วังบางขุนพรหม วังเทววะเวสม์ วังลดาวัลย์
ตลอดชีวิตการทำงานของข้าพเจ้าในอดีตจนถึงปัจจุบัน วนเวียนอยู่
ในสามวัง คือ วังบางขุนพรหม วังเทวะเวสม์ และวังลดาวัลย์ ซึ่งใน
แต่ละช่วงมีประสบการณ์การทำงานหลายด้าน ที่อยากจะนำมาเล่า
แลกเปลี่ยนเรียนรู้สู่กัน ที่ล้วนแต่หลากหลาย มีอรรถรสด้วยปัจจัย สิ่ง
แวดล้อม และความทรงจำที่ดีๆไม่เคยเลือนไปจากใจ...
ชาววังบางขุนพรหม (๑)
หลังจากสำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาตรีรัฐศาสตร์ เกียรตินิยมอันดับสอง (สาขาการคลัง)
จากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ข้าพเจ้าได้สมัครสอบเข้าทำงานเป็น
เศรษฐกรผู้ช่วย ในฝ่ายวิชาการ ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่
ในบริเวณ วังบางขุนพรหม เคยเป็นที่ประทับของ สมเด็จพระเจ้าบรม
วงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต พระ
ราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ และสมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลย์มารศรี พระราชเทวี
แรงบันดาลใจที่ผลักดันให้อยากเข้ามาทำงานที่นี่ เพราะมีความ
เคารพรักศรัทธาใน ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ ผู้ว่าการธนาคารแห่ง
ประเทศไทย ในยุคนั้น ที่ได้รับการยอมรับนับถืออย่างสูงในทุกด้าน ทั้ง
ความดีและความเก่งที่เป็นแบบอย่าง ซึ่งตรงกับใจของข้าพเจ้า ที่อยาก
เริ่มต้นชีวิตการทำงานกับผู้นำองค์กรในอุดมคติจับต้องได้เช่นนี้
ท่านทำตนให้ดู อยู่ให้เห็น เป็นที่ประจักษ์ถึงธาตุแท้ของคนทำงานเพื่อแผ่นดิน ที่ไม่ยึดติดกับลาภ ยศ สุข สรรเสริญ หากแต่ยืนหยัดมั่นคงอยู่กับความถูกต้อง เที่ยงธรรม ความเป็นอยู่ที่สมถะ และปฏิบัติฆราวาสธรรม อย่างต่อเนื่องไม่แปรผันตราบชั่วชีวิตของท่าน
ในขณะนั้น ข้าพเจ้าเป็นเพียงพนักงานระดับล่างๆเช่นเดียวกับเพื่อนร่วมงานอื่นๆ ที่ได้รับความเมตตากรุณา ความใกล้ชิด การให้แนวทางการทำงาน และคตินิยมดีๆ เป็นการสร้างรากฐานและกำลังใจ ในโอกาสต่างๆหลายครั้ง ทั้งในเวลาทำงานและยามพักผ่อน ท่านชอบลงมาสังสันต์ยามเย็นที่บริเวณสนามหญ้าหน้าวังบางขุนพรหม และบรรเลงเพลงไทยเดิมด้วยขลุ่ยคู่ใจ ..สนุกสนานรื่นเริงทั้งผู้เล่นและผู้ฟัง บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้านที่มีพ่อเป็นศูนย์กลางของลูกๆด้วยสายใยรักและผูกพันแน่นแฟ้นอย่างยิ่ง..
ในยามที่ท่านต้องออกไปพำนักพักผ่อนในบั้นปลายชีวิตที่ประเทศอังกฤษ และได้กลับมาเยี่ยมเยียนลูกศิษย์และลูกน้องที่ประเทศไทย พวกเราพากันมากราบคารวะอย่างพร้อมเพรียงทั่วหน้า
ดีใจไม่รู้ลืมปลื้มหนักหนา
ท่านกลับมาเยือนถิ่นเก่าเฝ้าคำนึง
ดั่งลูกคอยพ่อรอวันที่มาถึง
ต่างซาบซึ้งก้มลงกราบแทบบาทเอย
ท่านยังคงสถิตย์อยู่ในดวงใจของผู้อยู่เบื้องหลังเป็นนิจนิรันดิ์ สมดังคำกล่าวที่ท่านได้เขียนถึงข้าพเจ้าในวาระที่ "Puey's boy"คนหนึ่ง ได้ทิ้งละสังขารไปก่อนอาจารย์สุดที่รักของเขา
ในวาระ ลอยอังคารของท่านในวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๔๒ บนเรือรบหลวงกระบุรี ณ ทัองทะเลลึกสีคราม บริเวณอ่าวสัตหีบ พวกเราหลายคนได้ไปร่วมพิธีบำเพ็ญกุศล เพื่อรำลึกถึงคุณงามความดี และพระคุณอันยิ่งใหญ่ต่อสังคมอันประมาณมิได้ ทั้งนี้มีการจัดงานวิชาการ วันป๋วย อึ๊งภากรณ์ ในวันที่ ๙ มีนาคม ของทุกปี
โปรดอ่านต่อที่บันทึกนี้ คลิ๊กที่ :
http://www.gotoknow.org/posts/548443
..........................................................................
ชื่นชมกับท่านพี่ครับ น้ำใจ น้องพี่สีชมพู ครับ
พี่ใหญ่ครับ
อยู่สามวังเลย
เห็นการทำงานที่งดงามและได้เรียนรู้จากผู้ใหญ่แบบท่านอาจารย์ป๋วย
เขียนแบบนี้คนรุ่นหลังแบบผมจะได้เรียนรู้ไปด้วยว่าผู้ใหญ่ในสมัยก่อนท่านมีวิธีการทำงานอย่างไร
ประพฤติตนอย่างไร
ขอบคุณพี่ใหญ่มากครับ
มีความสุขใจที่ได้เข้ามาอ่านบันทึกนี้มากครับ...:)
ขอบพระคุณพี่ใหญ่ที่ถ่ายทอดเรื่องราวดี ๆ ให้ได้ซึมซับมากนะครับ
ประสบการณ์ชีวิตของผู้ใหญ่ที่เราเคารพรัก...
ถือเป็นมงคล เป็นความสุข สงบเย็น และเป็นประโยชน์ยิ่ง...
สำหรับอนุชนคนรุ่นหลัง อย่างผมครับคุณครูพี่ใหญ่ ^_^
ขอบพระคุณครับผม
เป็นมงคลของชีวิตค่ะที่ได้รับรู้เรื่องราวประสบการณ์ของชีวิต ของผู้ใหญ่ที่ศรัทธา เช่นเดียวกับ อ.นุ
ช่วงนี้แวะเวียนเข้ามาน้อย ด้วยเหตุหลายประการ แต่ยัง ระลึกถึงเคารพรักป้าใหญ่เช่นเดิมค่ะ
ชลัญ
...ชื่นชมมากๆค่ะพี่นงนาท...ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน เป็นบันทึกที่มีคุณค่านะครับ
ว้าว!!! เป็นอีกหนึ่งความทรงจำดีๆ ในชีวิตเลยนะคะพี่ใหญ่ น่าชื่นชมมากเลยค่ะ^___^
เป็นความทรงจำดี ๆ ความศรัทธา ก่อให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจ
ของแสดงความยินดี และครูหยินก็พลอยมีความสุขไปด้วย
อยากเป็นกำลังใจให้..แม้น้อยนิด..แต่มันยิ่งใหญ่ในความรู้สึกครูหยิน
พี่ใหญ่ค่ะ บันทึกนี้มีคุณค่าทางจิตใจมากมายเลยนะคะ ดีใจที่ได้รู้จักพี่ใหญ่ค่ะ
ยินดีและชื่นชมกับประวัติและสุขภาวะของพี่ใหญ่ ขอบคุณมากครับ
ต้องขอบคุณ GotoKnow ที่ทำให้ได้มีโอกาสได้รู้จักผู้ใหญ่ที่น่าเคารพอย่างพี่ใหญ่ และทำให้มีโอกาสดีได้รับรู้เรื่องราวดีๆของปูชนียบุคคลอย่างอ.ป๋วยผ่านทางพี่ใหญ่ กราบขอบพระคุณพี่ใหญ่ที่นำมาเล่าเผื่อแผ่กันนะคะ อ่านแล้ว"ขนลุก" จะรออ่านเรื่องราวจาก"วัง"อื่นๆต่อนะคะ พี่ใหญ่
พี่ใหญ่ครับมาแจ้งว่า
มาขอเชิญเข้าร่วมชุมชนปลูกผักกินได้
อันนี้นะครับ
http://www.gotoknow.org/community/vegetables#/discussions
จะใช้คำหลักว่า ปลูกผักกินได้ ครับ
พอดีชุมชนเก่าที่พวกเราทำกันไว้ มีบันทึกจำนวนมาก หายากเลยเอามารวมที่ใหม่ครับ
เป็นความทรงจำที่งดงามค่ะ
เพียงเห็นภาพของ ทั้ง 3 วัง ก็เป็นบุญตาแล้ว
ได้รู้เรื่องวิถีชีวิตการทำงานของคนที่เป็นแบบอย่าง
อยากเริ่มต้นชีวิตการทำงานกับผู้นำองค์กรในอุดมคติจับต้องได้เช่นนี้
ตรงใจ ใครหลายคนเลยค่ะ
จะรออ่านตอนต่อไปค่ะ
ชอบมากเลยค่ะพี่ใหญ่ .... พี่ใหญ่โชคดีจริงๆ ที่ได้ร่วมงานกับท่าน ดร. ป๋วย นะคะ เป็นเคารพ ท่าน ดร.ป๋วย มาก ค่ะ ได้ไม่มีโอกาส ได้แต่อ่านเอกสาร ตำรา ข้อเขียนของท่าน...และ เรื่องหนึ่งที่P'Ple ...นำมาใช้เป็นแนวทางในการทำงาน ....ในปัจจุบัน...คือ ข้อเขียนที่ท่านกล่าวถึง "คุณภาพชีวิต ปฏิทินแห่งความหวัง จากครรภ์มารดา....ถึงเชิงตะกอน" ค่ะพี่ใหญ่
ดีจังเลยครับ ได้ทำงานร่วมกับคนดี คนเก่ง ของประเทศเรา..
สวัสดีครับ ป้าใหญ่ วันนี้เข้ามาอ่านคนสามวัง (ตอนที่ 1) ตอนนี้ว่างผมว่างจากภารกิจการศึกษาต่อแล้วครับ จะเข้ามาอ่านและติดตามเรื่อยๆ และจะพยายามเขียนบทความใน gotoknow ต่อไปครับ
ป้าใหญ่ สบายดีนะครับ
สวัสดีค่ะคุณใหญ่...ขอตามอ่านบันทึกย้อนหลังบรรยากาศและความทรงจำที่เปี่ยมสุขและคุณค่านะคะ...