มีคนพูดถึงเรื่อง CSR กันมากว่าเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม แท้ที่จริงเป็นบทบาทหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะช่วยเหลือสังคม โดยทั่วๆไปแล้วจะเกิดขึ้นเพราะมีการกำหนดกฎเกณฑ์เอาไว้ในองค์กรคือจัดทำไปตามหน้าที่ หรือทำเพื่อสร้างภาพลักษณ์ขององค์กรให้คนได้รู้ว่าเราได้ช่วยเหลือสังคมแล้ว แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือการช่วยเหลือสังคมนั้นจะต้องเกิดจากภายในจิตใจ ด้วยจิตสำนึกและเป็นวิถีธรรมชาติที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ทำด้วยความเคยชินจนเป็นวิถีวัฒนธรรม
การที่เราจะบ่มเพาะให้คนมีอุดมการณ์ที่จะช่วยเหลือขับเคลื่อนสังคม ปลูกฝังพฤติกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคม เป็นกัลยาณมิตรซึ่งกันและกัน สร้างความสามัคคี สร้างมิตรที่ดี จิตอาสาที่มีความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์ ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจในบริบทต่างๆของสังคม ที่มีความหลากหลาย และมีความแตกต่างในทางวัฒนธรรม เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ เพื่อให้เขามีทัศนคติที่ดีต่อการสร้างสรรค์สังคม มีทักษะในอยู่ร่วมกัน ทั้งการฟัง การพูด และการแสดงออก
การปลูกฝังวิถีวัฒนธรรมในการช่วยเหลือสังคมนั้น จะเน้นที่ความไม่เป็นทางการมากกว่าการเป็นทางการ และเริ่มจากน้อยไปหามากตามแต่กำลังของกลุ่ม ใช้ความเป็น Lifestyle ของแต่ละคนมาต่อเติมเสริมแต่งซึ่งกันและกัน ให้ทำในวิธีที่ทำสอดคล้องกับวิถีชีวิตตนเอง บางคนมีความเชี่ยวชาญเรื่องสัตว์นานาชนิด บางคนสนใจต้นไม้ สนใจกีฬาฯลฯ ก็จะเกิดการสร้างสรรค์กิจกรรมนำเพื่อนๆที่สนใจร่วมกันจนเกิดความร่วมมือร่วมใจ แม้งานนั้นจะยากลำบากสักเพียงใด
สิ่งหนึ่งที่ลุงเอกใช้เป็นเครื่องมือคือการนำเขาต่างๆเหล่านั้นได้ลงพื้นที่ศึกษาชีวิตความเป็นอยู่ของคน ชุมชน พูดคุยแลกเปลี่ยนกับประชาชนในพื้นที่ จะได้เห็นบริบทต่างๆนำมาสู่การเห็นเส้นทางที่จะช่วยสังคมให้สันติสุข
การสร้างคนให้ทันสมัย ทันคน ทันโลก ทันเหตุการณ์ ทันเทคโนโลยีจะช่วยงานประสานเสริมต่อกันอย่างลงตัว ทุกคนเข้าสู่การติดต่อสื่อสาร ประสานงานกันผ่านออนไลน์ทั้งfacebook googlegroups และโดยเฉพาะ Line เพื่อสร้างประสิทธิ์ภาพในการติดต่อประสานงาน
เครือข่ายสำคัญมากครับ
ภาพบนดูเหมือนว่าจะเป็นรุ่นพ่อครูบา ท่านอัยการ
ภาพสุดท้ายอาจารย์ติ๊กใช่ไหมครับ
เอามาฝากครับ