ในความคิดถึงที่บางครั้งได้ตระหนัก อาจเป็นการชักนำเชิงประจักษ์ของหัวใจ
นั่งนึกไปนึกมา ว่าภาษาคือการสื่อความหมายและได้ผ่านการสะท้อนออกมาจากความรู้สึก หลายคนหลายอายุปรับเปลียนสถานของตัวเองในรูปแบบต่าง ๆ บน face book บางคนก็เขียนตรง ๆ ว่าเหงา บางคนก็ขี่ม้าชักเมืองอ้อมไปอ้อมมา แล้วค่อยบอก บางคนก็สื่อออกมาเป็นนัยยะ
ฉันคิดอยู่ ว่าความเหงาคืออะไรกันแน่ และนึกมาถึงตอนในจุดที่ว่า คนที่มีความเหงา อาจเป็นคนที่มีความรัก หรืออีกในนัยหนึ่ง คนที่มีความรักจึงมีความเหงา คนไร้รักหรือรักใครไม่เป็นคงไม่รับรู้ หรือไม่คุ้นกับเจ้าความรู้สึกนี้ ฉะนั้น ขอจบสั้น ๆ ก่อนว่า
ดีใจด้วยสำหรับคนที่รู้สึกเหงา เราแสดงว่าจิตใจของท่่านเคยถูกเติมเต็มด้วยความรัก เป็นจิตใจที่ดีงามและบริสุทธ์ เต็มไปด้วยการคิดถึงผู้อื่น
แต่ ก็ต้องมีแต่ ว่า อย่าปล่อยให้ความเหงาอยู่กับเรานานเกินไป เป็นนักบริหารจัดการที่ดี เหงามากก็เหากินหัว รักมากก็รกมากเกินไป หาหยินและหยางของตัวเองให้เจอ หรือบางคนอาจเก่งที่จะเลือก วางลงทั้งสองอย่าง แล้วค่อย ๆ มอง ในที่สุด ทั้งสองอย่างก็จะคุ้นกับเราเหมือนที่เราคุ้นกับการใช้ช้อนกับส้อมนั้นเอง มั้ง
เป็นของคู่กันนะครับ
คือให้เหงาได้...แต่ต้องเว้นวรรคบ้าง...เหงา สนุก ทุกข์ สุข เสียใจ ดีใจ...สลับกันไป...คู่กันไปนะคะ...ขอบคุณค่ะ