วันที่ 11-13 กรกฎาคม 2556
ทีมขับเคลื่อน PLC มหาสารคาม
จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชุมรมเรียนรู้ครูเพื่อศิษย์
มีครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ประถมศึกษา มหาสารคาม เขต 3 จำนวน 138 ท่าน
จาก 14 โรงเรียน บันทึกนี้เขียนต่อจากบันทึกแรกที่นี่ครับ
หลัง
เบรคเช้า ก่อนจะนำเรื่องในคอลัมน์ที่ 1 ของกระดาษ 4 พับ
มาแลกเปลี่ยนเรียนคู่ คือให้เล่าให้กันฟังเป็นคู่ๆ เราทำกิจกรรม Ice
Breaking (ละลายพฤติกรรม) แบบมีสาระ ดังนี้ครับ
แบ่งครูเป็นระดับชั้นแล้วให้จับคู่กัน โดยมีข้อตกลงว่าต้องเป็นเพื่อนต่างโรงเรียน นั่งหันหน้าเข้าหากัน แล้วตามขั้นตอนต่อไปนี้
- แนะนำตัวเบื้องต้น ตามแต่อัธยาศัย ซึ่งสำหรับชาวไทย โดยเฉพาะคนอีสาน ไม่ใช่เรื่องยากเลยครับ
- จาก
นั้นบอกให้ทุกท่านเตรียมตอบคำถามสำคัญ โดยเน้นให้ต้องเปิดใจให้แก่กัน
หากใจของเราเปรียบเหมือน "ไข่แดง" ที่เพิ่งถูกตอกลงบนจานนูนขอบ
สังเกตว่าจะมี "ไข่ขาว" อยู่รอบๆ ล้อมปิดไว้ เปรียบเสมือนใจที่ต้องการ
"พื้นที่ปลอดภัย" ซึ่งจะทำให้ผ่อนคลายและมีสุข
เมื่อไข่อีกใบถูกตอกลงจานตามมา แทนที่ไข่แดงจะอยู่ชิดติดกัน แต่ดูเหมือนจะ
"หันหลัง" หรือ "ปรจันหน้า" ก้้นด้วยไข่ขาว ราวกับเป็นกำแพง
แสดงว่าพื้นที่ปลอดภัยยังเป็นของใครของมัน
- คราว
นี้ลองจินตนาการถึง ไข่สองใบ ที่ตอกไว้บนจานพร้อมๆ กัน
ไข่แดงจะใกล้ชิดติดรวม ใช้ไข่ขาวร่วมกัน เปรียบเป็นพื้นที่ปลอดภัย
ที่ทั้งสองเปิดใจให้แก่กันและกัน .....ดังรูป
- เมื่อ
สังเกตว่าพร้อม สมาธิเข้าที่ (ฟังจากเสียง จากสีหน้า) เราก็ถามคำถามว่า
"ท่านจะไปอยู่ที่ไหน ในอีก 10 ปีข้างหน้า".....เสียงฮาก็เกิดขึ้นทันที
....เราเปิดโอกาสให้ครูได้สะท้อนความรู้สึก ความคิด 2-3 ท่าน
จากการสำรวจส่วนใหญ่นั้นจะ "แซว" เล่นๆ กันว่า "กำลังเลี้ยงหลาน"...ฮา
- คำ
ถามถัดมาถามว่า "อีก 3 ปี เราจะอยู่ที่ไหน
จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงจากวันนี้บ้างไหม" ... ความจริงเราถามเพื่อจะมองหาว่า
มีครูเพื่อศิษย์อยู่บ้างไหม ที่่ถ้าใช่จะบอกออกมาทันทีว่า
จะทำความดีให้แก่ลูกศิษย์ ด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีคิดวิธีสอนแน่ๆ
เพราะตอนนี้ วิธีเดิมๆ ที่นั้นใช้ไม่ได้ผล ทุกคนทั่วโลกเขากำลังมุ่งสู่
"การเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21"
เราสังเกตว่า บรรยากาศยังผ่อนคลายไม่พอ เลยละลายพฤติกรรมต่อด้วย กิจกรรม "ประสานมือสื่อความรู้สึก"
- ให้
ครูสองท่านหันหน้าเข้าหากัน วางมือซ้ายประสานมือขวา
วางมือขวาประสานมื่อซ้าย แล้วพักสายตาหลับลง
เตรียมส่งผ่านความรู้สึกผ่านมือซ้ายของตนสู่มือขวาของคนตรงหน้า
- เริ่ม
ด้วยการให้ส่ง "สัญญาณ" (อาจเป็นการบีบมือ) ผ่านไปยังมือซ้ายของคนเป็นพี่
เมื่อน้องรับสัญญาณทางมือขวา ให้สังเกต (ความจริงให้รู้สึก)ว่า
น้ำหนักเท่าใด ลักษณะสัญญาณเป็นอย่างไร (ซึ่งต้องใช้ใจรับจากมือ)
ก่อนจะส่งสัญญาณนั้นกลับไปให้พี่ทางมือซ้าย
- ส่งสัญญาณนั้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ สังเกตถึงความถี่ที่ทำได้เร็วที่สุด ที่ไม่สะดุดสงสัย แล้วค่อยๆ ผ่อนช้าลงๆ
- (ถึงตอนนี้ ผมเริ่มชี้ให้สังเกตความรู้สึก ที่ไม่ใช่ "นึกคิด" แต่เป็นสิ่งที่ "จิต" รับรู้มาจาก "กาย")
แล้วต่อกันด้วยกิจกรรม "ตีมือสื่อแทน การ "ห้อยแขวน" คำตอบ" ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นสำหรับการใช้ "จิตวิทยาเชิงบวก"
- แต่ละคู่วางคว่ำมือไว้บนโต๊ะ อธิบายว่า จะเป็นกิจกรรม "ตีมือ" กันไปมา และให้ตกลงกันว่าใครจะตีก่อน
- คน
ตีก่อนใช้มือข้างที่ถนัด ตีลงมือของคู่ตน โดยครั้งแรกนี้ไม่ต้องทน
ตีมาแบบไหน ให้ใช้มืออีกข้าง ตีกลับไปยังมืออีกทางของคนตีทันใด
โดยต้องกะให้น้ำหนักพอๆ กัน ทดลองสัก 2-3 ครั้ง
...เสียงฮาดังสนั่นทีเดียวครับ
- สุด
ท้ายของกิจกรรมนี้ กำหนดให้คนอายุมากกว่า ซึ่งเราเรียกว่า "พี่" เป็นคนตี
ตีแบบแรงๆ ตีแบบไม่ต้องยั้ง ตีให้เจ็บให้รู้สึกแบบชัดๆ
ด้วยมือข้างถนัดเหมือนเดิม .... แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ "น้อง" ที่ถูกตี
ไม่ให้ตีตอบกลับ ให้ใคร่ครวญความเจ็บที่ได้รับ ซึ่งสัเกตว่ามันจะค่อยๆ
หายไป สังเกตที่ใจตนเอง....
แล้วยื่นมืออีกข้างไปวางบนหลังมือข้างถนัดของ "พี่" แล้วพูดว่า
..."ไม่เป็นไรครับ (ค่ะ)พี่ น้องให้อภัย"....
ผมสรุปกิจกรรม "ละลายพฤติกรรม" ด้วยสไลด์นี้
- เราเรียนรู้จาก 3 ทาง 3 ฐาน ได้แก่ ฐานกาย ซึ่งรวมทั้งรูป รส กลิ่น
เสียง สัมผัส ซึ่ง "รับ" มาจาก ตา ลิ้น จมูก หู และผิวหนัง
ฐานคิดด้วยการคิด และด้วยการลงมือปฏิบัติ ซึ่งต้อง "รู้"ด้วยใจ
ต้องใช้ความรู้สึก... เชื่อมโยงสู่กิจกรรม "ประสานมือสื่อความรู้สึก"
ข้างต้น
- เมื่อครูรับสิ่งต่างๆ ผ่านโสตประสาทข้างต้น
หากคนไหนตามไม่ทันความรู้สึก โกรธไม่รู้ว่าโกรธ โมโหไม่รู้ว่าโมโห
เมื่อไม่รู้ ครูคนนั้นก็มักจะ ด่า ดุ ตำหนิ นักเรียน ทั้งๆ
ที่ตนเองก็เรียนและรู้มาแล้ว่า จะต้องใช้ "จิตวิทยาเชิงบวก" .... ตอนบรรยาย
ผมยกตัวอย่าง เด็กชายสมปอง ที่แต่งตัวไม่เรียบร้อย แถมยังมาสายอีก
....ครูส่วนหนึ่งจิตใจจะยังเข้าไม่ถึง "การปฏิบัติเชิงบวก"
ทำให้มักเหมือนหูพึ่งตาโต โมโห...ปี๊ด....... นั่นคือครูไม่ได้ "ยั้งคิด"
ก่อนด่าดุตอบกลับไป
- หากเปรียบการสะท้อนหรือตอบสนองต่อสิ่งเร้า ในที่นี้คือเด็กชายสมปอง
ทันทีที่ได้เห็น ทันทีที่ัรับสื่อเข้า เราแทนด้วย "พื้นที่สีแดง"
เป้าหมายของเราคือ ฝึกเอาพื้นที่สีแดงออกให้หมดจากใจ
- เปรียบกับกิจกรรม "ตีมือสื่อแทนการ "ห้อยแขวน" คำตอบ"
เมื่อถูกตีมือเราเจ็บ เรารู้สึกเจ็บ
ก็เหมือนเมื่อเราเห็นเด็กชายสมปองเดินเข้ามา แต่เมื่อเราอดทน
รับรู้ความรู้สึก ใคร่ครวญ ไม่ตีตอบทันที ขั้นตอนนี้เราเรียกว่า
"ห้อยแขวนคำตอบ" เมื่อความเจ็บ ความรู้สึกนั้นหายไป เราก็สามารถที่จะ
ให้อภัยกับใครก็ได้......
- สรุป ครูจะใช้จิตวิทยาเชิงบวกกับเด็กๆ ได้จริง ก็ต่อเมื่อ ครูสามารถ
"ห้อยแขวนคำตอบ" ห้อยแขวนความรู้สึก ตามทันความรู้สึกโกรธของตนได้
นั่นเองครับ