เกาะเวนิส - ฟลอเร้นซ์


ไม่ว่าจะบ้านเมืองใดมีเจ้าผู้ครองแผ่นดินเพียบพร้อมไปด้วยทศพิธราชธรรม ไม่เพียงครองนครเท่านั้นแต่ครองหัวใจคนทั้งแผ่นดินด้วย

     นั่งรถจากมิลานมาร่วม 3 ชั่วโมงถึงเมืองเวนิสเข้าพักค้างคืน ในโรงแรมชื่อ CAPITAL PALACE HOTEL  เป็นโรงแรมไม่ใหญ่นักแต่สะอาดสะอ้านกระทัดรัดบริการเป็นกันเอง ด้วยความอ่อนเพลียหัวถึงหมอนก็นอนหลับไป เราพักที่นี่คืนเดียวครับ ตามโปรแกรม พรุ่งนี้เช้าข้ามฟากไปเกาะเวนิส แล้วเย็นๆตะลอนไปนอน ฟลอเร้นซ์เมืองแห่งสถาปัตยกรรม

     เช้านี้ที่เราจะเที่ยวกันต้องนั่งเรือข้ามฟากไปยัง "เกาะเวนิส" ราชินีแห่งทะเลอาเดรียตริค ที่นี่เป็นแผ่นดินที่ไม่มีถนนสำหรับรถนะครับ มีแต่คูคลองใช้เรือสัญจรกันเป็นหลักมีถนนก็เฉพาะสำหรับคนเดินเท่านั้น  บนเกาะมีคลองเล็กคลองน้อยและสะพานข้ามนับร้อยแห่ง เดินทางตามกันมาเลยครับ ผมจะพาเที่ยวเกาะเวนิส

     ข้ามเรือจาก San Marco ไปยัง St. Mark Sqaure 

 

     บริเวณท่าเรือมีร้านขายของที่ระลึกมากมาย ที่เห็นแขวนๆอยู่เป็นผ้ากันเปื้อนและกางเกงบ็อกเซอร์ ที่เต็มไปด้วยจินตนาการของผู้ผลิต ของฝากที่นิยมอีกอย่างก็คือหน้ากากแฟนซี ทั้งหลาย ใครชอบแบบไหนขนาดไหนก็หมายตาไว้ก่อน ขากลับมาจากเกาะค่อยมาช้อปละกันนะครับ

     ใช้เวลาล่องเรือ 20 นาที ก็ถึงจตุรัสเซนต์มาร์ค(จัตุรัสนี้จักรพรรดิ นโปเลียนเคยเรียกว่าเป็น ห้องรับแขกที่สวยที่สุดในยุโรปเชียวครับ)

     จากท่าเทียบเรือ เดินตามกันมาเรื่อยๆนะครับ บนเกาะเวนิสนี่มีสถาปัตยกรรมงดงามมากมาย ยกตัวอย่างเช่น สะพานถอนหายใจ เป็นสะพานทอดเชื่อมระหว่างพระราชวังกับคุก ว่ากันว่า คาสซาโนว่า นักรักผู้ยิ่งใหญ่ก็เดินข้ามสะพานนี้มาแล้วครับ ใครโดนตัดสินจำคุกเดินผ่านสะพานนี้ก็จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่ได้เห็นแสงตะวันและบรรยากาศภายนอก ผมว่าคงมีหลายคนแหละครับที่นึกสะท้อนถอนใจออกมาดังๆ....  เฮ้ออออ..... เข้าคุกซะละ 

     สะพานโค้งทอดข้ามคลองที่มีหลังคามีผนังแข็งแรงนั่นแหละครับ สะพานถอนหายใจ สังเกตดีๆจะเห็นช่องหน้าต่างเล็กๆให้นักโทษมองออกมาข้างนอกเป็นครั้งสุดท้าย

     เดินตามกันมาเรื่อยๆครับ เรากำลังเดินมุ่งหน้าไปชม พระราชวังดอจ์ดและโบสถ์เซ็นต์มาร์ค พบอะไรสวยๆงามๆน่าสนใจผมจะนำเสนอให้ชมกันนะครับ

     พระราชวังดอจ์ดเป็นพระราชวังเก่าแก่ของเวนิส ดูความโอ่อ่าอลังการของสถาปัตยกรรมหลายร้อยปีที่ผ่านมาสิครับ

 

     ระเบียงหน้าต่างที่เจ้าผู้ครองนคร ใช้ออกมาพบปะประชาชนเพื่อรับรู้ทุกข์สุขและเป็นมิ่งขวัญของประชาชน ไม่ว่าจะบ้านเมืองใดมีเจ้าผู้ครองแผ่นดินเพียบพร้อมไปด้วยทศพิธราชธรรม ไม่เพียงครองนครเท่านั้นแต่ครองหัวใจคนทั้งแผ่นดินด้วย เขียนแล้วก็ให้คิดถึงพ่อของแผ่นดินเราครับ

  

 

     ที่มองเห็นหลังคารูปโดมหลายๆยอดนั่นคือ โบสถ์เซ็นต์มาร์ค ครับ ศิลปะทั้งปูนปั้น โลหะหล่อ จิตรกรรม งดงามมาก

 

     สัญลักษณ์ของเมืองเวนิสครับ เป็นรูปสิงโตเหยียบหนังสือ หรือว่ากางหนังสือเอามาให้ดูทั้งสองแบบเลยครับ สิงโตเวนิสตัวจริงต้องกางปีกมีหนังสือแบบนี้นะครับ

     จากพระราชวังและโบสถ์เซ็นต์มาร์ค เราจะเดินไปตามตรอกซอกซอย สองข้างทางจะเป็นร้านขายของเต็มไปหมดครับ ส่วนมากก็จะเป็นของที่ระลึก เด่นๆก็เช่น แก้วเป่าจากโรงงานเป่าแก้วมูราโน่  หน้ากากแฟนซี และอะไรต่ออะไรที่เป็นสัญลักษณ์ของเวนิสครับ แต่ช่วงนี้ไม่มีใครแวะดูสินค้านะครับเพราะกำลังจะมุ่งตรงไป สะพานสำคัญที่ชือว่า REALTO ออกแบบโดย ไมเคิล แองเจโล ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ของอิตาลี

     นี่ผมแอบมายืนถ่ายรูปหน้ากระจกร้านเค้า เห็นว่าหุ่นโชว์สวยดี หน้ากากหมู ประชัน หน้ากากสิงห์ครับ

 

     สะพาน REALTO ครับทอดข้าม grand canal ลำคลองหลักของเกาะเวนิส

 

     เรือกอนโดล่าครับรูปทรงจะเอียงซักหน่อย คล้ายๆเรือแจวบ้านเราแต่แต่งให้หรูหรา ค่าโดยสารแพงนะครับ รอบนึง ต่ำสุดก็ ห้าพันบาทขาดตัว ค่อยกลับมานั่งเรือแจวบ้านเราดีกว่าครับ

 

    เพลิดเพลินเดินชมเกาะเวนิสพอควรละครับ ได้เวลาเดินทางกลับเข้าฝั่ง เรือข้ามฟาก หลังคาเปิดได้ ผมลองโผล่หัวออกไปถ่ายรูปทิวทัศน์บนฝั่งมาให้ดูกันครับ

     ในที่สุดก็ต้องอำลาเวนิสกันแล้วครับ ถึงแม้จะได้พบกันช่วงสั้นๆ ก็ยังสร้างความรู้สึกเหงาๆเมื่อต้องจากกัน นับประสาอะไรกับคนคุ้นเคยกันมานานนะครับ อยู่ๆกาพย์บทหนึ่งก็ผุดเข้ามาในหัวใจ

     คว้าง คว้าง ใบไม้ปลิว     ลอยละลิ่วลงสู่ดิน

เอื่อย เอื่อย ธารไหลริน        มิรู้สิ้น ณ แห่งใด

เปรียบดังชีวิตนี้                     มิมีที่จะพักใจ

อ้างว้าง ร้างฤทัย                  จวบชีพลับลงดับสูญ

จำมาจากไหนก็ไม่ทราบ แต่ก็ไม่มีเวลาเหงากันแล้วครับ ภาคบ่ายเราต้องไปลุย ฟลอเร้นซ์ด้วยกัน ไปเป็นเพื่อนกันนะครับ

    

    

 

คำสำคัญ (Tags): #เวนิส
หมายเลขบันทึก: 53810เขียนเมื่อ 8 ตุลาคม 2006 13:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 17:53 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

คิดถึงเมืองไทยตอนนี้จัง น้ำท่วม ต้องใช้เรือ เหมือนเมืองเวนิสเลย

แล้วเมื่อครั้งที่แล้วบอกว่าคิดถึงพิดโลกไม่ใช่เหรอไม่เห็นเล่าต่อเลยว่าทำไม
เพลงโปรดของใครน้า..
นกน้อยคล้อยบินตามเดียวดาย
คิดคิดมิวายกังวลให้หม่นฤทัยหมอง
ขาดมวลมิตรไร้คนสนิทคู่เคียงครอง
หลงใหลหมายปองคนปรานี
ขาดเรือนแหล่งพักพำนักนอน
ขาดญาติบิดรและน้องพี่
บาปกรรมคงมี จำทนระทม
ท้องฟ้าสายัณห์ตะวันเลือน
แสงลับนับวันจะเตือนให้ใจต้องขื่นขม
หากเย็นลงฟ้าคงยิ่งมืดยิ่งตรอมตรม
ชีวิตระทมเพราะรอมา
จวบจันทร์แจ่มฟ้านภาผ่อง
เฝ้ามองให้เดือนชุบวิญญาณ์
สักวันบุญมา ชะตาคงดี...
  •      ไม่รู้ว่า คาสโนว่า นักรักผู้ยิ่งใหญ่ถูกตัดสินให้ข้ามสะพานถอนหายใจด้วยคดีอะไรละค่ะ น่าสนใจจริงๆ
  •       สนใจเรือกอนโดล่ามากเลยค่ะ ที่นั่งดูหรูหรามากถ้าไปคราวหน้าจะลองไปนั่งดู  ห้าพันก็ห้าพันละ ดูว่าจะดีกว่าเรือแจวบ้านเรารึเปล่า
  •       ได้ตามไปเที่ยวด้วยจนสุดท้ายก่อนจากเวนิสก็พาลรู้สึกเหงาๆไปด้วย
  • ชมความงามจนจุใจ...พี่โต้งขา...หนูไปด้วย....เห็นสายตาละห้อยของหนูมั๊ย

เล่าเรื่องดีมากค่ะ เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลย ^___^

ขอบคุณที่พาเที่ยวนะคะ

ว่าแต่เมืองไทยน้ำเยอะจังปีนี้

  หนูอยากไปใช่ม๊ะ รีบมาจองคิวที่พี่ได้เลยนะเพราะหัวหน้าบอกว่าจะออกค่าใช้จ่ายให้พวกเราทั้งหมดเลยเพิ่งไปรับรางวัลใหญ่มาตั้งห้าหมื่นแน่ะไม่รู้จะพอค่าเครื่องบินรึเปล่าเนาะยังไงก็ขึ้นคิวไว้ก่อนละกันจ้า

หลงรักคนมีเจ้าของ  แอบมองอยู่ทุกวัน

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท