แม่...ในวัยที่เปลี่ยนแปลง
แม่...ในวัยที่เปลี่ยนแปลง...แต่รักลูก ไม่เปลี่ยนแปลงเลย
แม่ด้วยวัย ๗๒ ปี ในวันทำบุญที่บ้าน เมย. ๕๖
เสียงหัวเราะเบาๆทางโทรศัพท์ ปลายสายขณะพูดคุย ฉันสัมผัสได้ด้วยใจ สื่อถึงกันเสมอว่าแม่สุขภาพดีอารมณ์แจ่มใส แม่เล่าพลางพร้อมการแทรกคำถามจากฉันเป็นระยะๆๆ ... แม่มักเล่าเรื่องได้เห็นภาพแจ่มชัดตามไปด้วยเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ตื่นเต้น เช่น เล่าเรื่องช่วยชี้เบาะแสให้ตำรวจจับขโมย ซึ่งขโมยของจากกระเป๋าแม่ เรื่องขำๆ หรือเรื่อง น่าเห็นใจ สลดใจ ฯลฯ .... ฉันมองตัวเองและสะท้อนว่า...ยีน (genes) ส่วนนั้นมาอยู่ในตัวฉันไม่น้อย เพราะเพื่อนๆต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฟังฉันเล่าเรื่องแล้วเห็นภาพ เห็น action...นี่ละมั้งที่กล่าวกันว่า ..."เชื้อไม่ทิ้งแถว" .. ก็ฉันลูกแม่ นี่นา :-))
แม่ด้วยวัย ๗๒ ปี จัดเป็นกลุ่มเสี่ยงที่หน่วยงานเฝ้าระวังไข้หวัดใหญ่ระบาดได้เชิญชวนให้ไปฉีดวัคซีน ในปีก่อน ชวนกันไปฉีดวัคซีนทั้งพ่อและแม่ที่โรงพยาบาล กลับมาถึงบ้านวันรุ่งขึ้นก็ป่วยทั้งคู่ ปีนี้มีการรณรงค์อีก แม่..โดยนิสัยเป็นผู้ที่สนใจ เรื่องสุขภาพ ก็ไปรับฉีดวัคซีนอีกครั้ง แต่พ่อไม่สนใจจะไปด้วยในครั้งนี้ จึงเป็นที่มาของเรื่องเล่า
ณ โรงพยาบาลประจำอำเภอ.... ในขั้นตอนแรกรับบัตร ..หากผู้้มารับบริการมีอายุเกิน ๖๐ ปี การเข้าคิวรอรับบัตร ก็จะประทับตราว่า "ผู้สูงอายุ" เพื่อให้เป็นช่องทางด่วน ไม่ต้องรอนานเป็นการอำนวยความสะดวกให้ แม่ไม่รอช้าเข้าใจในข้อแนะนำ เดินตรงปรี่ไปเข้าคิวเพื่อรับบัตรและเป็นผู้สูงอายุ หากแต่ครั้งนี้ถูกซักอยู่นาน ด้วยเจ้าหน้าที่เกิดความไม่เชื่อว่าแม่จะมีอายุเกิน ๖๐ ปี มาใช้สิทธิ์ของผู้สูงอายุ มิวายจะชี้แจงแต่ก็ยังจะคลางแคลงว่าแม่ต้องการลัดคิว !! เพื่อใช้ช่องทางพิเศษสำหรับผู้สูงอายุ แม่ ..ไม่ได้เอาบัตรประชาชนติดตัว มีเพียงบัตรโรงพยาบาลจึงไม่มีหลักฐานยืนยัน ฉันถามแม่ว่า บัตรโรงพยาบาลก็มี ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ?? อีกอย่าง...ทางโรงพยาบาลอาจดูจากข้อมูล การเป็นข้าราชการบำนาญ ใช้ระบบการ "จ่ายตรง" เพราะจะมีในฐานข้อมูลอยู่แล้ว
ผ่านด่านแรกไป ต่อมาที่โต๊ะคัดกรองผู้ป่วย...เกิดปัญหาเช่นเดียวกัน ก็ต้องอธิบายกันยืดยาวอีก ... เฮ้อ!! รับรู้ได้ถึงอารมณ์นั้น แต่แม่ก็ใจเย็น อธิบายจนคุณพยาบาลยอมรับว่า เป็นผู้สูงอายุจริงๆด้วยอายุเกิน ๖๐ ปี สุดท้ายเรื่องจบลง..... สิ่งที่คุณพยาบาล กล่าวออกมาด้วยความแปลกใจ ว่า ไม่น่าเชื่อเลยว่า คุณแม่อายุ ๗๒ แล้ว ยังเดินคล่อง หน้าตาดูอ่อนเยาว์ ดูแล้วไม่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ.....เมื่อแม่เล่าจบฉันพลันแซวแม่เล็กน้อย ...เอ..เป็นเพราะแม่ยังประทินผิวด้วยไนท์ครีม ไหมหนอ?? หรือเพราะอย่างอื่นที่ความเป็นตัวตนของแม่ ??? .. คงเป็นประการหลังมากกว่านะค่ะ แม่:-))
แม่และคุณป้า (พี่สาวคนโตของแม่) วัย ๘๗ ปี ยังคงแข็งแรงตามวัย
ถ่ายภาพนี้ทั้งสองท่านเมื่อครั้งทำบุญที่บ้าน ...เมย. ๕๖
แม่และลูกชายคนโต (พี่ชายฉัน) ห่างกัน ๒๐ ปี แม่แต่งงานและมีลูกเร็ว ทำให้เวลาไปไหนด้วยกัน ก็จะดูเหมือนวัยไม่ต่างกันมาก เมื่อแม่เล่าให้ฟัง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล ฉันประมวลให้แม่ฟังว่า สาเหตุที่ส่วนใหญ่ ใครๆมักจะบอกว่า แม่ดูยังไม่เปลี่ยนแปลงนัก ยังไม่ทรุดโทรม ..สุขภาพแข็งแรง อารมณ์แจ่มใส อาจจะเป็นเพราะ
๑ เมื่อสมัยเด็กๆ แม่เป็นนักกีฬา นอกจากสอนให้มีน้ำใจเป็นนักกีฬา มีร่างกายที่แข็งแรงแล้ว ยังส่งผลต่อการดำเนินชีวิตต่อๆมา ที่ค่อนข้างแอคทีพ มักมีอะไรๆทำอยู่เสมอ ไม่ปล่อยเวลาให้ว่าง เกษียณราชการก่อนในวัย ๕๕ จากนั้นทำงานในสวน และ ปัจจุบันออกกำลังกายเพิ่ม ด้วยการเดินเร็วๆเป็นประจำ ทุกเช้าตรู่ ก่อนทำภาระกิจประจำวัน และสิ้นสุดวันด้วยการสวดมนต์ไหว้พระ หน้าโต๊ะหมู่บูชา ก่อนนอนทุกคืน
๒ แม่เป็นคนใจเย็น อารมณ์ค่อนข้างมั่นคง ไม่ว่าจะมีเรื่องร้อน จากภายนอก ภายในครอบครัว แม่รับฟัง อย่างตั้งใจ แม่เคยบอกว่า เพื่อนๆชมแม่ ที่รับฟังเรื่องราว ที่ได้ระบายไว้ และเชื่อแน่ว่าไม่แพร่งพรายไปยังผู้อื่น..เป็นนักฟังที่ดี เทคนิคง่ายๆในการบำบัดความไม่สบายใจของผู้คน
๓ แม่มีความอดทนเป็นเลิศ สถานการณ์ในครอบครัว ทุกอย่างแม่ แก้ไขได้ยามคับขัน โดยมีพ่อเป็นปราการสำคัญ
๔ แม่เป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว ที่มีช่วงอายุห่างกับพี่คนโตมากๆ มีพี่น้องจำนวน ๕ คน จึงมีพี่ๆ อีกหลายๆคน คอยช่วยเหลือ คู่คิดคู่ปรึกษา อารมณ์ดี
๕ แม่จากบ้านไปเรียนต่อ เรียนจบมาทำงาน ก็เจอกับพ่อ จากนั้นก็แต่งงาน มีพวกเรา ๔ คนพี่น้อง คลานตามๆๆกันมา ทำให้แม่ยังคงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ ปฏิบัติภาระกิจดูแลทุกชีวิต รวมถึงหมา แมว เฉกเช่น ลูกๆยังเล็กๆ จวบจนปัจจุบัน
๖. เรื่องอาหารการกิน แม่เตรียม ปรุงอาหารเอง โดยส่วนใหญ่ ใช้วัตถุดิบเป็นพืชผัก สดจากธรรมชาติ และมีวินัยในการกิน เพราะแม่ทานข้าวในปริมาณหนึ่งจานเท่านั้นและจะไม่แถม ไม่ว่าเราจะคะยั้นคะยอ หรือ มื้อนั้นอร่อยมาก หนึ่งจานตลอดมา แต่ก็มีพื้นที่เหลือไว้เสมอสำหรับขนมหวาน.. ดูเหมือนจะเป็นสิ่งเดียวที่ฉันไม่ละเลย เฝ้าระวังและช่วยตรวจน้ำตาลด้วยเครื่องตรวจวัดระดับน้ำำตาลจากเลือด ที่อ่านค่าเป็นดิจิทัล มีจำหน่ายและใช้สะดวก ซึ่งขณะนี้ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ
๗ แม่เป็นผู้ทีเอาใจใส่เรื่องสุขภาพ เป็นความโชคดีที่ยังไม่มีโรคประจำตัว แต่จะไปพบแพทย์เมื่อป่วยไข้เล็กน้อย และเป็นกำลังสำคัญ ในการดูแลสุขภาพของพ่อ (ขณะนี้อายุ ๘๐ ปี) และมีโรคประจำตัว เบาหวาน และโรคหลอดเลือดหัวใจ ทุกครั้งที่พ่อไปพบแพทย์ตามนัด แม่ก็จะนั่งรถไปด้วย คอยช่วยดูถนนหนทาง ขณะขับรถทางไกลไปที่โรงพยาบาลศูนย์ในจังหวัดใกล้กัน เมื่อได้ยามาหลายชนิด แม่จะเป็นผู้ที่เอาใจใส่จัดการเรื่อง ...การจัดยาให้เป็นระบบ ....พร้อมหยิบได้ง่ายจัดเรียงไว้ในตะกร้ายา เช่น ยาบางชนิดรับประทานช่วงเช้า ก่อนอาหาร หรือก่อนนอน ยาบางชนิดกินครึ่งเม็ด ก็จะถูกตัดแบ่งไว้ หรือใส่่ใจในข้อระวังเช่นดื่มน้ำตามมากๆหลังรับยาบางชนิด ทั้งหมดนั้นซองยาจะถูกจัดแยกเพื่อสะดวกใช้ และไม่หลงลืม หากเมื่อจำเป็นเร่งด่วน ฉุกเฉิน ทุกคนจัดยาให้พ่อได้ หรือพ่อทำด้วยตนเองไม่ยากนัก และก็ทำเรื่อยมาจนปัจจุบัน
๘ แม่มีนิสัยชอบจดบันทึกและเขียนไดอะรี่ การที่พ่อต้องไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย ติดตามโรคต่อเนื่องตามนัดระยะสองเดือน โดยนำผลการตรวจเลือดไปแสดง แม่ก็จะจดบันทึกไว้ในกระดาษเก็บไว้ดูเปรียบเีทียบ เมื่อฉันถามไปทางโทรศํพท์ ก็บอกได้ว่า ค่าต่างๆในครั้งก่อนกับครั้งนี้ต่างกัน สูง/ต่ำไปจากค่าปกติ แม่จะเรียนรู้จากการที่เราอธิบาย ไม่ว่าจะเป็นผลเลือดที่ระบุ ค่า BUN , Creatinine, Triglyceride , HDL , LDL ฯลฯ ซึ่งผู้ป่วยคือพ่อ มีความกังวลเรื่องไต ก็จะได้มีคำอธิบายประกอบ ที่มีหลักฐานเชิงประจักษ์จากผลการบันทึกข้อมูลเก็บไว้...ซึ่งฉันก็ชอบอ่าน..เยี่ยมมาก ...ค่ะแม่
๙ แม่เป็นคนมีน้ำใจ ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่หวังสิ่งตอบแทน และหากขอความช่วยเหลือใครๆก็ดูราวกับจะจำไว้ มีโอกาสก็จะตอบแทน ปัจจุบันนี้ก็มักจะเล่าให้ฟังว่า ไปงานบุญกุศลฌาปนกิจ แม้เพียงรู้จักมักคุ้นกับผู้ที่จากไป ก็มักจะไปไว้อาลัยให้เป็นครั้งสุดท้าย
แม่นั่งหน้าบ้าน จัดยาให้พ่อในช่วงเช้า จากตะกร้ายาที่จัดแยกไว้เป็นระบบ
ทั้งหมดนั้น คือแม่ ...แม้วัยจะเปลี่ยนไป แต่ไม่เปลี่ยนในความรักที่มีต่อลูกๆทุกคน และเป็นที่สังเกตได้ว่ากำลังวังชาจะอ่อนแรงไปตามวัย แต่ใจไม่เคยท้อถอย ..แม่บอกฉันอย่างนั้น เพื่อให้ฉันได้สังเกตตัวเองด้วย ถึงแม้ว่าท่านจะเตือนเสมอเรื่อง การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาโลก ฉันเรียนรู้ที่จะยอมรับทีละน้อย แต่ในขณะนี้ ร่างกายแม่่กำลังแปรปรวน ด้วยใช้มานาน ฉันได้มีโอกาสดูแลท่าน ซึ่งเทียบไม่ได้กับที่ท่านดูแลลูก แต่อย่างน้อย ฉันคุยกับแม่บ่อยๆ ...ไม่ว่าทุกข์สุข แม่คอยเป็นกำลังใจให้เสมอ... ฉันรักแม่ และแน่นอนแม่ก็รักฉัน สายสัมพันธ์ความผูกพันเกินจะเอ่ย เรากอดและหอมแก้มเสมอเมื่อเจอกัน โดยเฉพาะทุกครั้งที่ฉันกลับบ้านไปเยี่ยมกราบพ่อและแม่...เป็นอย่างนี้ตั้งแต่เล็กๆ..จนปัจจุบัน.. ฉันรักท่านเหนือสิ่งอื่นใด
๑๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ..... ก่อนวันแม่แห่งชาติปีนี้ ร่วมระลึกถึงพระคุณแม่ พร้อมกับทุกๆท่าน...ทั้งแม่ผู้ให้ชีวิต... แม่ที่ช่วยพัฒนาจิตวิญญาน แม่ที่ให้ความยั่งยืนจากธรรมชาติทั้ง...ดิน น้ำ ลม ไฟ... ..Thanks to the Mother Nature..:-))
Kitatanee
ความเห็น (7)
เมื่ออายุเปลี่ยนไป ..... ต้องให้กำลังใจท่านมากๆนะคะ .... ยิ่งชวนคุยความหลัง ท่านจะมีความสุขมากๆๆ ค่ะ ขอบคุณบันทึกดีดีนี้ค่ะ
มาเป็นกำลังใจนะค่ะ ขอให้ท่านทั้ง 2 มีสุขภาพที่ดีไปนานๆ นะคะ
...ร่วมระลึกถึงพระคุณแม่นะคะ
ขอบพระคุณ
Dr. Ple ที่แวะมาให้กำลังใจ และข้อแนะนำค่ะ ปัจจุบันนี้ .. แม่ไม่เล่นเฟส ไม่เล่นไลน์ จึงใช้การโทรฯบ่อยๆ ค่ะ...:-))
Bright Lily ขอบคุณกำลังใจที่มีให้เสมอมา ค่ะ ...ทั้งคุณป้าและคุณแม่ มีสุขภาพดีตามวัยค่ะ :-))
ดร. พจนา แย้มนัยนา ค่ะ ..ร่วมระลึกถึงพระคุณของคุณแม่ ร่วมกับกัลยาณมิตรทุกท่านค่ะ :-))
และขอบพระคุณทุกท่านที่ฝากดอกไม้ ร่วมระลึกถึง "ความเป็นแม่" สำหรับทุกท่าน ค่ะ
ร่วมกราบสวัสดีวันแม่ค่ะ
ขอบพระคุณ คุณ noktalay และดอกไม้จากทุกท่าน ร่วมแสดงกตเวทิตาแด่แม่ของทุกๆท่าน และน้อมระลึกถึงพระบารมีแห่งแม่หลวงของปวงชนชาวไทยค่ะ
คุณแม่เป็นต้นแบบที่สุดยอดมากเลยนะคะ ฝากกราบและกอดท่านอีกทีจากกัลยาณมิตรใน GotoKnow นะคะ กำลังคิดว่าถ้าท่านได้มีโอกาสอ่านเขียนในพื้นที่แห่งนี้ ท่านคงได้ถ่ายทอดเรื่องราวดีๆเก็บไว้ให้ลูกหลานนอกไส้ได้อีกมากเลยนะคะ