สัปดาห์นี้มีเรื่องที่คิดว่าน่าสนใจขอเลือกมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 10 เรื่องดังนี้
1. เย็นวันที่ 12 มิย. 56 คุณศิริวรรณ
บรรณารักษ์ปฏิบัติการ หสม.อ.ราชสาส์น ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค
ว่า ครูผู้สอนคนพิการป่วย รักษาตัวที่โรงพยาบาลมา
1 เดือนแล้ว ใช้ศิษย์ลาป่วยได้ไหม ใช้ระเบียบการลายังไง และช่วงระยะเวลาที่รักษาตัวที่โรงพยาบาลมีศิษย์เบิกค่าตอบแทนได้ไหม
ผมตอบว่า ครูสอนคนพิการ ก็ลักษณะเดียวกับครู ศรช.
ไม่มีระเบียบให้ลาโดยได้รับค่าตอบแทน
( ให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา )
แต่ถ้ามีความจำเป็นเพียงไม่กี่วันและไม่เสียหายแก่ราชการ ผู้บริหารบางท่านอาจจะอนุโลมให้หยุดงานเป็นการภายใน แต่กรณีนี้หยุดตลอดทั้งเดือน ปกติต้องงดเบิกค่าตอบแทน ( ผู้บริหารบางท่านอาจให้เขาหาคนมาทำงานแทน
โดยอนุโลมเป็นการภายใน ถ้าไม่มีคนร้อง
)
2.
คืนวันเดียวกัน ( 12 มิ.ย.) คุณ "มะขาม" ถามผมทางอีเมล์ผ่าน gotoknow.org
ว่า สมศ.จะเข้าประเมินต้นเดือน ก.ค. 56 นี้
อยากทราบว่าคะแนนในภาคเรียนที่ 2/55 ต้องนำมาคิดไหม
หรือว่าใช้แค่ของภาคเรียนที่ 2/54 และ 1/55
และถ้าใช้ 2/55 ด้วยนั้น
เราจะหาค่าขีดจำกัดล่างระดับประเทศภาคเรียนที่ 2/2555 จากที่ไหนได้บ้าง
ผมตอบว่า
1) การประเมินระยะที่
2/56 สมศ.จะใช้คะแนน N-NET ของภาคเรียนที่
2/54, 1/55 และ 2/55 ด้วย
โดย สมศ.จะรับข้อมูลตรงจาก สทศ.มาคำนวณเอง ไม่ได้ดูจากที่เราคำนวณ
2) เราไม่จำเป็นต้องคำนวณไว้
แต่ถ้าเราอยากรู้ผลล่วงหน้า ก็คำนวณเองได้
(ทราบแล้วใช่ไหมครับว่า
ค่าขีดจำกัดล่างของคะแนน N-NET แตกต่างจากค่าขีดจำกัดล่างของคะแนนปลายภาค
) คำนวณโดยใช้โปรแกรมตามลิ้งค์ในข้อ 7
ที่ http://www.gotoknow.org/posts/512679
- ในโปรแกรมนี้
นอกจากจะมีตารางคำนวณผลตามตัวบ่งชี้ที่ 5.1 ของ
สมศ.แล้ว ยังมีตารางคำนวณค่าขีดจำกัดล่างด้วย
และได้คำนวณค่าขีดจำกัดล่างของคะแนน N-NET
ภาค 2/54 และ 1/55 ไว้ให้แล้ว
ซึ่งใช้ตารางภาค 2/54 หรือ
1/55 คำนวณค่าขีดจำกัดล่างภาค 2/55 ได้ด้วย
- การคำนวณค่าขีดจำกัดล่าง
N-NET ภาค 2/55 ก็เพียงนำค่า
3 ค่า คือค่า N (จำนวนผู้เข้าสอบ),
ค่าเฉลี่ย (ค่า X บาร์) และค่า SD
(ของภาพรวมคะแนน N-NET ระดับประเทศนะ ไม่ใช่ค่าของอำเภอเรา)
ทั้ง 5 สาระ มากรอกในตาราง
ก็จะได้ค่าขีดจำกัดล่างออกมาแล้ว ( ค่าทั้ง 3 นี้
ดูได้ในเว็บผลสอบ N-NET ของ สทศ. ที่ http://www.niets.or.th/NNET/AnnouncementWeb/Notice%5CFrBasicStat.aspx
)
3. คืนวันเดียวกัน ( 12 มิ.ย.) คุณ “Kanitta
Chuwcharoen” ถามในกลุ่มครูนอกระบบ ว่า พนักงานราชการที่จะเข้ารับปริญญาบัตร
สามารถที่จะใส่ชุดขาวเข้ารับปริญญาบัตรได้หรือไม่
มีผู้ตอบถูกต้อง ว่า ได้ แต่ให้ใส่ให้ถูกต้อง ( ใส่ไว้ใต้ชุดครุย ถึงแม้จะมองเห็นชุดขาวเพียงบางส่วน
ก็ต้องแต่งเครื่องแบบปกติขาวให้ถูกต้อง
ไม่ใช่ถูกต้องเฉพาะส่วนที่ยื่นออกมานอกชุดครุย เคยมีการับปริญญาบัตรในช่วงที่รัฐบาลประกาศให้ไว้ทุกข์
ทางมหาวิทยาลัยจึงกำหนดให้ผู้ใส่ชุดชาว สวมปลอกแขนดำด้วย ทั้ง ๆ ที่
เมื่อสวมชุดครุยทับแล้วก็ไม่มีใครมองเห็นปลอกแขนดำเลย )
4. วันที่ 13 มิ.ย.56 คุณ “กานต์
นครสวรรค์ (นวพน)” กศน.พิจิตร
ถามผมในเฟซบุ๊คกลุ่มครูนอกระบบ ว่า จบ
“ประโยคประถมศึกษา” เมื่อปี 2506
สมัครเทียบระดับฯแบบจบ ม.6 ใน 8 เดือน ได้หรือไม่
มีผู้ตอบถูกต้อง ว่า ให้ดูในคู่มือดำเนินงานการเทียบระดับการศึกษาในระดับสูงสุดของการศึกษาขั้นพื้นฐาน
หน้า 3
ซึ่งสรุปว่า ไม่ได้
ผู้สมัครต้องมีพื้นความรู้ไม่ต่ำกว่าการศึกษาระดับประถมศึกษา โดยในคู่มือฯหน้า 3 ระบุว่า ระดับประถมศึกษา หมายถึง มัธยมปีที่ 3,
ประถมศึกษาปีที่ 7, ประถมศึกษาปีที่ 6, การศึกษาผู้ใหญ่แบบเบ็ดเสร็จระดับ 3 ( ไม่ใช่แค่ ป.4 )
จบเมื่อปี 2506
แสดงว่าเรียนตามแผนการศึกษาชาติ พ.ศ.2494
ซึ่ง “ประโยคประถมศึกษา” ตามแผนการศึกษาชาติฉบับนี้ คือ ป.4 ( ดูในคู่มือหน้า 100
)
5. วันเดียวกัน ( 13 มิ.ย.) คุณอาธิป นักวิชาการคอมพิวเตอร์
สนง.กศน.จ.ยะลา ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า มีนักศึกษา
ระดับ ป.ตรี มาฝึกงานด้านคอมพิวเตอร์ เราสามารถพานักศึกษาฝึกงานไปราชการได้มั้ย ( กศน.ภูเก็ตเชิญคุณอาธิปไปเป็นวิทยากรอบรมเว็บไซต์
อยากจะพานักศึกษาฝึกงานไปเรียนรู้ด้วย )
เรื่องนี้ หน่วยตรวจสอบภายใน กศน. บอกว่า
จะให้นักศึกษาฝึกงานไปราชการได้ในกรณีจำเป็น แต่กรณีนี้เห็นว่าไม่จำเป็นเพราะ
-
ไม่มีข้อตกลงกับสถาบันการศึกษาที่ส่ง นศ.มาฝึกงาน ว่า
จะมีการพานักศึกษาไปราชการหรือไปฝึกงานนอกสถานศึกษา
- การไปเป็นวิทยากร
ไม่มีความจำเป็นต้องพานักศึกษาฝึกงานไปเรียนรู้ด้วย
ถ้าเป็นกรณีอื่น ที่ ผอ.สนง.กศน.จ. เห็นว่าจำเป็น จะให้
นศ.ฝึกงานไปราชการก็ได้ แต่ เนื่องจาก นศ.ฝึกงานไม่ได้เป็นบุคลากรในสังกัด จึงต้องขออนุญาตผู้ปกครองและสถาบันการศึกษาที่ส่ง
นศ.มาฝึกงาน ก่อน
(
ถ้าจะพาไปเป็นการภายใน โดยผู้บริหารอนุญาตด้วยวาจา หากเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเรื่องใดขึ้น
ผู้พาไปต้องรับผิดชอบ )
6. ดึกวันเดียวกัน ( 13 มิ.ย.) ท่าน
ดร.ดิศกุล ผอ.สนง.กศน.จ.สมุทรสาคร โพสต์ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับการประเมินภายนอก
ระยะที่ 2/56 ลงในเว็บบล็อก Gotoknow.org
ว่า
“ การประเมินคุณภาพภายนอกชุดที่จะประเมิน
กศน.อ.กระทุ่มแบน และ กศน.อ.เมืองสมุทรสาครคราวนี้
ที่จะลงประเมินที่กระทุ่มแบนในวันที่ 14-16 กรกฏาคม
และ อ.เมืองสมุทรสาครในวันที่ 17-19 กรกฏาคมนั้น จะขอประเมินในพื้นที่ กศน.ตำบล ร้อยละ 50
ของจำนวน กศน.ตำบลด้วย
จึงต้องไปเตรียม กศน.ตำบลให้ดี
และจะดูการสอนของครู หากตรงกับวันธรรมดาก็ต้องหานักศึกษาและครูทำการสอนให้ดู
จึงขอแจ้งให้เตรียมความพร้อมซ้อมให้ดีด้วย
ช่วยกันจัดการระบบเอกสารของ
กศน.อำเภอแล้วจะต้องไปเตรียมในพื้นที่ด้วย ในช่วงนี้ต้องเหนื่อยหนักกันหน่อย
จากการตามเก็บร่องรอยของการทำงาน การแสดงหลักฐานตามตัวบ่งชี้ที่มีมาตรฐานกำกับ พวกเราร่วมแรงร่วมใจก็จะผ่านไปด้วยดี
ด้วยศักดิ์ศรีและผลงานที่หมั่นทำ ”
7. วันที่ 14 มิ.ย.56 คุณพิชญานิน ขรก.ครู
กศน.อ.ระโนด โทร.มาถามผม ว่า ค่าใช้จ่ายในการแข่งขันกีฬา ยังใช้ระเบียบปี 44 อยู่หรือเปล่า
เรื่องนี้เคยมีผู้อื่นถามผม 2 คนแล้วว่า ผมมีระเบียบไหม ผมจำได้ว่ามีระเบียบปี
44 อยู่ แต่ไม่มีเวลาค้นหา และไม่รู้ว่าล้าสมัยหรือยัง จึงตอบไปว่าผมไม่มี ครั้งนี้ผมได้เรียนถามไปยัง หน่วยตรวจสอบภายใน
และ อ.ปนัดดา ฝ่ายตรวจจ่าย กลุ่มงานคลัง
ได้รับคำตอบดังนี้
1) ระเบียบปี 44 ระบุว่า จ่ายเป็นค่าอะไรได้บ้าง
ในอัตราเท่าไร แต่ระเบียบนี้ล้าสมัยแล้ว อัตราต่ำไปสำหรับภาวะปัจจุบันแล้ว จึงไม่ต้องดูอัตราการจ่ายในระเบียบปี
44 นี้ ให้ดูเพียงเป็นแนวทางว่า จ่ายเป็นค่าอะไรได้บ้าง ( ดูหนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค 0526.7/28899
ลงวันที่ 15 ต.ค.44 )
2) สำหรับอัตราในการจ่ายแต่ละรายการ ถ้าอ้างอิง ค่าใช้จ่ายในการจัดงาน
ตาม “ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม การจัดงาน และการประชุมระหว่างประเทศ
พ.ศ.2549”
จะต้องเป็นการจัดงานตามแผนงานโครงการตามภารกิจปกติ หรือตามนโยบายของทางราชการ ซึ่งฝ่ายตรวจจ่าย กลุ่มงานคลัง บอกว่า
ภารกิจปกติของ กศน. ไม่มีภารกิจในการแข่งขันกีฬา
แต่ถ้าเป็นกิจกรรมด้านกีฬา ใน “กรอบการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายการจัดการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
สำนักงาน กศน.” ข้อ 2.8
ก็สามารถใช้ระเบียบนี้ได้
ซึ่งโดยปกติการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนสามารถเบิกจ่ายเงินอุดหนุนได้ตามหลักเกณฑ์อยู่แล้ว อัตราในการเบิกจ่ายแต่ละรายการ
ให้หัวหน้าส่วนราชการเจ้าของงบประมาณพิจารณาอนุมัติการเบิกจ่ายได้เท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น
เหมาะสมและประหยัด (
หัวหน้าส่วนราชการ คือปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มอบอำนาจให้ ผอ.สนง.กศน.จ./กทม.
พิจารณาอนุมัติ ตามคำสั่งที่ 270/2551 ข้อ 16
และมอบอำนาจให้ ผอ.กศน.อ./ข. อนุมัติ ตามคำสั่งที่ 489/2551 ข้อ 8 )
สรุป
การเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายในการแข่งขันกีฬา
- ให้ทำเป็น โครงการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
- จะจ่ายเป็นค่าอะไรบ้าง
ให้ดูแนวทางจากหนังสือกรมบัญชีกลางปี 2544
-
แต่ละรายการจะจ่ายอัตราเท่าไร ให้อยู่ในดุลยพินิจของผู้อนุมัติและผู้เห็นชอบโครงการ ( ถ้าเป็นโครงการภายในวงเงิน 100,000 บาท
ผู้อนุมัติโครงการคือ ผอ.กศน.อ./ข. )
อาจใช้ดุลยพินิจด้วยการดูระเบียบของหน่วยงานอื่นเช่น อปท. (มท.)
8. คืนวันเดียวกัน ( 14 มิ.ย.) คุณ “Kung Mu Thadinjan”
ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค ว่า การย้ายข้าราชการ ถ้ายังอยู่ในช่วงเป็นครูผู้ช่วยจะย้ายสับเปลี่ยนภายในจังหวัดได้ไหม
ผมตอบว่า ถ้าอยู่ในช่วงเวลาการเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม
2 ปี ก็ยังขอย้ายไม่ได้
แม้จะย้ายสับเปลี่ยนภายในจังหวัดก็ตาม
9.
คืนวันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย.56 ผอ.ณัฐพงษ์ กศน.อำเภอเกาะสีชัง ส่งข้อความผ่านเฟซบุ๊คผม ว่า อยากให้เขียนเรื่องเกี่ยวกับการเขียนสมุดหมายเหตุรายวัน
กรณี ผอ.ไปราชการ ใครเขียนหมายเหตุ ทั้งอำเภอไม่มีข้าราชการมีแต่พนักงานราชการ
กับลูกจ้าง
ผมตอบว่า ในกรณีที่
ผอ.กศน.อ./ข.ไปราชการหรือปฏิบัติงานไม่ได้ จะต้องแต่งตั้งผู้ “รักษาการในตำแหน่ง” ( การแต่งตั้ง
ไม่ใช่อำนาจของ ผอ.กศน.อำเภอ แต่ผู้มีอำนาจแต่งตั้งผู้รักษาการฯก็คือผู้เดียวกับผู้แต่งตั้ง
ผอ.ตัวจริง โดยในส่วนของ กศน.เรา ปลัดกระทรวงฯมอบอำนาจให้
ผอ.สนง.กศน.จังหวัดเป็นผู้แต่งตั้งผู้รักษาการในตำแหน่ง
ผอ.กศน.อำเภอ ซึ่งจะต้องแต่งตั้งจากข้าราชการครูหรือบุคลากรทางการศึกษา คำว่าบุคลากรทางการศึกษาในที่นี้หมายถึงศึกษานิเทศก์หรือบุคลากรทางการศึกษาอื่นตาม ม.38 ค.(2)
เช่นข้าราชการตำแหน่งบรรณารักษ์ ถ้าในอำเภอไม่มี ก็แต่งตั้งจากอำเภออื่น )
ผู้รักษาการในตำแหน่ง
เป็นผู้เขียนสมุดหมายเหตุรายวัน
ในกรณีที่แต่งตั้ง
ผอ.กศน.อ./ข.อื่น เป็นผู้รักษาการในตำแหน่ง เมื่อ ผอ.ท่านนั้นดูแล
2 อำเภอ
คืออำเภอที่ดำรงตำแหน่งกับอำเภอที่รักษาการฯ ก็ต้องบันทึกสมุดหมายเหตุรายวันทั้ง
2 อำเภอครับ
( ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
พ.ศ.2547 มาตรา 68
ระบุว่า “ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการถ้าตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตำแหน่งใด
ว่างลง หรือผู้ดำรงตำแหน่งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ ให้ผู้มีอำนาจตามมาตรา
๕๓ (ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้ง) สั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาไปรักษาการในตำแหน่งนั้นได้”
ผู้รักษาการในตำแหน่งตามวรรคหนึ่งให้มีอำนาจและหน้าที่ตามตำแหน่งที่รักษาการนั้น
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ที่ 270/2551 เรื่องมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดและผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานครปฏิบัติราชการแทน
ลงวันที่ 5 มีนาคม 2551 ในข้อ
1 การสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารักษาการในตำแหน่งตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศึกษา พ.ศ.2547 ในกรณีที่ผู้ดำรงตำแหน่งหรือผู้รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา
หรือรองผู้อำนวยการสถานศึกษาไม่อยู่หรืออยู่แต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้
ตามมาตรา 4
พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 วรรค 1 ระบุว่า
“ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา”
หมายความว่าบุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามพระราชบัญญัตินี้ให้รับราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณแผ่นดินงบบุคลากร ที่จ่ายในลักษณะเงินเดือน ในกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงวัฒนธรรม หรือกระทรวงอื่นที่กำหนดในพระราชกฤษฎีกา วรรค 4 ระบุว่า “บุคลากรทางการศึกษา”
หมายความว่าผู้บริหารสถานศึกษา
ผู้บริหารการศึกษา รวมทั้งผู้สนับสนุนการศึกษาซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการหรือปฏิบัติงานเกี่ยวกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน
การนิเทศการบริหารการศึกษา
และปฏิบัติงานอื่นในหน่วยงานการศึกษา” )
10. วันที่ 17 มิ.ย.56 คุณ “Sarinee Nfe” ถามผมผ่านเฟซบุ๊ค
ว่า มีฟอร์มใบสมัครครูที่ปรึกษา จบ ม.6
ใน 8 เดือนไหม