ฝนพรำสาย
ฝนพรำสาย
พาความฉ่ำเย็นต้องกายแล้วย้ายมาเย็นที่ใจ
เม็ดฝนพรำดั่งมือน้อยน้อยของแม่ พ่อ หรือคนรักที่ประพรมน้ำเย็นชื่นใจ
สัมผัสเราอย่างอ่อนโยน
ฝนโปรยปรายเพียงแผ่วเบา หากดุจน้ำทิพย์ปลอบประโลม
พานให้ซาบซึ้งเกิดความสุข สงบ เรียบง่ายและอบอุ่น
ครั้นยามฝนแปรเปลี่ยน สาดซัดเป็นพา่ยุใหญ่
เปรียบคล้ายความทุกข์
เมื่อใดพบประสบความทุกข์
ควรยิ้มรับ และคิดว่าโชคดีที่ได้เจอบททดสอบ
ความทุกข์คือบททดสอบที่ทุกคนไม่อาจหลีกหนี
ผ่านพ้นมันมาได้
เท่ากับได้เรียนรู้การแก้ปัญหา ฝึกครองสติ
เรียนรู้การมีชีวิตในโลกใบนี้
เรียนรู้ตนเอง
เติบโตไปกับทุก ๆ ก้าวของชีวิต
มีฝน มีพายุ
ย่อมมีวันสิ้นสุด เป็นธรรมดา
ภูสุภา
๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖
ฝนตก...ทำให้ได้เรียนรู้การแก้ปัญหา....ฝึกครองสติ .... เรียนรู้การมีชีวิต...ในโลกใบนี้ .... ได้เรียนรู้กับตนเองนะคะ .... ขอบคุณบทความดีดีนี้ค่ะ ...
.... เพราะชีวิต คือ การเรียนรู้ตลอดไป ... ตลอดชีวิต นะคะ
คุณหมอภูสุภาขา
ชอบภาพลายเส้นของคุณหมอภูสุภาจังเลยค่ะ เหมือนกับที่เคยชอบรูปช้างน่ะค่ะ
บทกลอนลำนำไพเราะมากค่ะ
คิดถึงนะคะ
บันทึกของคุณหมอภูบันทึกนี้ ทำให้นึกถึงเพลง ๆ หนึ่งที่ใช้สอนเด็ก ๆ จ้ะ...
...ยามฝนพรำ...ชื่นฉ่ำเมื่อยามฝนโปรย...สาดสายโรยละอองสู่พื้นนาไร่สวน...ยามฝนมา
เริ่มนา คราปลูกไถพรวน...ต่างสำรวลทำงานและร้องเพลงเริงร่า....
ชีวิตคือบทเรียนที่ไม่ซ้ำกันเลยสำหรับการเรียนรู้ของเรานะคะ พี่เปิ้น
ขอบคุณค่ะ
ไปนั่งวาดรูปกับลูกชายค่ะ ช่วงนี้เขากลับมาเยี่ยมบ้าน มาทำอาหารกินกัน เดินเที่ยว วาดรูป..สนุกจังค่ะ
ภาพดอกไม้ ดอกตะแบกใช่มั้ยคะ สวยมาก..
มีฝน มีพายุ ย่อมมีวันสิ้นสุด เป็นธรรมดา
และเช่นกัน
มีฝน มีพายุ สิ้นสุด..
แล้วเกิดใหม่อีก
ระยะนี้ฝนมาอีกแล้ว
มีฝน มีพายุ เมื่อเรารู้จักมัน เราจำมันได้ ยอมรับ..
จะกี่ฝนกี่พายุก็ไม่พรั่น