สาระที่ 8 ทฤษฎีการเรียนรู้และการสอน
ทฤษฎีการเรียนรู้จะช่วยอธิบายถึงกระบวนการเรียนรู้ว่าเกี่ยวข้องกับอะไรบ้างและเกิดขึ้นได้อย่างไร โดยทฤษฎีการเรียนรู้นั้นมีมากมายและมีความแตกต่างกัน เราไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าทฤษฎีการเรียนรู้ทฤษฎีไหนมีความสมบูรณ์แบบมากที่สุด เนื่องมาจากว่าแต่ละทฤษฎีจะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ขึ้นกับการนำมาใช้โดยควรพิจารณาว่ากำลังจะสอนอะไร มีเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ในการเรียนการสอนอย่างไร สามารถแบ่งทฤษฎีการเรียนรู้ออกเป็น 3 กลุ่มคือ
1. ทฤษฎีการเรียนรู้แนวพฤติกรรม (Behaviorism) ทฤษฎีการเรียนรู้แนวนี้สนใจเฉพาะองค์ประกอบที่สามารถสังเกตเห็นได้โดยเชื่อว่าการเรียนรู้คือการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนองและมีตัวเสริมแรงเป็นสิ่งกระตุ้นหรือจูงใจ เช่น ทฤษฎีของพาฟลอฟ ทฤษฎีของธอร์นไดด์ ทฤษฎีของวัตสัน ทฤษฎีสกินเนอร์ เป็นต้น
2. ทฤษฎีการเรียนรู้แนวปัญญานิยม (Cognitivism) ทฤษฎีการเรียนรู้แนวนี้คิดว่าการเรียนรู้หรือการแก้ปัญหาเกิดจากความสามารถในการรับรู้และการหยั่งรู้ ซึ่งเป็นกระบวนการทางสมองไม่ใช่เรื่องของการวางเงื่อนไข ดังนั้นจึงศึกษากระบวนการคิด การตัดสินใจ ซึ่งจะนำไปสู่การเกิดพฤติกรรม เช่น ทฤษฎีของนักจิตวิทยากลุ่มเกสตอลท์
3. ทฤษฎีการเรียนรู้แนวมนุษยนิยม (Humanism) ทฤษฎีการเรียนรู้แนวนี้มีพื้นฐานมาจากการมองโลกในแง่ดี ให้ความสำคัญกับอารมณ์ ความรู้สึกและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ เชื่อว่ามนุษย์เกิดมาพร้อมกับความดีงาม มีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตนเอง มีคุณค่า มีความสามารถ มีความรับผิดชอบ สามารถสร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามและเป็นประโยชน์ต่อตนเองและสังคม เช่น ทฤษฎีของมาสโลว์ ทฤษฎีของโรเจอร์ส ทฤษฎีของคอมบ์ส เป็นต้น
บรรณานุกรม
บทที่ 4 ทฤษฎีการเรียนรู้และการจัดการเรียนรู้. สืบคันเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2556. จาก
http://www.oo-cha.com/courses/PT/pt4.pdf (ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง)
ไม่มีความเห็น