โพสต์ทูเดย์
· 10 มิถุนายน 2556 เวลา 14:11 น. |
ดีเอสไอแจ้งกรุงไทยอายัดทรัพย์
30 บริษัทเอกชนแจ้งเท็จขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
2,600 ล้านบาทวันนี้ เตรียมประสานสถาบันการเงินอื่นหากสอบพบมีการกระจายเงินไปยังบุคคลอื่น
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่กระทรวงการคลังได้ยื่นคำร้องต่อดีเอสไอขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ 30 บริษัทเอกชนซึ่งได้ยื่นขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งออกเป็นเท็จ หรือโกงภาษี กว่า 2,600 ล้านบาทจากกระทรวงการคลังว่า นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลังได้ประสานให้ดีเอสไอเข้าตรวจสอบคดีดังกล่าวมานานกว่า 2 เดือนแล้ว ซึ่งจากการเข้าตรวจสอบพบว่ากลุ่มบริษัทเอกชนดัง กล่าวมีการกระทำความผิดจริง ดีเอสไอจึงให้ทางกระทรวงการคลังร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้กระทำผิดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และขณะนี้ได้รับคดีดังกล่าวไว้เป็นคดีพิเศษแล้ว โดยทั้ง 30 บริษัทมีความผิดในข้อหาเป็นตัวการที่กระทำความผิดและทำให้รัฐเกิดความเสียหาย
……………………..ฯลฯ……………………………
จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ส่งออกทั้ง 30 ราย มีสถานประกอบการที่เป็นบ้านร้าง ไม่มีความน่าเชื่อถือ มีกลุ่มกรรมการซ้ำซ้อนกัน และมีการตั้งบริษัทขึ้นมา 5-6 เดือน แล้วปิดตัว และเปิดใหม่ มีลักษณะเป็นขบวนการ
.................................................................................................................................................................
ก่อนนี้้ไม่ค่อยจะเชื่อว่ามีการโกงกันร้อยล้านพันล้าน ไม่อยากเชื่อใครเพราะเกรงว่าจะไปใส่ร้ายกัน
ตอนนี้เชื่อแล้ว
สมัยก่อนเขาโกงเรื่องโค่นไม่้ป่ากัน จนไม้หมดป่า มีการบอกเล่าว่าที่หมดป่าก็เพราะคนที่รู้เรื่องป่าดี โรงเรียนที่สอนเรื่องป่าก็มีส่วนร่วม มีเพื่อนรุ่นเดียวกันและรุ่นพี่เขาไปเรียนเรื่องป่าไม้กัน เขาว่าจบแล้วรายได้ดี ก็มั่นใจว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม้หมดป่า มาถึงเรื่องภาษี ก็น่าจะเป็นอีหรอบเดียวกัน สงสัยข้าราชการเป็นที่ปรึกษา ได้ส่วนแบ่งใต้โต๊ะอีกแล้ว แต่เพื่อตัดตอนความชั่วร้ายให้กลายเป็นดี ก็รีบแจ้งให้มีการตรวจจับ ใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่รู้ได้ แต่ก็สงสัยอยู่เหมือนกัน
รวบรวมการโกงภาษี และเรืองการโกงทั่วไป ที่ได้บันทึกไว้แล้ว อยู่ในที่นี่ครับ http://www.gotoknow.org/posts/495316
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าได้สั่งการให้ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง ผู้ดูแลหน่วยงานด้านการจัดเก็บภาษีดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ. กรณีพบผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นบริษัทส่งออกมากกว่า 30 ราย ยื่นหลักฐานเอกสารการส่งออกที่มีมูลว่าเป็นเท็จในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งออก ทำให้รัฐสูญเสียรายได้คิดเป็นมูลค่ากว่า 2,600 ล้านบาท
โดยจากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า บริษัทเหล่านี้ไม่ได้จัดซื้อสินค้าเพื่อส่งออกจริง หรือแม้แต่การซื้อสินค้าเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ พร้อมกันนี้พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมรู้เห็น ซึ่งจะดำเนินการทางคดีให้ถึงที่สุด โดยให้ร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ.ภายในวันนี้ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้คุมเข้มกรณีการเก็บภาษีรถนำเข้าซึ่งมีอยู่ 2 ประเภท คือ รถที่มีการประกอบเกือบสมบูรณ์ แต่แจ้งจดทะเบียนว่าเป็นการนำเข้าอะไหล่เพื่อเสียภาษีน้อยกว่าปกติ อีกประเภทคือ รถนำเข้าที่มีมูลค่าสูงแต่แจ้งจดทะเบียนในราคานำเข้าที่แตกต่างกันของแต่ละบริษัท ซึ่งในส่วนนี้กรมศุลกากรได้ประกาศราคาประเมินซึ่งเป็นราคากลาง ให้ยึดตามระเบียบเดียวกัน พร้อมทั้งสั่งคุมเข้มห้ามนำเข้าตัวถังรถยนต์สำหรับการประกอบในประเภทแรกแล้ว