได้มอบให้ลิโป้พร้อมกับเครื่องบรรณาการอีกมากมาย เพื่อให้ลิโป้ทรยศเต๊งหงวนพ่อบุญธรรม แล้วมาเข้าร่วมเป็นทหารเอกของตั๋งโต๊ะ ต่อมาลิโป้ผิดใจกับตั๋งโต๊ะเรื่องนางเตียวเสี้ยนจึงฆ่าตั๋งโต๊ะตาย ภายหลังลิโป้ถูกโจโฉประหารที่เมืองเสียวพ่าย ม้าเซ็กเธาว์ก็ตกเป็นของโจโฉ
เมื่อกวนอูมาอยู่กับโจโฉ โจโฉต้องการเอาใจกวนอูจึงมอบเครื่องบรรณาการต่างๆให้ แต่กวนอูไม่สนใจเครื่องบรรณาการเหล่านั้นยังคงจงรักภักดีกับเล่าปี่เหมือนเดิม จนโจโฉยกม้าเซ็กเธาว์ให้
...โจโฉเห็นม้ากวนอูผอม จึงถามว่าเหตุใดม้าจึงผอมไม่สมตัวท่าน กวนอูจึงตอบว่า ม้าตัวนี้มีกำลังน้อย ทานกำลังข้าพเจ้าไม่ได้จึงผอม โจโฉได้ฟังดังนั้นจึงให้ทหารไปเอาม้าเซ็กเธาว์มา แล้วถามกวนอูว่า ม้าตัวนี้เป็นของผู้ใดรู้จักหรือไม่ กวนอูจึงว่าม้าตัวนี้ของลิโป้ข้าพเจ้ารู้จักอยู่ โจโฉก็ให้จัดแจงเครื่องม้า พร้อมแล้วก็ให้กวนอู กวนอูมีความยินดีลงจากม้าคุกเข่าลงคำนับแล้วว่า ซึ่งมหาอุปราชให้ม้าตัวนี้แก่ข้าพเจ้านั้นคุณหาที่สุดมิได้
โจโฉได้ฟังดังนั้นก็คิดกริ่งใจจึงถามว่า เราให้เงินทองสิ่งของแก่ท่านมาเป็นอันมากก็ไม่ยินดี ท่านไม่ว่าชอบใจแลมีความยินดีเหมือนเราให้ม้าตัวนี้ เหตุไฉนท่านจึงรักม้าอันเป็นสัตว์เดียรัจฉานมากกว่าทรัพย์สิ่งสินอีกเล่า กวนอูจึงตอบว่า ข้าพเจ้าแจ้งว่าม้าเซ็กเธาว์ตัวนี้มีกำลังมากเดินทางได้วันละหมื่นเส้น แม้ข้าพเจ้ารู้ข่าวว่าเล่าปี่อยู่ที่ใด ถึงมาตรว่าไกลก็จะไปหาได้โดยเร็ว เหตุฉะนี้ข้าพเจ้าจึงมีความยินดี ขอบคุณมหาอุปราชมากกว่าให้สิ่งของทั้งปวง
โจโฉได้ฟังดังนั้นยิ่งมีความน้อยใจ ...
ม้าเซ็กเธาว์เป็นม้าคู่ใจของกวนอูจนกวนอูถูกประหาร ม้าเซ็กเธาว์จึงตกเป็นของซุนกวน แต่ด้วยความระลึกถึงกวนอูเจ้านายเก่ามันจึงไม่ยอมกินอะไรและตายในที่สุด
(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต)
ความเห็น (2)
ชอบมาสีหมอกครับ
เหมือนม้าจริงๆของไทย
อยากได้สักตัว 555
ขอบคุณครับ
...ม้าแกลบ..ลา..ล่อ..หาบไป..เกือบหมด..แล้ว..เหลือแต่..ชื่อ..ดีๆ..อย่างสีหมอก...(อย่าลืม..ให้..กานสนับสนุน..พระ..ที่เลี้ยงเด็ก..ด้วย..ม้า..ที่..ทางเหนือของประเทศไทย..เน้อ...)