รูปแบบของการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ..กรณีโรงเรียนบ้านหนองผือ

วันนี้ขอบันทึกรูปแบบและกิจกรรมสำคัญของการบริหารจัดการ ที่มี

ประสิทธิภาพของโรงเรียนขนาดเล็ก กรณีโรงเรียนบ้านหนองผือ สืบเนื่องมา

จาก เมื่อเดือนที่แล้ว เขตพื้นที่ให้ผู้บริหารโรงเรียนขนาดเล็ก เด็กไม่ถึง ๖๐ คน

ไปทำแผนเล็กๆ เพื่อสรุปรายงานให้สพฐ. ว่ามีกี่โรงที่จะต้องยุบ หรือควบรวม

หรือไปเรียนรวมบางวิชา และหรือจะไม่ไปไหนทั้งนั้น อยู่สอนที่โรงเรียนไป

ตามปกติ ซึ่งโรงเรียนบ้านหนองผือก็ได้ตอบไปว่าจะขออยู่ในประเด็นหลังสุด

โดยเขตพื้นที่ให้กรอกข้อมูลพื้นฐาน และให้โรงเรียนแสดงความจำนง

อย่างใดอย่างหนึ่ง พร้อมทั้งให้บอกเหตุผลปัจจัยประกอบ รวมทั้งให้บอก

แนวคิดและแนวทางการบริหารจัดการของโรงเรียนด้วย

ผมจึงเขียนลงไปในแผนฯ จากทฤษฏีและประสบการณ์เกือบ ๗ ปีที่อยู่กับ

โรงเรียนขนาดเล็ก โดยคิดว่ารูปแบบของการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ

ของโรงเรียน อยู่ตรงนี้ครับ

๑. การจัดการด้านพฤติกรรมผู้บริหาร

ทำให้ดู อยู่ให้เห็น เน้นการทำงานแบบมีส่วนร่วม และเป็นเพื่อนร่วมงานกัน

มากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง

๒. การปรับเปลี่ยนด้านวิสัยทัศน์

โรงเรียนขนาดเล็กก็สามารถใหญ่ได้(ไม่ยาก) ด้วยคุณภาพ..ที่หลาก

หลาย..ต้องจิ๋วแต่แจ๋ว

๓. การจัดการด้านวัฒนธรรมองค์กร

ปรับระบบการจัดการความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างพอเพียงและมีความสุข

๔. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

ลดขั้นตอนการบริหารจัดการในทุกๆเรื่อง รวดเร็ว รอบคอบ ถูกต้องและ

เรียบร้อย

๕. การประกันความสำเร็จของการบริหารจัดการ

ระดมความคิดและลงมือทำทันที ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเท

แนวทางการบริหารจัดการ..โรงเรียนบ้านหนองผือ ปีการศึกษา ๒๕๕๖

การบริหารจัดการโรงเรียนขนาดเล็ก จำเป็นต้องศึกษาและเหลียวหลังแล

หน้า หาข้อมูลพื้นฐานที่สำคัญ เพื่อรู้จักตนเองและสรรหาสิ่งดีๆที่มีอยู่ เพื่อการ

ปรับปรุงและพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง โดย

เฉพาะอย่างยิ่งจะต้องมีแผนพัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติ

งาน สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมก็คือ การมุ่งสู่คุณภาพในระบบประกันภายใน ไม่ควร

มองที่ "คะแนน" เพียงอย่างเดียว แต่ควรมองที่การบริหารจัดการรอบด้าน ที่

จะช่วยนำพาโรงเรียนขนาดเล็ก ให้น่าเรียน น่าอยู่ นักเรียนมีคุณธรรม

จริยธรรม และเรียนรู้อย่างมีความสุข

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่มีครูไม่ครบชั้น การบริหารจัดการ

อยู่ภายใต้ข้อจำกัด โรงเรียนจึงใช้หลักการบริหารแบบบูรณาการ และจัดการ

เรียนการสอนแบบคละชั้น ภายใต้ปรัชญาพื้นฐาน รู้รักสามัคคี ร่วมด้วยช่วยกัน

ทำงาน โดยมีผู้บริหารเป็นศูนย์กลางการประสานงาน ส่งเสริม สนับสนุนและ

คอยอำนวยความสะดวกให้ครูผู้สอนในทุกเรื่อง ขณะเดียวกันผู้บริหารต้อง

ช่วยสอนและต้องถือว่างานสอนเป็นงานหลักเช่นเดียวกันกับครู ตลอดจน

สามารถทำงานธุรการโรงเรียนได้อย่างเป็นระบบ และใช้แผนปฏิบัติการเป็น

เครื่องมือในการบริหารโรงเรียน โดยมีการนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผล

เพื่อปรับปรุงงานและพัฒนาในปีต่อๆไป......

ส่งแผนการบริหารไปนานนับเดือน..วันนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศ

นโยบาย จะลดชั่วโมงการเรียนการสอน หันมาเน้นภาคปฏิบัติ ลงสู่ภาคสนาม

เน้นพื้นฐานอาชีพและทักษะชีวิต(อีกแล้วครับท่าน) ซึ่งโรงเรียนก็ได้ดำเนินการ

อย่างเป็นรูปธรรมมาแล้ว ด้วยความศรัทธาและสถานการณ์บังคับ

พูดเช่นนี้ ไม่ใช่อะไรหรอก กระทรวงศึกษาคิดกลับไปกลับมา ..สุดท้ายเข้า

ทางเราเลย...

<img src="http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/919/480/default_DSC08887.JPG?1371297862" "="">

<img src="http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/919/476/default_DSC08924.JPG?1371297734" "="">

<img src="http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/919/481/default_DSC08878.JPG?1371297898" "="">

<img src="http://cdn.gotoknow.org/assets/media/files/000/919/473/default_DSC08942.JPG?1371297661" "="">

ครูนิรุตทำแปลงผักสวนครัวให้ชั้นอนุบาล/วันเสาร์ ๑๕ มิย.๒๕๕๖

</strong>

</span>

เขียนใน GotoKnow โดย ชยันต์ เพชรศรีจันทร์
ใน บ้านหนองผือ...สถานศึกษาพอเพียง

คำสำคัญ (Tags): #เรื่องเล่าจากโรงเรียนเล็ก#การบริหารจัดการ#จิ๋วแต่แจ๋ว

หมายเลขบันทึก: 539448เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2013 20:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มิถุนายน 2015 00:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่าน