วงจรชีวิตของผม มีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับเด็กเสมอ วันหนึ่งเห็นเด็กชายหญิงสองสามคนกำลังทานไอศกรีมหมวกอยู่ ดูท่าทางกำลังเอร็ดอร่อย ความคิดเกิดขึ้นแว่บเข้ามาในสมองทันทีที่อยากจะลองใจเด็กๆ ว่าจะหวงไอศกรีมหรือไม่ จึงเดินเข้าไปแล้วเอ่ยปากว่า "ขอกินมั่งซิ" เด็กๆ หันไปสบตากันแล้วตัดสินใจอย่างยิ่งใหญ่ด้วยการยื่นหมวกไอศกรีมส่งมาให้ผม...ผมรู้สึก "ปลื้ม" เหลือล้น.....แล้วตอบกลับไปว่า กินกันเถอะ ขอบใจนะ เธอเป็นเด็กดีมาก......ผมดีใจ ไม่ใช่ดีใจที่จะได้ทานไอศกรีม แต่ดีใจที่พวกเขาไม่หวง แต่กลับมีน้ำใจ โดยเฉพาะไอศกรีมกับเด็กนี่เป็นของชอบของโปรด แต่พวกเขากล้าให้ผม นั่นแสดงว่าเด็กๆ กลุ่มนี้ร่ำรวยน้ำใจ ถ้าคนโตอย่างเราๆ จะส่งเสริมเขาในด้านที่ดีๆ เขาก็จะเป็นคนดีไปจนเติบใหญ่ เพราะเด็กนั้นเปรียบได้กับผ้าขาวสะอาดบริสุทธิ์ ผมนึกถึงบทกวียอดเยี่ยมบทหนึ่งชื่อ "เด็กกางร่ม" ของศักดิ์สิริ มีสมสืบ กวีซีไรต์ปี 2535 พรรณนาถึงความมีน้ำใจของเด็กๆที่มีต่อสัตว์โลกและเพื่อนมนุษย์ดังนี้ "ฟ้าคลั่งเกรี้ยวกราด ฝนสาดเม็ดคม เด็กน้อยกางร่ม อุ้มเจ้าสามสี เดินฝ่าสายฝน อีกคนขอเข้า สองคนกางร่ม แบ่งกันหลบฝน อีกคนขอเข้า สามคนกางร่ม เบียดกันหลบฝน เอ้า...อีกคนขอเข้า ยิ้มแย้มแจ่มใส ยื้อไปยื้อมา เฮฮาเสียงลั่น เปียกกันทั้งสี่ โอ้เด็กน้อยเอย เป็นห่วงเป็นใย เพียงกางร่มไว้ ให้เจ้าสามสี มันร้องเหมียวเหมียว เหลียวดูหน้านั้นทีหน้านี้ที" เป็นไงครับ นี่คือความสันติสุขอย่างแท้จริงจากการมีน้ำใจ