วันที่ 11-13 กรกฎาคม 2556
ทีมขับเคลื่อน PLC มหาสารคาม
จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมรมเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์
มีครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา มหาสารคาม เขต 3 จำนวน 138 ท่าน
จาก 14 โรงเรียน บันทึกนี้เขียนต่อจากบันทึกแรกที่นี่ และบันทึกที่สองที่นี่ และบันทึกที่ 3 ที่นี่ครับ
หลังจากรับประทานอาหารเย็น เราจัดสถานที่เป็น "วงกลมลานกลาง" เคลื่อนย้ายโต๊ะออกให้มีที่ว่าง สำหรับกิจกรรมกึ่งจิตศึกษา พัฒนาภายในเป็นหลัก แล้วเริ่มด้วยการให้เดิน .....
- ผมบอกครูให้เดินด้วยความเร็วที่พอดี พอประมาณ เหมือนการเดินเล่นพักผ่อน ตอนเย็นในสวนสาธารณะ เพียงแค่เริ่มเดิน เสียงทักทายพูดคุยแบบผ่อนคลาย ทำให้ทุกคนเริ่มเพลินพอสมควร
- สักครู่ ให้สัญญาณหยุด แล้วก็เชิญให้พูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุด สักครูแล้วก็เดินต่อไป
- คราวนี้ให้เดินไปหาคนที่ตนไว้ใจและวางใจที่สุด เพื่อนสนิท จับคู่ยืนหันหน้าหามิตรแท้คนนั้น แล้วเราก็เริ่มกิจกรรมทดสอบ "ความไว้ใจ" ด้วยการ "หลับตา ล้มตัวทั้งยืน โดยให้เพื่อนยืนรับอยู่ด้านหลัง" โดยคนที่ล้มต้องเกร็งตัวแข็งเป็นแท่งดินสอน เข่าไม่งอ เท้าชิด หากใครขยับท้าวออกก่อนถูกจับ แสดงว่ายังไม่ไว้ใจคู่ที่คอยรับเพียงพอ .... กิจกรรมนี้มุ่งให้ รู้สึกถึงความไว้ใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีในการทำงานเป็นทีม
- แล้วสักครู่ ก็พาเดินต่อ เดินไปแบบไร้จุดหมาย เดินไปแบบผ่อนคลาย วางใจ ก่อนจะให้จับคู่ทำกิจกรรม "เมื่อดอกไม้บาน"
- เหมือนดอกไม้กำลังบานกลีบดอกออกจากกัน ครูแต่ละคนเป็นเหมือนกลีบดอก ที่ค่อยๆ บานออกด้วยการจับมือกันยืดแขนให้ตัวออกห่างกัน โดยขณะนั้นท้าวต้องชิดติดเหมือนตอนเริ่มที่ยืนปลายเท้าชิดกัน
- จากนั้นก็เดินต่อ คราวนี้จับกลุ่ม 3 คน ทำเหมือน ดอกไม้ 1 ช่อดอก 3 กลีบ จากนั้นเป็น 5 คน 5 กลีบดอก ต่อไปก็จับ 8 คน ก่อนจะหยุดแล้วให้บางคนลองสะท้อนกิจกรรม .....
- การให้ยืดเส้นยืดสาย หลังจากที่ได้อิ่มข้าวมาจากมื้อเย็น เห็นผลพอสมควร ครูตื่นตัว ผ่อนคลาย พร้อมเรียนรู้
- ประเด็นสำคัญ คือ เราอยากให้ครู "เห็น" กระบวนการ การออกแบบกิจกรรม และหวังให้ครู นำกลับไปทำกับเด็กๆ ที่โรงเรียน
- กิจกรรมการเรียนรู้ ไม่ใช่เฉพาะนั่งอยู่กับที่ กับเก้าอี้ที่หลังโต๊ะเรียน แล้วก็ขีดเขียน ฟังอ่าน ทำการบ้าน หรือเรียนผ่านสื่อการสอนเท่านั้น แต่ต้องได้ใช้ทั้ง ฐานกาย ฐานคิด และ ฐานใจ เหมือนกับที่เราฝึกให้ ความไว้ใจ ฝึกทำให้ใจผ่อนคลายให้พร้อมเรียนรู้ ดังกิจกรรมที่ "ครูเป็นดอกไม้บาน"
เมื่อครูพร้อมจะเรียนรับ ผมก็จับไมค์แทรกบรรยายเกี่ยวกับ BBL ด้วยกิจกรรมประเภท "จีบ" "แอว" ทันที ดังนี้ครับ
- วิธีการฝึกสมองวันนั้น เป็นการแบ่งปันกันแบบพาทำ แต่วันนี้ขอนำสิ่งดีๆ เหล่านั้นมาให้ดูผ่าน คลิป Brain Gym ของเว็บไซต์หมอชาวบ้าน ด้านล่างครับ
- หลังจากฝึก จีบแอล นับเลขด้วยมือ สลับมือแตะหู ฯลฯ ผมแทรกด้วยทฤษฎี Brain Based Learning หรือ การจัดการเรียนรู้บนฐานสมอง ด้วยรูปด้านล่าง
- ผมเล่าให้ครูฟัง เกี่ยวกับผลการวิจัยของบริษัทเอกชน เจ้าของนมผงชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่กล้าเสนออย่างกล้าหาญว่า คนเราใช้ศักยภาพของสมองเพียง 1 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมด สิ่งที่ยังขาดมากๆ คือ การใช้สมองสองซีกประสานงานกัน ไม่ใช่ใช้ซ้ายที ขวาที ดังนั้นการที่ครูรู้ว่า สมองส่วนใด ใช้เมื่อไหร่ กับกิจกรรมใด จะทำให้การออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอน "คมกริบ"
- พิจารณาเป็นคู่ๆ ของสิ่งซีกซ้าย-ซีกขวาทำ เพื่อให้ง่ายต่อการจำ ได้ดังนี้ คำ-สี (ภาษา-ศิลปะ) ตรรกะ-จังหวะ (เหตุผล-ดนตรี) ตัวเลข-สัญลักษณ์ (คำนวณ-ใคร่ครวญ) แยะแยะ-เชื่อมโยง (วิเคราะห์-สังเคราะห์) แยกส่วน-องค์รวม (วิเคราะห์-องค์รวม) ในกรอบ-นอกกรอบ (รอบคอบ-สร้างสรรค์) ประสบการณ์-จินตนาการ (อดีต-อนาคต) ฯลฯ
- ผมยังเล่าเรื่องสมอง 3 ชั้น กับปัญญา 3 ฐาน ให้ครูฟังอีกว่า เราอาจแบ่งสมองได้เป็น 3 ชั้น แบ่งที่มาของปัญญา ว่าได้มาจาก 3 ฐาน เราเรียกสั้นๆ ว่า "สมอง 3 ชั้น" กับ "ปัญญา 3 ฐาน"
- สมองชั้นใน ทำให้อยู่รอด กิน ขี้ ปี้ (ผสมพันธุ์) นอน สัญชาตญาณ สมองชั้นนี้ แม้แต่ "ตะกวด" ก็มี ศ.นพ.ประเวศ วะสี ท่านเรียกว่า "สมองตะกวด"
- สมองชั้นกลาง (บริเวณสีเทา) ทำงานด้านรับรู้อารมณ์ ความรู้สึก รัก ชอบ เกลียด
สมองชั้นนี้เจริญดีในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ตั้งแต่แมว หมา จนมาถึง "คน" หมอประเวศเรียกสมองส่วนนี้ว่า "สมองแมว"
- สมองชั้นนอก ทำหน้าที่บ่งบอกความเป็น "มนุษย์" เรียนรู้ คุณธรรม ความดี ศีลธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม เป็นส่วนสมองที่มีเฉพาะมนุษย์ หมอท่านจึงเรียกว่า "สมองมนุษย์"
- ธรรมชาติของการเรียนรู้ให้เกิดปัญญา มาได้จาก 3 ทาง หรือ 3 ฐาน ได้แก่ ฐานกาย หมายถึง "ฟัง/อ่าน" ผ่านเครื่องมือทั้ง 5 ได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น ผิวกาย (สุตมยปัญญา) ฐานคิด ที่จิตทำงานผ่านสมอง เป็นปัญญาที่ได้จากการคิด พิจารณาอย่างเป็นเหตุเป็นผล หรือเรียกว่าคิดอย่างมีวิจารญาณ (จินตมยปัญญา) และ "ฐานใจ" ที่จะเข้าใจก็ต้องผ่านการลงมือปฏิบัติภาวนา (ภาวนามยปัญญา)
เรา "จบวัน" ด้วยกิจกรรม "scan body" กิจกรรมทำสมาธินำใจกลับสู่กาย ซึ่งเป็นเหตุเบื้องต้นของการที่คนจะ "ตื่น" ขึ้นมาได้ ซึ่งรายละเอียดอธิบายมาก ไม่น่าจะเข้าใจได้จากการอ่านจากตัวเขียน จึงขออนุญาตนำเรียนด้วยคลิปวันหลังนะครับ
ดูรูปท้งหมดได้ที่นี่ครับ