ตามรอยสุนทรภู่
ไปนมัสการรอยบาทพระศาสดา
ปลายปีพ.ศ.2350 สุนทรภู่แต่งนิราศพระบาทซึ่งเป็นผลงานนิราศเรื่องที่ 2 เนื้อความในนิราศพระบาททำให้ได้รู้ว่าสุนทรภู่ตามเสด็จพระองค์เจ้าปฐมวงศ์ไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี การเดินทางในสมัยนั้นไม่ได้สะดวกสบายดังเช่นในปัจจุบัน สุนทรภู่ได้กล่าวไว้ว่า "ตามเสด็จเสร็จโดยแดนกันดาร นมัสการรอยบาทพระศาสดา"
สุนทรภู่เดินทางโดยเรือพายจากท่าวังหลัง ผ่านนนทบุรี ปทุมธานี อยุธยา ถึงท่าเรือใช้เวลาเดินทาง 2 วัน 2 คืน และยังต้องขี่ช้างบุกป่าไปอีก 1 วันจึงถึงวัดพระพุทธบาท การเดินทางที่ยากลำบากเช่นนี้ต้องอาศัยศรัทธาอย่างสูง เป็นที่มาของความเชื่อว่าผู้ใดเดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธบาทครบ 7 ครั้ง จะได้รับอานิสงส์ให้ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ด้วยศรัทธาบวกกับความเชื่อนี้จึงทำให้มีผู้ที่สู้อุตส่าห์เดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธบาทเป็นประจำ
รอยพระพุทธบาทประดิษฐานอยู่ภายในมณฑปที่ก่อสร้างอย่างงดงามตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยกรุงศรีอยุธยาและรัตนโกสินทร์ตอนต้น ทางขึ้นมณฑปเป็นบันไดนาคสามสายซึ่งหมายถึง บันไดเงิน บันไดทองและบันไดแก้ว ที่ทอดลงมาจากสวรรค์ ที่เชิงบันไดเป็นนาค 5 เศียรซึ่งสุนทรภู่กล่าวไว้ในนิราศพระบาทว่า
บันไดนาคนาคในบันใดนั้น ดูผกผันเพียงจะเลื้อยออกโลดเล่น
ขย้ำเขี้ยวขบปากเหมือนนาคเป็น ตาเขม้นมองมุ่งสะดุ้งกาย
คนโบราณมีความเชื่อเกี่ยวกับบันไดนาคว่าหากผู้ใดอธิษฐานแล้วกลั้นหายใจเดินขึ้นไปจนถึงพระมณฑปได้ คำอธิษฐานนั้นจะเป็นจริง เมื่อครูแ๊ป๊วพานักเรียนไปนมัสการรอยพระพุทธบาทตามโครงการวรรณคดีสัญจร "กาพย์เห่เรือเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์" นักเรียนหลายคนจึงปฏิบัติตามความเชื่อนี้
เจษสุชน ไม่รอช้า กลั้นใจวิ่งนำหน้าขึ้นมณฑป
จารุทัศน์-รัฐพงศ์ วิ่งตามมาติดๆ แต่ เอ๊ะ...บีบจมูกทำไมเดี๋ยวก็ขาดใจตายหรอก
6/6 ไม่อยากรอคิว ตัดสินใจขึ้นบันไดทอง มีอานนท์เป็นกองหน้า
จักรพงษ์ ไม่ยอมน้อยหน้า โชว์ความฮึดอึดเต็มพิกัด
ผ่านภาษาไทย ขึ้นบันไดสำเร็จ เพี้ยง...
ตามมาเร็วๆ ตัวเอง... อีกแค่ 100 ขั้นเท่านั้นเอง
ฉันจะขึ้นไหวไหมเนี่ย...มื้อเช้ากินแค่ข้าวเหนียวหมูห่อเดียวเอง
วิฑูรย์ หรือ จักรพงษ์ ใครจะฟิตกว่ากัน
ว้าว...อานนท์ กำลังจะถึงขั้นสุดท้ายแล้ว
แต่ 3 สามสาวนี่สิ จะไหวไหมเอ่ย ช่วยฉุดเค้าหน่อยสิตัวเอง
-สวัสดีครับ..
-ตามมานมัสการและขอพรด้วยคนครับ..
-เคยไปเมื่อหลายปีก่อน...
-ขอบคุณครับ