"ตัวอย่างการสอนให้เด็กรู้จักคิดต่างมุม" ... (ยังหายใจ ต้องไม่แ้พ้ : หนุ่มเมืองจันท์)


หนุ่มเมืองจันท์ เล่าไว้ในตอน "เปลี่ยนมุมมอง"
ที่ผมอ่านจากหนังสือ "ยังหายใจ ต้องไม่แพ้" ว่า

 

เคยคุยกับรุ่นพี่คนหนึ่งที่ส่งลูกสาวไปเรียนที่ต่างประเทศ

ฟังหลักสูตรการเรียนการสอนแล้วน่าอิจฉาริษยาเป็นยิ่งนัก

เขาเล่าให้ฟังถึงวิธีการสอนเด็กแบบให้รู้จัก "คิด" แทนที่จะให้ "จำ" เพียงอย่างเดียว

ตัวอย่างหนึ่งที่ผมชอบมาก คือ ครูใ้ห้นักเรียนเขียนจดหมายถึงแม่

สมมติสถานการณ์ว่า ถ้านักเรียนจะขอย้ายไปอยู่กับแฟน
เราจะให้เหตุผลกับแม่อย่างไร แม่จึงจะยอมรับ
ให้เรียบเรียงเป็นจดหมายส่งในวันรุ่งขึ้น

พอวันรุ่งขึ้น ครูจะสร้างสถานการณ์ใหม่ สมมติให้เด็กนักเรียนเป็นแม่

คราวนี้ให้เขียนจดหมายถึงลูกที่ขอย้ายไปอยู่กับแฟน
เราจะให้เหตุผลคัดค้านลูกอย่างไร

ผมไม่รู้ว่า ครูสรุปเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร แต่ฟังเ่ท่านี้ก็อึ้งแล้ว

นี่คือ การสอนแบบไม่ต้องสอน
สอนให้นักเรียนรู้คิดเอง
และสอนให้รู้จักคิดต่างมุม

ไม่ต้องมาสอนนักเรียนท่องจำว่า วัยนี้เป็นวัยเรียน อย่าริรักในวัยเรียนนะ
แต่ใช้วิธีให้นักเรียนคิดต่างมุม

เริ่มจากการคิดจากมุมของตัวเรา และไม่ใช่คิดด้วย "ความรู้สึก"
แต่คิดแบบมีเหตุผล

พอคิดจากมุมมองของตัวนักเรียนเสร็จ ก็เปลี่ยนองศาใหม่ เปลี่ยนมุมใหม่

ลองคิดจากมุมของคนที่เป็นแม่ดูบ้าง
ทุกคนคงยอมรับว่า คงยากที่แม่คนไหนจะเห็นด้วยกับ
ลูกที่เรียนแค่ระดับ "ไฮสกูล" จะย้ายไปอยู่แฟน

เมื่อแม่ทุกคนคิดเหมือนกัน ก็แสดงว่า แม่ต้องมีเหตุผลของแม่

จดหมายที่ให้นักเรียนเขียนจึงเริ่มต้น "จุดยืน" ที่เหมือนกัน
คือ "ไม่เห็นด้วย"

อะไรคือเหตุผลของคนที่เป็นแม่

ไม่บอกแต่ให้คิดเอง

ลองคิดแบบเข้าใจคนเป็นแม่ และเรียบเรียงเหตุผลออกมา

ผมเชื่อว่า เมื่อนักเรียนถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องคิดแบบ "แม่"

เขาจะเข้าใจ "แม่" มากขึ้น

เข้าใจมุมมอง เข้าใจเหตุผลของคนที่เป็น "แม่"

อาจไม่ครบร้อย แต่เข้าใจมากขึ้นอย่างแน่นอน

การสอนให้ "คิดต่างมุม" จะทำให้เขาเข้าใจคนอื่นดียิ่งขึ้น
และติดแน่นทนนานกว่าการสอนแบบท่องจำ
เพราะการท่องจำนั้นอาจพูดได้ แต่ไม่เข้าใจ

ส่วนการคิดต่างมุมนั้นท่องไม่ได้
แต่จดจำนาน

 

............................................................................................................................................

 

เหตุผลที่ผมนำเฉพาะตอนต้นของตนมานำเสนอ
เพราะสนใจใน "วิธีการเขียนจดหมายถึงแม่"
และการตั้งโจทย์ให้รู้จักคิดถึงใจคนอื่น

ถือเป็นการสอนแบบให้เด็กคิดเองจริง ๆ

นี่คือ ประสบการณ์สำคัญที่คนเป็นครูควรให้เขา

ลองนำปรับใช้ดูนะครับ

 

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)...

 

.............................................................................................................................................

ขอบคุณหนังสือดี ๆ ...

หนุ่มเมืองจันท์.  ยังหายใจ ต้องไม่แพ้.  กรุงเทพฯ : มติชน, ๒๕๕๖.

 

หมายเลขบันทึก: 547645เขียนเมื่อ 7 กันยายน 2013 21:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 กันยายน 2013 21:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

ขอแลกเปลี่ยนนะคะ

ดิฉันเคยใช้กระบวนการสอนแบบที่อาจารย์เล่าไปใช้ในโปรแกรมทักษะชีวิตแล้วได้ผลดีค่ะ

วัยรุ่นไม่ชอบให้ใครมาสั่งค่ะ โดยเฉพาะในเรื่องที่อ่อนไหว    ถ้าผู้ใหญ่พูดเขาจะต้าน  วิธีเปิดประเด็นแล้วให้เขาพูด หรือ เขียน จึงเป็นการสอนที่ได้ผลดี  เมื่อให้เขาได้พูดแลกเปลี่ยนกันยิ่งเห็นความแหลมคมทางความคิดที่ผู้ใหญ่อึ้งได้ค่ะ  แต่ครูต้องไม่ครอบงำ

ประเด็นต่างๆ ในสังคมสามารถส่งไปให้พวกเขาคิดได้ทุกเรื่อง  ดิฉันลองใช้มาแล้วค่ะ

ดิฉันเคยทำแผนการสอน โดยให้แม่สมมุติตัวเองเป็นลูก  ให้ลูกสมมุติตัวเองเป็นแม่  แล้วตั้งประเด็นให้คุยกันในกลุ่มตัวเองก่อน  แล้วแต่ละฝ่ายเล่าสู่กันฟังในห้องใหญ่  เป็นสอนที่ไม่ต้องสอน  น่าประทับใจมากค่ะ

ขอบคุณบันทึกดีๆ ค่ะ 

เป็นการสอนที่ “ไม่ต้องสอน” และได้ผลดีนะคะ เด็กๆ ได้ฝึกคิด และคิด ในมิติ มุมมอง อื่น มุม” ที่เป็นแม่” …. “มุมที่เป็นลูก” ถ้าฝคกคิดแบบนี้ เด็กคิดเก่งขึ้นจริงๆค่ะ ขอบคุณบันทึกดีดีนี้ค่ะท่านWas

เก็บไว้เป็นข้อมูล  มีโอกาสคงได้ลองนะคะ .... เปลี่ยนจุดยืนคิด

นั่งแทน  อิ อิ

เป็นหนังสือที่น่าอ่านมาก

ชอบการให้คิดนะครับ บ้านเรามีน้อยมากๆ

ฉุกคิดขึ้นมาได้
เราก็สอนให้เด็กคิด
แต่เป็นการคิดเพื่อตัวเอง หาเหตุผลเข้าข้างตัวเอง
ยากที่จะสอนให้มองในจุดที่คนอื่นยืน เข้าใจในเหตุผลผู้อื่น
ยากด่านแรกคือ เขาอยากเข้าใจผู้อื่นหรือเปล่า?
ในสังคม ที่ปัจเจกขึ้นเรื่อยๆ

ีพี่ nui คือ ผู้ที่ใช้กระบวนการนี้ตัวจริง เสียงจริง

ขอบคุณประสบการณ์ของพี่ครับ ;)...

อยากให้เป็นเช่นนั้นครับ พี่เปิ้น Dr. Ple ;)...

ขอบคุณมากครับ

Very Good ครับ คุณหมอธิ ทพญ.ธิรัมภา 555

ขอบคุณครับ ;)...

บ้านเราน้อย เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างทำให้ครูไม่สามารถใช้เวลาแบบนี้ได้ครับ

ขอบคุณมากครับ ท่านอาจารย์ ขจิต ฝอยทอง ;)...

นั่นแหละครับ คุณหมอบางเวลา ป. ;)...

โจทย์ยากสำหรับคุณครูหมอ ;)...

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณค่ะ ใจเขาใจเรา

เมื่อฉันยืนแทนที่เธอ และเมื่อเธอยืนแทนที่ฉัน

แม้จะยืนคนละจุดสูงต่ำไม่เทียมกัน

หากเมื่อสลับจุดยืนเพื่อการเข้าถึงจิตวิญญษณของกันและกัน

ย่อมมีโฮกาสเข้าใจกันและกันมากยิ่งขึ้น นำไปสู่การคิด...

ดีจังเลย ขอบคุณค่ะ

 

 

สอนให้เด็กคิดในลักษณะนี้...ครูนกชอบค่ะ...เพราะอย่างที่คุณหมอ. ป. ได้เพิ่มความเห็นเกี่ยวกับสังคมที่มีปัจเจกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อัตตาสะสมมาเรื่อยๆ ต้องให้เด็กคิดในลักษณะหัวอกเขาหัวอกเรา.....จะได้เข้าใจหยินหยางได้อย่างมีศิลปะในการใช้ชีวิตในสังคมให้สุขร่วมกัน(มากกว่านี้)

สนับสนุน คุณครูนก noktalay อย่างเป็นทางการครับ ;)...

ขอบคุณ บันทึกคุณภาพ  "ความคิดต่างมุม"....

ทำให้ ผู้เป็นแม่ และ มีบมบาท เป็นอาจารย์  ได้ประโยชน์  รอบด้าน ค่ะ /

ิยินดีนัก ๆ ครับ คุณ Joy ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท