เรื่องขอร้องจากแม่ผู้ป่วยเด็ก


เรื่องจากผู้ป่วย

ดิฉันได้รับการขอร้องจากแม่ผู้ป่วยเด็กเรื่องยาหลังจากตรวจเด็กอายุประมาณหนึ่งขวบที่เป็นหวัด คออักเสบ      ดิฉันสั่งยาAmoxycillin    syrupและยาอื่นๆ      คุณพยาบาลก็เริ่มบรรยายการใช้ยาต่างๆที่เกี่ยวกับหวัด     เมื่อถึงยา amoxy ก็เริ่มบรรยายถึงการใช้    ขนาดของยา   และ การเก็บยาว่าต้องเก็บในตู้เย็นค่ะ

ผู้ป่วยเดินเข้ามาหาดิฉันพร้อมกล่าวด้วยใบหน้าขอร้องว่า    คุณหมอขาช่วยสั่งยาให้ใหม่เถอะนะคะ     ดิฉันลำบากเหลือเกินที่เวลาหมอสั่งยาดิฉันต้องใช้กระติกน้ำแข็งหิ้วยาไปมาตลอดเวลาเพื่อให้ลูกดิฉันกิน ยา       การกินยาต้องกินตั้งสี่ครั้ง     เวลาดิฉันพาเด็กไปธุระด้วยก็ต้องหอบกระติกน้ำแข็งหนึ่งใบไปตลอดเพราะกลัวยาเสียเนื่องจากต้องอยู่ในตู้เย็นตลอดเวลา     ดิฉันไม่กล้าออกจากตู้ยกเว้นเวลาเทยาค่ะ

    ดิฉันเลยบอกคนไข้ว่าไม่ต้องแช่แล้วค่ะ     เพราะยาเก็บข้างนอกตู้ไว้ได้แต่ต้องกินให้หมดใน7วัน

ดิฉันสงสารคนไข้ที่ต้องแบกกระติกอยู่นานกว่าจะทราบข้อเท็จจริงค่ะ     การสื่อสารผู้ป่วยนี่สำคัญมากจริงๆค่ะ     ถ้าดิฉันไม่แจ้งให้ทราบคงต้องแบกกระติกอีกหลายปีค่ะ     ดิฉันเข้าใจว่าเภสัชที่แนะนำผู้ป่วยเกี่ยวกับการเก็บยาน่าจะเจอปัญหานี้บ้างและคงอธิบายได้ชัดเจนทำให้ไม่เกิดเหมือนกรณีนี้ค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #ผู้ปวย#คลินิค
หมายเลขบันทึก: 54706เขียนเมื่อ 15 ตุลาคม 2006 17:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

บางคนที่เค้าไม่ทราบก็ไม่ทราบจริง ๆ นะคะ  เพราะฉะนั้นบางครั้งในเรื่องของ Information  คงต้องชัดเจนพอสมควร  แต่ใครเล่า ?? จะมานั่งบอกสิ่งที่ซ้ำ ๆ กันทุก ๆ วันหรือทุก ๆ คน  เพราะวันนี้ "เวลา" มีค่าเสียเหลือเกิน ทุกอย่างต้องเร่งรีบ  กระชับ  จนบางครั้งอาจขาดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อยไป

 

blog ของน้องนิว

ยอมรับครับว่าบางทีผมก็แนะนำไปไม่ดีเนื่องจากคนไข้รอคิวยาว ต้องกระชับคำพูดแน่น ซึ่งบางทีอาจมีคนไข้สงสัยแล้วเก็บงำไว้ น่ากังวลครับ

น่าจะเปลี่ยนคำพูดจาก "ต้องเก็บ" มาเป็น "ควรเก็บ" ดีไหมครับ

เคยเจอถามหลายหนครับเพราะคนไข้หลายคนไม่มีตู้เย็นใช้ หนึ่งในนั้นคือผมด้วย (อยู่หอไม่มีตู้เย็นคับ)

ยาหลายตัวที่คำแนะนำการเก็บจะก้ำกึ่งยากตัดสินใจครับ เพราะบริษัทจะบอกว่ายาต้องเก็บที่อุณหภูมิต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส (ตามตำราฝรั่งเป๊ะ คือบ้านเขาหนาวครับ) ซึ่งถ้าใครอยู่ห้องแอร์ก็สบายไป แต่ถ้าใครไม่มีแอร์นี่จะคิดหนักครับว่าควรเก็บตู้เย็นไหม

ถ้ามีตู้เย็น อย่างน้อยก็เก็บไว้ก่อนนอนก็ยังดีครับ คือ ตอนเช้ามาก็ยกให้ลูกไปโรงเรียนทานที่โน้นไป กลับมาค่อยใส่ตู้เย็น

ส่วนถ้าไม่มีตู้เย็นผมก็แนะนำว่าถ้าบ้านพี่(ญาติคนไข้) ไม่ร้อน แสงแดดไม่ส่องก็ไม่ต้องเก็บในตู้เย็นก็ได้ครับ และถ้าไม่มีเย็นที่ดังกล่าวก็พยายามสร้างขึ้นมาครับ แล้วแต่ความสามารถของคนไข้(ญาติ)

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท