ตอน ขออนุญาตถอดบทเรียน เรื่อง เทคนิคการกระตุ้นในเด็กทำงานเป็นทีม ดังมีใจความดังต่อไปนี้
ขั้นตอนเทคนิค1. ร่วมกันวิเคราะห์ 1. แบ่งหน้าที่ตามตำแหน่งและสับเปลี่ยนตำแหน่ง
ขั้นตอนที่ 1 ฉันเข้าใจว่าเมื่อสมาชิกทุกคนได้ร่วมกันกำหนดตำแหน่ง บทบาท และหน้าที่ของตำแหน่งและ
ทำความความเข้าใจ ยอมรับกันดีแล้ว ย่อมนำมาซึ่งความพอใจ ด้วยสมาชิกย่อมเข้าใจกันดีว่า นี้เป็นวิธีที่
จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้งานจากการปฏิบัติจริงซึ่งสอดคล้องกับการเรียนรู้ตามทฤษฏีของ..ใครดีเอ่ย
(Learning by doing)
ฉันเคยได้รับการอบรมเรื่องการวิเคราะห์ กล้าบอกได้เลยว่า ฉันวิเคราะห์ไม่เป็นสับปะรดเลย
มันเป็นอะไรที่ยากมากสำหรับฉัน
แต่เมื่อฉันถูกส่งตัวไปที่ AUA เพื่อไปร่วมวิพากษ์การเรียนการสอนภาษาอังกฤษในชั้นเรียน
ฉันจึงเริ่มเข้าใจ และเริ่มที่จะแลก
เปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนๆผู้สามารถที่มีความหลากหลาย
พวกเขาสอนโดยการกระทำด้วยตนเองให้
ฉันได้เห็นและพวกเขาช่วยให้ฉันได้พัฒนาตนเอง
ด้วยวิธีการถามว่าทำไมเหรอๆๆๆๆ แล้วยังไงต่อ แล้วเธอ
คิดอย่างไร ทำไมเธอคิดอย่างนั้นไปพร้อมๆกั
บรรยากาศที่อบอุ่น อีกทั้งครูอาจารย์ชาวต่างประเทศที่ทำ
หน้าที่เพียงผู้รับ รับฟังด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
บางครั้งพยักหน้าหงึกๆๆ และบางครั้งก็ทำท่าว่าสงสัย ใช้ภาษาท่าทีชวนให้ฉันอธิบายแบบอยากรู้จริงๆนะ
และเมื่อฉันได้
พยายามอธิบายพร้อมภาษาท่าทางด้วยมั่นใจว่าแม้ภาษาที่ใช้อาจคลาดเคลื่อน
แต่ครูอาจารย์และเพื่อนๆ
จะเข้าใจได้ไม่ผิดประเด็น ท้ายที่สุดคำถามของเพื่อนๆในกลุ่มจะเป็นผู้ช่วยที่ดี
ที่จะช่วยกันหลอมความคิดของฉันด้วยการใช้คำถาม และฉัน
มีหน้าที่บอกว่า ใช่ ๆๆๆเธอเข้าใจถูกต้อง
และไม่ใช่ๆๆๆ ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น
แต่ฉันหมายถึง ...
นี่เป็นพลังของกลุ่ม หรือทีมที่จะร่วมก้าวเดินไปด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้หรือการทำงาน
และความสุขก็จะเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนในกลุ่มร้องอ๋อ..เข้าใจแล้วๆ เสียงปรบมือเป็นกำลังใจ
และดูเหมือนครูอาจารย์ชาวต่างประเทศจะตั้งใจรอเวลานี้ และแม้ว่าจะเป็นความตั้งใจ ฉันก็ยังแอบยินดี
และเหมือนมีพลังของความต้องการพัฒนาตัวเองเกิดขึ้น ในขั้นตอนนี้จึงเต็มไปด้วยความสุข
ของการที่ได้เรียนรู้
สำหรับรับการมอบหมายหน้าที่ ที่สมาชิกกลุ่มหรือทีมยินยอมและยินดี
ครั้งหนึ่งฉันสูญเสียความรู้สึกที่ดีเมื่อต้องไปทำงานระดับกระทรวง ฉันได้กลุ่มที่สมาชิกใจดีมาก
มอบหมายว่าให้ฉันทำ มีหลากหลายคำพูดที่น่าฟังเช่น น้องเก่ง ทำไปเลย พี่เยี่ยมมาก ขอน้องช่วยเป็น
กำลังใจ และอะไรอีกหลายอย่างที่ฟังแล้วดีจังเลย แต่เมื่อก้มหน้ามองมาที่งาน ฉันเริ่มหวั่นไหวใน
ศักยภาพของตัวเอง ความรู้สึกท้อวิ่งเข้ามา แต่ก็ยังมีเสียงเพื่อนข้างๆปลอบใจว่า ทำไปเถอะ
เขาก็แค่ให้เรามาเป็นไม้ประดับ คนเก่งเยอะไปหมด
ฉันกลับรู้สึกแย่ไม่เฉพาะงานที่อยู่ตรงข้างหน้า ในเนื้อแท้ของความเป็นสมาชิกที่ดีของกลุ่มมันอยู่ตรงไหน
ก็ทำไมเรามทุกคนไม่จับมือกัน... บางครั้งเราอาจแก้ปัญหาโดยปัดบางอย่างให้พ้นตัว แต่มันไม่ใช่
มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในสมองปุๆของฉัน วันนั้นฉันเรียนไม่ได้เรื่องเลย อาการทางกายเกิดขึ้นร้อนๆ
หนาวๆ ฉันนึกถึงเด็กน้อยของฉัน นึกถึงคำปลอบของฉัน ที่มีให้เด็ก และเพิ่งได้คิดว่าบางครั้งคำปลอบ
ประโลมก็ทำร้ายคนได้เหมือนกัน กระบวนการแบ่งกลุ่มนั้นยังหาข้อสรุปที่จะส่งผลที่ดีต่อสมาชิกกลุ่มหรื
อทีมได้ไม่ชัดเจน กระบวนการกลุ่มเรียน ที่นิยมคือการรวมกลุ่มอันประกอบไปด้วยเด็กเรียนเก่ง ปานกลาง
และอ่อน ที่นิยมใช้ก็ใช่จะสร้างคนอ่อนให้เก่งได้ดีเท่าคนเก่ง หากผลที่ได้ก็ดูเหมือนจะมีทั้งดีและด้อย
มันจะดีหากสมาชิกคนเก่งของกลุ่มมีจิตใจเอื้อเฟื้อและแบ่งปัน ประกอบกับสมาชิกที่อ่อนเองก็ต้องมีดีบ้าง
เพื่อเจือจุนในสิ่งที่สมาชิกคนอื่นขาด และจะเจ็บปวดเมื่อสมาชิกคนเก่งมิได้เป็นดั่งที่คาดหวัง
ซึ่งกระบวนการทำงานและมอบหมายงานนั้นจะไม่ได้ผลดีกับใครเลย ท้ายที่สุดเราจะพบคนเสียสละที่ยอม
ทำทุกอย่างเพื่อให้งานนั้นเสร็จๆไปเท่านั้นเอง เสร็จๆๆ ที่มิได้รวมคำว่าสำเร็จลงไปด้วย
ฉันจึงได้ประสบการณ์ที่ดีว่าการแบ่งกลุ่มแบ่งทีมในการทำงานก็ดี หรือเรียนรู้ก็ดี
สมาชิกกลุ่มควรมีความหลากหลาย มีอัตราส่วนของความหลากหลายที่เมื่อรวมกันเป็นหนึ่งแล้ว
จะสามารถนำพาทั้งงานและคนไปสู่เป้าหมายเดียวกันได้อย่างมีความสุข และการสลับ ปรับเปลี่ยน
ตำแหน่งที่ดูเหมือนจะง่ายๆหากงานนั้นๆเป็นงานที่ใครๆก็ทำได้ ทุกคนทำได้เพียงได้รับคำแนะนำที่ดี
แต่ถ้าหากงานนั้นต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่ง และงานนั้นๆก็ยังจำเป็นต้องมีทีม
การสร้างสายสัมพันธ์ สื่อสัมพันธ์ที่ดี และการสื่อสารที่ดีจึงมีความจำเป็นยิ่ง
ขอขอบคุณอ.ดร.จันทวรรณ วันนี้ฉันเรียนรู้ได้เพียงข้อเดียวอีกทั้งเป็นเพียงข้อปลีกย่อย
พรุ่งนี้จะขอมาเข้าชั้นใหม่ ขอบคุณค่ะ
ปล.คนข้างเคียงถามฉันว่า ฉันพิมพ์อะไร ฉันตอบว่าพิมพ์รายงานใจ 5555
เพราะนี่คือความรู้ที่ฉันต้องนำไปใช้ในการร่วมสร้างทีมจิตอาสาที่ดี นั่นเองขอบคุณค่ะ
20/กค/2556
ไปด้วยใจไปด้วยใจที่นำพา
ให้ก้าวหน้าพาไปตามงานที่ฝัน
เป็นสว.ก็ฝันได้ไม่กีดกัน
ให้สรรค์สร้างจิตมั่น คิดกรรมดี
เรียนเพื่อก่อ ต่อสาน และสรรค์สร้าง
หนทางยาวอ่อนล้าคือกายฉัน
หากแต่ใช้ดวงจิตพิศคืนวัน
วัันนี้ยังตั้งมั่นที่กรรมดี
ไม่เคยหยุดเรียนรู้เลยนะคะครูต้อย
คณาจารย์จาก มอ. ที่ร่วมแลกเปลี่ยนในวันนั้นคงที่ได้หากได้อ่านบันทึกนี้ค่ะพี่
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ พี่คุณnui
วันนี้โชคดีที่ได้อ่านบทความที่อยากอ่านค่ะ
ชีวิตคือการเรียนรู้ค่ะ อิอิ
ขอบคุณค่ะดร.จัน
อ่านปุ๊ปก็โดนใจเพราะกำลังอยากได้ข้อมูลพอดีค่ะ
น้อง Bright Lily ขอบคุณค่ะ
ธรรมชาติสวัสดีค่ะ