"จิตน่ะมันยังไม่ปกติ มันก็พูดไปทั่ว ไปตามที่มันคิด อีกนานกว่ามันจะตื่น" คือ คำพูดของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ที่พูดถึงเด็กคนหนึ่ง ... ที่มีอุปนิสัยค่อนมาทางกิเลสตัวหลง และราคะมาก ...
จากเหตุการณ์เมื่อเกือบ ๔ เดือนก่อน ที่เธอเกือบจะทำเรื่องอื้อฉาวต่อพระภิกษุ ซึ่งองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ได้ให้พระอาจารย์และข้าพเจ้าหาหนทางระงับก่อนแต่ต้นลมต้นไฟ... "กำหนัดมันขึ้น" ... คือ คำพูดของพ่อแม่ครูบาอาจารย์
วันนี้ข้าพเจ้านั่งดูการเคลื่อนไหวการไปมาของเธอ ตลอดเกือบสี่เดือนที่ผ่านมา เธอไม่ได้ตระหนักถึงความสำนึกดั่งที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านได้บอกล่วงหน้า และนึกถึงคำกล่าวว่าร้ายที่ว่าให้แก่ข้าพเจ้า ดั่งเช่น แม่ชีแม่ขาวไม่มีใครอยู่วัดได้ เพราะข้าพเจ้าไปด่าไปไล่ แต่หลายเดือนมานี่ก็ประจักษ์แจ้งถึงคำพูดที่เพ้อเจ้อ เพราะแม่ชีแม่ขาวต่างก็หลั่งไหลกลับมาจำพรรษาที่วัด
ความหลง ความโง่ที่ถูก "ความไม่รู้" (อวิชชา) ครอบงำใจอยู่มาก แต่ก็ยังหลงอยู่ว่า ตนถูก ... ตนรู้ นี่คือ ความน่าสงสารที่เกิดขึ้นในใจ ได้แต่บอกผู้คนที่เห็นเรื่องราวและแสดงความรู้สึกตำหนิออกมา...ว่า ให้สงสารเด็กและผู้อุปการะเธอให้มากๆ เพราะคงอีกนานกว่าจะตื่นดั่งองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านบอกสิ่งที่เราทำได้คือ สร้างความรู้สึกสงสารเมตตาให้เกิดขึ้นในใจเรา
เวทนาที่เกิดที่เรารู้สึก...ที่สุดเราก็อาจไปถึงซึ่งอุเบกขาในระดับที่ละเอียดขึ้น ละเอียดขึ้น เราได้แต่เฝ้ามองพฤติกรรมเขา แล้วกลับมาย้อนดูใจเรา ใจเราเป็นอย่างไร อกุศลเจตสิคละเอียดขึ้น หรือกุศลเจตสิคละเอียดขึ้น
...
๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๖
อวิชชาย่อมอยู่กับปุถุชนทั่วไป แม้แต่รัฐบาลก็มุ่งแต่แก้กฎหมายที่ดูแล้วมีแต่ชนะของพวกพ้องแต่ประชาชนคงไม่มีสิทธิดี ๆ