เมืองแห่งตำนานพระนางเลือดขาว
เรา ๕ สาวเดินทางถึงท่าเรือตำมะลัง จ.สตูล ติดต่อซื้อตั๋วเรือเฟอรี่ไป-กลับคนละ ๖๐๐ บาท (ถ้าไม่มี Passport ต้องทำ Borderpass เสียเงินเพิ่มอีกคนละ ๓๐๐ บาทค่ะ) ให้บริษัททัวร์จองโรงแรมราคา ๑,๒๐๐ บาท/คืน และเช่ารถสำหรับเที่ยวในลังกาวี ๒,๘๐๐ บาท/วันครึ่ง (เราจะกลับเรื่อเที่ยวแรกของที่โน่นคือ ๑๐ โมงครึ่ง) และแลกเงินริงกิตไปใช้จ่ายที่โน่น ๙.๔ บาท/๑ Ringgit เราลงเรือเที่ยวแรกเวลา ๐๙.๒๐ น.ใช้เวลาเดินทาง ๑ ชม.ค่ะ (เวลาที่ลังกาวีจะช้ากว่าไทย ๑ ชม.)
ใกล้ถึงลังกาวี เราจะเห็นสัญลักษณ์ของเกาะลังกาวี คือพญานกอินทรีย์ตัวใหญ่ ยืนเด่นเป็นสง่าต้อนรับเราอยู่
หลังจากผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองเรียบร้อยแล้ว เราโทรศัพท์หาโชเฟอร์รถที่จองไว้ ชื่อคุณยีมัน (บริษัททัวร์ให้ซิมการ์ดของมาเลเซียมาใช้ขณะอยู่ที่นี่ค่ะ) กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราแวะทานข้าวเที่ยงแบบง่ายๆริมถนน เจ้าของร้านอัธยาศรัยดีมาก พูดไทยได้นิดหน่อย และเริ่มทัวร์ลังกาวีทันที..
เราเริ่มที่ Caleria PERDANA พิพิธพันธ์มหาเธย์ (ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของมาเลเซีย มีบทบาทอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศมาเลเซีย) จ่ายค่าเข้าชมคนละ ๑๐ ริงกิต ต้องจ่ายค่ากล้องถ่ายรูปด้วย เราจึงเอากล้องเข้าไปตัวเดียว แบ่งเป็นโซน A-C มีของที่ควรระลึกถึงมากมายให้ชม
ต่อด้วย Egle Feeding + Cave of Bats ต้องนั่งเรือเข้าไปให้อาหารนกอินทรีย์ ไปดูถ้ำค้างคาว ซึ่งราคาค่อนข้างแพง ๒๕๐ ริงกิต/ชม.เราตกลงกันว่าไม่เข้า..
Black sand beach เป็นสถานที่ต่อมา.. หาดทรายไม่ดำอย่างที่คิด เค้าเล่าว่าสีดำเริ่มจางลงเรื่อยๆหลังจากลังกาวี พ้นจากต้องมนต์คำสาบแช่งของพระนางมัสซูรี
และต่อด้วย Cable Car กระเช้าค่อยๆขึ้นไปบนเขา มีสองพักให้แวะ ขึ้นไม่เร็วมาก ไม่น่ากลัว อากาศบนเขาเย็นสบาย แต่หมอกเยอะมาก มองเห็นวิวด้านล่างชัดเป็นช่วงๆ แต่ทุกคนชอบมากค่ะ
ลงจากกระเช้าแล้วเราไปที่ Kota Mahsuri เพื่อเยี่ยมบรรพบุรุษของชาวภูเก็ต
เราพักที่ Bahagia Hotel หลังจากที่เราเดินหาร้านอาหารที่ถูกใจไม่ได้ ส่วนใหญ่เป็น Sea Food ซึ่งเราคิดว่าบ้านเราคงอร่อยกว่าเยอะ.. จึงเลือกทานอาหารในโรงแรมแทน อิ่มอร่อย ราคาแสนถูก (บนโต๊ะนั่นเพียง ๕๕๐ บาทเท่านั้น) และวันนี้ ๗ ส.ค.๕๖ เป็นวันคล้ายวันเกิดพี่เปีย'สาวลำปาง พวกเราจึงร่วมเป่าเค้ก และร้องเพลง HBD.. ขอให้พี่เปียมีความสุขมากมาย ทุกๆวินาที ได้ท่องเที่ยวร่วมกันตลอดไป
Shopping สินค้าส่วนใหญ่จะเป็นผ้าโสร่งปาเต๊ะ ผ้านวม สุรา บุหรี่ และขนมช็อคโกเล็ตหลายอย่าง.. ได้มากันคนละเล็กน้อย ด้วยขี้เกียจหอบกลับ
เช้าวันรุ่งขึ้นเป็น "วันฮารีรายอ" ๘ ส.ค.๕๖ เป็นวันสำคัญของศาสนาอิสลาม ชาวมุสลิม จะเดินทางกลับภูมิสำเนาของตน มาร่วมประกอบพิธีกรรมทางศาสนาโดยพร้อมเพรียงกัน ได้พบปะ สังสรรค์กับเพื่อน ญาติพี่น้อง เพื่อจะได้ขออภัยต่อกัน และเป็นวันสิ้นสุดการถือศีลอดด้วย คุณยีมันขอมารับเราช้าหน่อย (หลังเสร็จพิธี)
เรากลับเรือเฟอรี่เที่ยว ๑๐.๓๐ น. ลังกาวียังมีสถานที่เที่ยวอีกหลายแห่ง แต่เราไม่ได้ไปค่ะ
Bye Bye Langkawi
คุณยีมัน โชเฟอร์ของเราค่ะ
เอา Link Clip ทายาทเจ้าหญิงมัสซูรี รุ่นที่ ๗ มาฝากค่ะ
ความเห็น (13)
ต่อมอิจฉาทำงาน อิจฉาสุดๆ
แหม แหม ได้ตามรอยพระนางมัสซูรีด้วยง่ะ
คราวหน้าชวนkaaom ไปอีกนะคะคุณพี่
ขอบคุณที่นำเที่ยวชมลังกาวีจ้ะ คุณมะเดื่อคงไม่มีวาสนาจะไปเยือนหรอกจ้ะ
tuktun ไม่ต้องอิจฉาเลย ลงใต้เมื่อไหร่ ต้องลองไปดูนะจ๊ะ
Cable Car นี่บรรยากาศสุดยอด แต่อาจจะน้อยกว่า Genting นิดนึงนะ
kaaom ไม่เข็ดช่ายม๊ายยย ที่ต้องทำหลายๆอย่างแทนคุณพี่ ฮิฮิ
คุณมะเดื่อ ใกล้ประจวบฯนิดเดียวเองนะคะ จากสตูลเพียงหนึ่งชม.
ใช้เวลาน้อยกว่าไปเกาะรอก จ.ตรังอีกค่ะ
มาร่วมมีความสุขกับการท่องเที่ยวดีๆเช่นนี้้ค่ะ
ขอบคุณค่ะพี่ใหญ่
สนุกกับการได้เที่ยวกับเพื่อนในสถานที่ใหม่ๆค่ะ
เห็นแล้วอยากไปบ้าง ผ่านไปแถวนั้นไม่ค่อยได้แวะเลย ตอนอยู่ใต้ แบบนี้ต้องขอไปด้วยครับพี่
ครั้งหน้าจะชวนนะคะ
ว่าแต่ว่าอ.ขจิต จะว่างเหรอคะ เห็นงานยุ่งซะจนาดนั้น ^__^
น่าไป ๆ สวย ๆ ๆ ๆ
เค้าบอกว่า Langkawi เที่ยววันเดียวก็ทั่วค่ะ..
แต่พวกเราไม่ชอบไปกับทัวร์ เราต้องการกำหนดเวลาในการเยี่ยมชมแต่ละแห่งด้วยตนเองค่ะ
แต่ละที่สวยค่ะ.. แต่ kunrapee ว่าเมืองไทยมีที่เที่ยว สวยกว่าเยอะ ^__^
ขอบคุณคุณระพีมากนะคะ ที่พาเที่ยวลังกาวี ก่อนนี้ "ไอดิน-กิ่นไม้" เคยแค่เที่ยวที่นี่ผ่านรายการทีวีสองสามครั้ง ที่ได้ไปจริง คือที่กัวลาลัมเปอร์ในปี ๒๕๔๙ ค่ะ ไปร่วมงานสัมมนาการนำเสนองานวิจัย อยู่ ๗ วัน ได้เที่ยววันเดียวค่ะ
KL ยังไม่เคยไปเลยค่ะ อยากไป genting เหมือนกันค่ะ
KL ยังไม่เคยไปเที่ยวเลยค่ะ อยากไป genting เค้าว่าสวยมาก