แม่ของฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่จิตใจเข้มแข็ง
ครอบครัวของแม่ไม่สมบูรณ์แบบ เนื่องจากพ่อกับแม่(ตากับยายของฉัน) แยกทางกัน
แม่ไม่ค่อยได้รับความอบอุ่นแบบครอบครัว ต้องทำงานหาเงินส่งเสียให้ตัวเองเรียน
แม่ของฉันจบ ป.4 พร้อมกับการสอบได้ลำดับที่ 1 เสมอ แต่เพราะไม่มีเงินที่จะเรียนต่อ
การศึกษาของแม่จึงจบอยู่แค่นั้น เมื่อแม่มีครอบครัวของตัวเอง แม่มีเป้าหมายไว้ว่า “ถ้าหากชีวิตครอบครัวจะมีการทะเลาะกันบ้าง
ทางออกไม่ใช่การแยกทาง ต้องส่งเสียให้ลูกๆ จบปริญญาตรี” ซึ่งแม่ก็ทำได้จริงจนถึงทุกวันนี้
ฉันเคยสงสัย? ทำไมแม่ยังเป็นห่วงลูกเสมอ ทั้งที่ลูกๆ อายุ 30 กว่าปีกันแล้ว
- พี่สาวคนโตเป็นหมอยา แค่ได้ข่าวว่าไม่สบาย แม่จะโทรไปถาม “กินยาหรือยัง ไปทำงานมั๊ย อยู่กับใคร, เสื้อผ้าซื้อทำไมมากมาย เห็นเต็มตู้แล้ว เงินหนะเก็บไว้บ้าง”
- พี่สาวคนรองเป็นครูสอนการอาชีพ “ถ้านักเรียนทำผิดกฎ อย่าไปด่าอะไรเค้ามาก เดี๋ยวเค้าจะทำร้ายเอา”
- พี่ชายคนเดียวเป็นช่างคอมพิวเตอร์ของบริษัทหนึ่ง “ขับรถอย่าเร็วมากนะ ไม่ต้องรีบ อย่าไปขวางทางใคร, ไม่สบาย กินยาหรือยัง, กินข้าวกับอะไร”
- ฉันเอง เป็นเจ้าหน้าที่ดูแลนักศึกษาหอพัก ระดับ ป.ตรี “กับวัยรุ่น อย่าไปตักเตือนเค้ามาก เดี๋ยวเค้าจะทำร้ายเอา, ขับรถอย่าเร็วมาก”
- น้องสาว เป็นเจ้าหน้าที่ห้องทดลอง กรมหนึ่งในเมืองหลวง “กินข้าวหรือยัง, กินกับอะไร, ไปทำงานนั่งรถดีดีนะ, ดูคนแปลกหน้าด้วย, ทำไมเมื่อวานไม่โทรมา คิดว่าเป็นอะไร(เค้าโทรหากันทุกเช้า), ทำงานเก็บเงินไว้บ้าง อย่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยนัก ”
อันนี้แค่ตัวอย่างหนึ่งนะ ยังมีหลายความห่วงใยที่ฉันสัมผัสได้ พ่อกับแม่ของฉันไม่เคยขอเงินจากลูก ได้แต่บอกว่าให้เก็บไว้, ของกินก็ไม่ต้องซื้อกลับบ้านมาก กินไม่ทัน, เงินเก็บไว้ไม่บูด ฯลฯ
เมื่อฉันได้เป็นแม่เอง.. ฉันจึงรู้คำตอบ ความรักและความห่วงใยของแม่ไม่มีวันสิ้นสุด..ลูกเจ็บนิดเดียว เป็นไปได้แม่ก็อยากเจ็บแทน เป็นห่วง อยากให้เค้าได้รับในสิ่งที่ดี มีสุขภาพกายและใจที่ดี มีเพื่อนดี สังคมดี การงานดี สามารถอยู่รอดในสังคมได้อย่างปลอดภัย
ขอบคุณความรักของแม่ที่ทำให้พวกเราเป็นอย่างทุกวันนี้...ไอ้ต๋อยของแม่
...ความรักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอนะคะ...ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ kunrapee เชื่อว่าทุกคนรักแม่
ดร.พจนา แย้มนัยนา เห็นด้วยค่ะ
ยังบอกความรักของแม่ไม่หมดเลยค่ะ