หนึ่งในกิจกรรมการเตรียมตัวสู่อาเซียนของฉันคือ การเรียนภาษาลาวที่สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเซีย มหาวิทยาลัยมหิดล แล้วก็ได้เรียนรู้เรื่องเล็กๆ ที่สามารถก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ หากไม่ระวังปาก ยังพูดหรือคิดแบบเดิมๆ
ผู้สอนยกตัวอย่างกรณีนักศึกษาธรรมศาสตร์เสนอคลิป “ล๊าว..ลาว” ในประชาคมออนไลน์ แสดงการใช้คำว่า “ลาว” ในลักษณะดูถูกดูหมิ่น ซึ่งสร้างกระแสความโกรธแค้นแก่คนลาว จนอธิการบดีต้องทำหนังสือขอโทษอย่างเป็นทางการต่อรัฐบาลลาว สำหรับฉันเองก็จำได้ว่าเคยมีเรื่องของนิตยสารแนวบันเทิง-ดาราฉบับหนึ่ง นำภาษาลาวมาเขียนให้ตลก ทำให้ฝ่ายลาวออกแถลงการณ์ประณาม และลงเอยด้วยบรรณาธิการต้องขอโทษต่อชาวลาวอย่างเป็นทางการเช่นกัน
การที่คนไทยใช้คำว่า “ลาว” ในความหมายเชิงดูถูกดูแคลน หรือนำเอาคำในภาษาลาวมาแต่งเป็นเรื่องราวให้ฟังดูสนุกๆ โดยไม่ได้ระมัดระวังเรื่องข้อเท็จจริง เป็นชนวนให้เกิดความบาดหมางระหว่างประเทศเพื่อนบ้านมาหลายครั้ง
อีกคำพูดหนึ่งที่คนไทยเคยชินคือ ไทยกับลาวเป็นบ้านพี่เมืองน้อง หรือไทยกับลาวเป็นพี่น้องกัน ซึ่งมีฐานการคิดจากอดีตกาลก่อนการแบ่งแยกดินแดน พื้นที่เป็นประเทศเดียวกัน ประชาชนเป็นญาติเป็นพี่น้องกัน เมื่อลาวเปลี่ยนระบอบการปกครองในปี พ.ศ.2518 เป็นต้นมา ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับลาวก็กระพร่องกระแพร่ง เพิ่งจะเริ่มพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นไม่ถึงยี่สิบปี ซึ่ง ณ เวลานี้ การพูดว่าบ้านพี่เมืองน้องถือเป็นการดูถูกดูหมิ่น เพราะทำให้เกิดคำถามว่าใครเป็นพี่ใครเป็นน้อง ฝ่ายไทยย่อมตีความว่าลาวเป็นน้อง ลาวก็สงสัยต่อไปว่าทำไมตนจะต้องเป็นน้อง การคบกันอย่างมิตรประเทศต้องปฏิบัติกันอย่างเสมอภาค
ฉันมีโอกาสไปเยือนลาวหลายครั้ง ได้ยินเพลงที่เปิดกล่อมเกลาเยาวชนลาวมีเนื้อร้องว่าประเทศที่เป็นมิตรแท้ของลาวคือเวียดนาม สหายที่ปฏิบัติต่อลาวอย่างเสมอภาค การที่ไทยปฏิบัติต่อลาวแบบพี่น้องแสดงถึงความสูงต่ำของสัมพันธภาพ คนลาวชอบคนที่ปฏิบัติดีต่อเขาอย่างเสมอภาคกัน คนลาวมีความสุภาพต่อคนต่างชาติ อย่าหลงผิดว่าคนลาวชอบคนไทยมากกว่าคนชาติอื่น
ลองสืบค้นออนไลน์ดูมีการสอนเรื่องอาเซียนกันอย่างไร เจอหน่วยการเรียนรู้ชั้น ป.6 เรื่องอาเซียนศึกษาของอุทยานการศึกษาอุดมปัญญามีแบบทดสอบข้อหนึ่งถามว่า “บ้านพี่เมืองน้อง หมายถึง ประเทศใด. ก. กัมพูชา ข. เวียดนาม ค. เมียนมาร์. ง. ลาว” อนิจจา...เริ่มขาดความตระหนักเรื่อง “เสมอภาค” ตั้งแต่ในโรงเรียนซะแล้ว
ทุกวันนี้ ลาวถือได้ว่าเป็นประเทศที่ใกล้ชิดกับเราที่สุด มีภาษาและวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกัน แต่เรายังไม่ตระหนักเลยว่า เรื่องเล็กๆ อย่างคำพูดและการกระทำที่เราเห็นว่าเป็นเรื่องสามัญ พูดเล่นขำๆ กันนั้น กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ที่ดีต่อเพื่อนบ้านได้ เลิกใช้คำพูดที่แสดงการดูถูกดูหมิ่นลาวเสียที
ลาว ไม่ใช่บ้านพี่เมืองน้องของไทย แต่เป็นบ้านใกล้เรือนเคียง พึงปฏิบัติต่อกันอย่างเสมอภาค
(ที่มา: รสสุคนธ์ มกรมณี. "ลาว ไม่ใช่บ้านพี่เมืองน้องของไทย" ใน คอลัมน์ Gateway to ASEAN by SSRU. ข่าวแก้วเจ้าจอม. ฉบับที่ 820 วันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2556)จริงด้วยครับ บางทีเราไม่ได้ตระหนักนี้ตรงนี้จริงๆ ป้าเจี๊ยบสบายดีนะครับ
เพิ่งเข้าใจจากบัันทึกนี้ค่ะว่าลาวไม่ใช่บ้านพี่เมืองน้อง แต่เป็นบ้านใกล้เรือนเคียง จะนำไปสอนนักเรียนค่ะ
...ในเมื่อเขาไม่ชอบก็อย่าไปเรียก...แต่คนที่เขาเป็นญาติพี่น้องกันจริงๆก็ยังมี...ก็ให้เขานับญาติกันไป...ธรรมเนียมไทยก็ต้องปรับนะคะ...รู้จักใครเรียกนับญาติหมด...บางคนเขาไม่ชอบ...เรียกนับญาติไปหลายคนหากใครไม่ชอบกรุณาบอกด้วยนะคะ...เพราะความเคยชินในธรรมเนียมปฏิบัติอย่างไทยๆ...ต้องขอโทษนะที่นี่ด้วยค่ะ
เห็นด้วยครับ มีความเสมอภาคและให้เกรียติซึ่งกันและกัน
คำว่าบ้านพี่เมืองน้องในความหมาย ไม่ๆได้หมายความว่าประเทศไหนเป็นพี่ ประเทศไหนเป็นน้องกันหรอกครับ ตามรู้สึกของคนริมฝั่งโขงระหว่างสองประเทศ คำว่าบ้านพี่เมืองน้อง หมายถึงความสัมพันธ์แบบญาติพี่น้อง เมื่อก่อนก็เป็นแผ่นดินเดียวกันพูดภาษาเดียวกัน เป็นญาติพี่น้องกัน แต่ถูกแบ่งแยกด้วยนักล่าอนานิคม ทำให้เกิดเป็น ไทย - ลาว แต่ ผู้คนแถวริมฝั่งโขง บางครอบครัวยังเป็นญาติกัน ไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ ปัจจุบันก็ยังมีอยู่
ในเชิงวัฒนธรรมความคิด ลาวไทยเป็นพี่น้องกัน
ในเชิงวัฒนธรรม คนไทยคิดกับคนต่างชาติ 2 ชาติ คือลาวกับจีนว่าเป็นพี่น้องกัน ทั้งๆ ที่การแต่งงานระหว่างกันมีน้อยมาก
ในเชิงวัฒนธรรม ลาวคือไทน้อย ไตน้อย หรือไทย้อย สยามคือไทยใหญ่ คนลาวกับไทยจึงเป็นพี่น้องกัน ในทางปฏิบัติ สมเด็จย่ามีเชื้อลาวเวียงจันทร์ ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงมีเชื้้อลาว
กับคนจึน คนไทยก็มีวัฒนธรรม พูดบ่อยๆ เช่นกัน ว่าไทยจีนเป็นพี่น้องกัน ตรงนี้มาจากประวัติกษัตรย์ไทย ที่มีเชื้อสายต่างชาติชัดเจนระดับเป็นลูกครึ่งไทยจีนคือตากสิน รัชกาลที่ 1 มีแม่เป็นลูกผสมไทยจีน ทั้งๆ ที่สมัยนั้น คนจีนอพยพมาไทยน้อยกว่าสมัยเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะตากสินกับราชกาลที่ 1 ไม่ใช่กษัตริย์ระดับธรรมดา แต่เป็นถึงมหาราช ทั้งคู่รบกับพม่าชนะ เป็นคุณงามความดีอันยิ่งใหญ่ ทำให้คนไทยแท้ๆส่วนใหญ่ยอมยกกษัตรย์ที่มีเชื้อสายต่างชาติ (จีน) ขึ้นเป็นกษัตรย์ไทยครั้้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย
ราชวงค์ไทยมีหลายตระกูล หลายๆ ตระกูลแต่งงานกับคนต่างชาติมากมาย มีทั้งแต่งกับฝรั่ง อินเดีย เขมร แต่ปรากฎว่าเชื้อพระวงค์ที่แต่งงานกับเชื้อชาติเหล่านี้ ไม่เคยได้รับสิทธิขึ้นเป็นกษัตริย์ไทย ผิดกับจีนและลาว