ผลงาน/นวัตกรรมที่เป็นเลิศ (Best Practice)
ชื่อนวัตกรรม / วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Bast Practices)
การพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ ด้วยกิจกรรมการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม
จริยธรรม
ชื่อผู้พัฒนา นางสาวดอกลักษ์ วรยศ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
โรงเรียนวัดราษฎรบำรุง อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2
E
– mail [email protected]
1. ความสำคัญของนวัตกรรม / วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 จึงได้กำหนดแนวทาง ในการจัดการศึกษาไว้ใน หมวด 4 มาตรา 23 และ มาตรา 24 ให้สถาบันการศึกษาจัดการศึกษา โดยเน้น “ การใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง ฝึกทักษะกระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ปัญหา จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น รักการอ่าน และเกิด การใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง ” ( สุวัฒน์ วิวัฒนานนท์ 2550 : 2 ) และมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาได้กำหนดมาตรฐานด้านผู้เรียนมาตรฐานที่ 4 ไว้ว่า “ ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดไตร่ตรอง และมีวิสัยทัศน์” สรุปได้ว่า แนวทางในการจัดการศึกษา และการประเมินคุณภาพในการจัดการศึกษาของชาติ เน้นการพัฒนาคนทั้งด้านการคิดวิเคราะห์ และการอ่าน
ทักษะการอ่าน เป็นทักษะหนึ่งที่มีความสำคัญช่วยให้เกิดความงอกงามทางสติปัญญาโดยเฉพาะในชีวิตคนในปัจจุบัน การอ่านมีความจำเป็นอย่างมาก ถ้าไม่อ่านเราก็ไม่สามารถทันต่อเหตุการณ์และความเป็นไปของโลก การอ่านทำให้เกิดความรอบรู้และเกิดความคิด การอ่านมีความสำคัญที่จะช่วยพัฒนาความเจริญก้าวหน้าให้แก่บุคคล ใครอ่านมากก็จะมีความรู้ มีประสบการณ์มาก (เปรมจิต ศรีสงคราม. 2527 : 1) การอ่านเป็นเครื่องมือพื้นฐานสำคัญในการศึกษาหาความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์ ซึ่งเป็นการอ่านที่ฝึกให้ผู้อ่านรู้จักใช้ความคิด สติปัญญาและความรอบรู้ต่อสิ่งที่ได้อ่านฝึกคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล สามารถจับประเด็นสำคัญของเรื่องที่อ่าน รู้จักแสดงความคิดเห็น ซึ่งการแสดงความคิดเห็นจะช่วยให้ผู้อ่านรู้จักคิดเป็น มีความรู้กว้างขวาง และเป็น การเพิ่มพูนความรู้ความสามารถในการใช้ทักษะทางปัญญา เพื่อแสดงออกมาเป็นความคิดเห็นของตนเองการถ่ายทอดความคิดเห็นของตนเองออกมาได้จำเป็นจะต้องแสวงหาความรู้ต่าง ๆ นำมาเปรียบเทียบ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ และนำไปพัฒนาความสามารถของตน ทำให้เกิดความรอบรู้จริง สามารถนำความรู้จากสิ่งที่ได้อ่านมาใช้ได้อย่างสร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้ประสบความสำเร็จในการเรียน การทำงานและชีวิตครอบครัว (กรมวิชาการ. 2546 ข : 4 – 10) การอ่านเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นและสำคัญยิ่งต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ เพราะเป็นกระบวนการในการแสวงหาความรู้และรับรู้ข่าวสารเรื่องราวต่างๆ เพื่อให้เป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์และทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน ( ณัฐณิชา บุญสม.2546 :2 )
การคิดวิเคราะห์ (Analytical thanking) เป็นทักษะที่ส่งเสริมการเรียนรู้ซึ่งผู้เรียนจะต้อง ฝึกและพัฒนาจนทำให้เป็นนิสัย เพื่อให้ผู้เรียนขยายความรู้ประสบการณ์และความคิดของตนเอง และลึกซึ้ง การคิดวิเคราะห์ (Analytical thinking) เป็นการคิดโดยใช้สมองซีกซ้ายเป็นหลักเป็นการฝึก ในเชิงลึก คิดอย่างละเอียดจากเหตุไปสู่ผลมีการคิดหาทางเลือกในรูปแบบต่าง ๆ ไปจนถึงการ วิเคราะห์เปรียบเทียบ เพื่อตัดสินใจเลือกกรณีที่จะมีความเหมาะสมและคุ้มค่าสูงสุดถือเป็นการคิด วิเคราะห์ที่มีทั้งความสมบูรณ์ ความสุขุมและตรวจความรอบคอบที่ทุกคนควรกระทา การคิดวิเคราะห์เป็นความสามารถในการจำแนกแยกแยะองค์ประกอบต่าง ๆ ของสิ่งหนึ่งซึ่งอาจเป็นวัตถุ สิ่งของเรื่องราวหรือเหตุการณ์ และการหาความสัมพันธ์เชิงเหตุผล ระหว่างองค์ประกอบเหล่านั้นเพื่อค้นหาสภาพความเป็นจริงหรือสิ่งที่สำคัญของสิ่งที่กำหนดนั้น (สุวิทย์ มูลคำ. 2547 : 9) ดังนั้นการพัฒนาทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ของผู้เรียน เป็นจุดเน้นประการหนึ่งของการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา และ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ( กระทรวงศึกษาธิการ, 2551, หน้า 6) ได้กำหนดสมรรถนะ เกณฑ์การผ่านและจบช่วงชั้นที่ต้องเกิดขึ้นกับผู้เรียน และมาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ มาตรฐานการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษา ได้กำหนดมาตรฐานด้านผู้เรียนที่เกี่ยวกับการคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ดังนี้
(1) หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนดสมรรถนะสำคัญของ นักเรียน ซึ่งพัฒนานักเรียนให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่กำหนดนั้น ในข้อ 2 คือความสามารถ ในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่างสร้างสรรค์ การคิด อย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ การ ตัดสินใจเกี่ยวกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม
(2) เกณฑ์การผ่านช่วงชั้นและการจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียนต้องผ่าน การประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนให้ได้ตามที่สถานศึกษากำหนด
(3) มาตรฐานการศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานการประเมินคุณภาพภายนอกสถานศึกษาได้กำหนดมาตรฐาน ด้านนักเรียน มาตรฐานที่ 4 ไว้ว่า “ผู้เรียนมีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ คิดสังเคราะห์ มีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดไตร่ตรอง และมีวิสัยทัศน์ ”
จากความสำคัญของทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ดังกล่าว การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ในวิชาภาษาไทย ควรเน้นกิจกรรมที่ส่งเสริมทักษะการคิด คิดได้อย่างมีกระบวนการ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 24 ได้ระบุไว้ว่าให้สถานศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฝึกทักษะกระบวนการคิด นำมาจัดในกิจกรรมการเรียนการสอนให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยสมอง ด้วยกายและใจ เพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้สร้างความรู้ผ่านกระบวนการคิดด้วยตนเอง โดยให้มีการเชื่อมโยงกับธรรมชาติ จินตนาการ ความงาม ปัญญาและฐานความจริง ซึ่งรูปแบบและวิธีการที่สามารถพัฒนาผู้เรียนในเรื่องทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ พบว่า กิจกรรมการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เป็นเครื่องมือที่ดีที่จะช่วยกระตุ้นให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน ส่งเสริมสติปัญญาด้านการคิด สร้างเสริมจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ เป็นนวัตกรรมที่นำไปสู่ 1. การเรียนรู้เหตุการณ์ปัจจุบัน (Present future oriented) 2. การสร้างจริยธรรม (Environmental ethies) 3. การบูรณาการเนื้อหาการเรียน (System approach) 4. การเรียนรู้ในเชิงระบบ (Interdiseiplinary approach) นักเรียนสามารถนำข้อคิดที่ได้จากนิทานไปพัฒนาในเรื่องคุณธรรม จริยธรรม อีกทั้งยังช่วยในเรื่องทักษะการคิดวิเคราะห์ เนื่องจากการทำหนังสือนิทานขึ้นมาสักเล่มนั้น นักเรียนต้องผ่านกระบวนการอ่าน การคิดวิเคราะห์ก่อนจึงจะสามารถถ่ายโยงความคิดอย่างเป็นระบบ ดังนั้นการจัดกิจกรรมทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม จึงเป็นรูปแบบและวิธีปฏิบัติที่สามารถพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ของผู้เรียนให้สูงขึ้น นักเรียนเกิดการเรียนรู้ที่คงทน ตลอดจนสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
2. วัตถุประสงค์และเป้าหมายของการดำเนินงาน
1. เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 และ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3
2. เพื่อให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้จากขั้นตอนการเรียนรู้การทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม มาจัดทำเป็นรูปเล่มหนังสือนิทานของตนได้อย่างสมบูรณ์
3. เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์ให้เพิ่มขึ้น
3. ขั้นตอนการดำเนินงาน
3.1.1 ขั้นวางแผน ( ดำเนินการและวางแผนดำเนินการ ) : Plan
- ศึกษาหลักสูตร ตัวชี้วัด และแนวทางการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์
- ศึกษาเนื้อหาขั้นตอนการสอนที่ต้องการพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์
ด้วยกิจกรรมการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม
- จัดลำดับขั้นตอนสอน จัดเตรียมสื่ออุปกรณ์ / วางแผนการสอน
3.1.2 ดำเนินการตามแผนปฏิบัติการ : Do
1. ครูจัดกิจกรรมพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ ด้วยการฝึกให้นักเรียนอ่านหนังสือนิทานตามความสนใจ กระตุ้นการคิดด้วยการจัดกิจกรรมให้นักเรียนวิเคราะห์คุณค่าและข้อคิดที่ได้จากนิทานด้วยเทคนิคการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น เทคนิคการถามด้วยหมวกความคิดหกใบ การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน การระดมพลังสมอง การใช้แผนที่ความคิด เป็นต้น เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการคิด
2. ครูให้นักเรียนศึกษารายละเอียด หลักการและองค์ประกอบของการแต่งนิทาน ส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม พร้อมให้นักเรียนศึกษาจากตัวอย่างหนังสือนิทานหลากหลายเล่มหลายชนิด
3. แบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็นกลุ่ม ๆ ละ 3 คน โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเกณฑ์การประเมินในการจัดทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือปฏิบัติในการแต่งนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม โดยให้แต่ละกลุ่มเขียนแผนภาพโครงเรื่องนิทานออกมาเป็นแผนผังความคิด แล้วนำเสนอผลงานหน้าชั้น ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายวิเคราะห์จุดเด่น จุดด้อยของนิทานแต่ละกลุ่มเพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
4. ครูตรวจผลงานการแต่งนิทานของนักเรียนแต่ละกลุ่มอีกครั้ง พร้อมเสนอแนะบอกจุดเด่น จุดที่ควรแก้ไขเพื่อให้นักเรียนนำไปปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นก่อนนำไปเขียนและจัดทำเป็นรูปเล่ม
5. ครูอธิบายวิธีการทำหนังสือ ส่วนประกอบของหนังสือ ขั้นตอนการเข้าเล่ม และนำตัวอย่างรูปเล่มหนังสือนิทานที่ทำจากมือมาให้นักเรียนได้ศึกษา พร้อมสาธิตขั้นตอนการเข้ารูปเล่มให้นักเรียนดู
6. นักเรียนนำนิทานที่แต่งขึ้นมาจัดวางหน้าตามโครงร่างหนังสือ โดยเริ่มตั้งแต่ปกหน้า ปกใน คำนำ เนื้อหา ปกหลัง และร่วมกันวางแผนการทำงานเพื่อจัดทำเป็นรูปเล่มหนังสือนิทาน
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มลงมือปฏิบัติในการทำหนังสือนิทานซึ่งจะได้สร้างสรรค์ผลงานของตน
3.1.3 การตรวจสอบ ประเมินผล : Check
- นักเรียนนำผลงานที่ได้มาเปรียบเทียบกัน และปรับปรุงผลงานของตน
- ครูตรวจผลงานและให้คำแนะนำในการแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อให้หนังสือนิทานมีความสมบูรณ์
- จัดแสดงผลงานไว้ในห้องสมุด / มุมผลงานนักเรียนเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผลงาน
- นักเรียนทำแบบสอบถามความพึงพอใจ ครูวิเคราะห์สรุปผลจากแบบสอบถามความพึงพอใจ
3.1.4 การรายงานผลเพื่อปรับปรุงพัฒนา : Action
- จากการสังเกตและจากแบบสอบถามความพึงพอใจ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผลการปฎิบัติงานในการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม พร้อมนำข้อเสนอแนะในการแก้ไขปรับปรุงไปพัฒนางานในครั้งต่อไปให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
4. ผลการดำเนินงาน / ประโยชน์ที่ได้รับ
ผลการดำเนินงาน
1. นักเรียนมีทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ที่สูงขึ้น
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์เพิ่มขึ้น
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 -3 โรงเรียนวัดราษฎรบำรุง สามารถจัดทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมได้ อีกทั้งมีความสนใจ ใฝ่รู้ที่จะพัฒนาการทำหนังสือนิทานของตนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและสามารถขยายผลต่อให้กับผู้เรียนคนอื่น ๆ ได้
ประโยชน์ที่ได้รับ
การจัดกิจกรรมการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม สามารถพัฒนาทักษะการอ่าน การคิดวิเคราะห์ของนักเรียนให้เพิ่มสูงขึ้น และเป็นแนวทางสำหรับครูผู้สอน และผู้ที่สนใจนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาการอ่าน การคิดวิเคราะห์ของนักเรียน
5. ปัจจัยความสำเร็จ
1. ผู้บริหาร ให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนในการจัดกระบวนการเรียนรู้ ตระหนักถึงความสำคัญของการเรียนเพื่อเพิ่มศักยภาพทางการเรียนรู้โดยการพัฒนาสื่อการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ รวมทั้งสนับสนุนด้านงบประมาณ สร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อมของการทำงานในสถานศึกษาให้เป็นมิตร ให้ขวัญกำลังใจ ทำให้เกิดการขับเคลื่อนกระบวนการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของครูไปสู่การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้อันก่อให้เกิดผลต่อการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตร
2. ครูผู้สอน มีความตระหนักและเน้นความสำคัญ ในการวิเคราะห์ผู้เรียนและนำผลการวิเคราะห์ มากำหนดแนวทางการจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับความต้องการ และธรรมชาติของผู้เรียน มีความตระหนักในความสำคัญของการเรียนที่จะเสริมสร้างศักยภาพนักเรียนให้เกิดการเรียนรู้และเห็นความสำคัญของการอ่าน การคิดวิเคราะห์ มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แบ่งปันประสบการณ์ในการทำงาน ให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติงาน ให้การยอมรับ ให้ความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ ชี้ให้เห็นข้อดี ข้อบกพร่องในการทำงาน และมีทัศนคติที่ดีต่อการสอน โรงเรียน และนักเรียน มีความสุขที่จะพัฒนานักเรียนในทุกๆ ด้าน อีกทั้งยังให้กำลังจนนักเรียนสามารถทำหนังสือได้สำเร็จสมบูรณ์
3. ผู้ปกครองให้ความสำคัญและมีเวลาให้กับบุตรหลานในการร่วมกันพัฒนาความสามารถทางด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ไม่ปล่อยให้โรงเรียนเป็นผู้รับผิดชอบเพียงฝ่ายเดียว อีกทั้งให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวผู้เรียน ให้ความร่วมมือ ให้ความช่วยเหลือ และสนับสนุนในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ให้ความร่วมมือแก้ปัญหา ในทิศทางเดียวกัน ทำให้ทราบถึงความคาดหวังของผู้ปกครอง ชุมชน ที่มีต่อโรงเรียนและครู รวมถึงให้ความรู้ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นซึ่งเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนรู้ ทำให้นักเรียนได้พัฒนาเต็มศักยภาพ
4. มีระบบการทำงาน คือ มีการวางระบบที่ดี (P) มีการดำเนินงานตามระบบทุกขั้นตอน (D)
มีการตรวจสอบระบบ (C) และมีการปรับปรุงแก้ไขระบบ เพื่อนำไปวางระบบที่ดีกว่าเดิมปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง
6. บทเรียนที่ได้รับ
การจัดกิจกรรมการทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม สามารถพัฒนาความสามารถ
ด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์ให้สูงขึ้น นักเรียนสามารถทำหนังสือนิทานที่เป็นรูปเล่มของตนได้และมีความภูมิใจในผลงานของตน ซึ่งผลจากความพยายามพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน และการดำเนินการอย่างจริงจังต่อเนื่องทำให้การดำเนินงานประสบผลสำเร็จ ส่งผลต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
ถือเป็นบทเรียนที่ได้รับ ดังนี้
- นักเรียนมีความรู้ มีความสามารถในการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง มีความสามารถด้านการอ่าน การคิดวิเคราะห์ มีทักษะในการทำหนังสือนิทาน และประสบผลสำเร็จในการศึกษาต่อ
- ครูมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง มีความภาคภูมิใจ และชื่นชมในผลที่เกิดแก่นักเรียน
- โรงเรียนได้รับรางวัลต่าง ๆ ทางด้านการแข่งขันทักษะวิชาการในด้านการอ่านและการคิดวิเคราะห์ทั้งในระดับกลุ่มโรงเรียน และระดับเขตพื้นที่การศึกษา ทำให้ได้รับการชื่นชมจากผู้ปกครอง และชุมชน
- ผู้ปกครองมีความเชื่อมั่นในการจัดการศึกษาของโรงเรียน และภาคภูมิใจในตัวบุตรหลาน
- ชุมชนมีความภาคภูมิใจที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของโรงเรียน
ข้อเสนอแนะ
1. ครูผู้สอนควรแนะนำขั้นตอนการจัดทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้และเข้าใจให้ถูกต้องครบถ้วน
2. การจัดทำหนังสือนิทานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ควรจัดให้ผู้เรียนทำงานเป็นกลุ่ม แต่ละกลุ่มควรมีนักเรียนที่มีความสามารถแตกต่างกัน ทั้งการจัดทำเนื้อหาสาระ การออกแบบ วาดรูประบายสี
3. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้อาจมีการปรับหรือลด หรือจะขยายเวลาในการจัดกิจกรรมให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความพร้อมของผู้เรียนแต่ละคน ทั้งนี้เนื่องจากการเรียนรู้ที่ดีควรมีความยืดหยุ่น สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทุกสถานการณ์เพื่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ตลอดจนสามารถนำประโยชน์ของการเรียนรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข
4. หนังสือนิทานแต่ละเล่มที่นักเรียนแต่ละกลุ่มได้ทำสำเร็จแล้ว ครูควรจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้นำเสนอผลงานและร่วมกันวิเคราะห์ข้อคิด คุณค่าที่ได้จากนิทาน เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านคิดวิเคราะห์
7. การเผยแพร่ / การได้รับการยอมรับ / รางวัลที่ได้รับ
การเผยแพร่
1. เผยแพร่ในการจัดนิทรรศการวิชาการของโรงเรียน
2. เผยแพร่ในการจัดนิทรรศการวิชาการของกลุ่มเครือข่ายสถานศึกษา ฯ
3. เผยแพร่ในการเป็นวิทยากรในการให้ความรู้ในการทำหนังสือนิทาน Pop – up
ณ โรงเรียนวัดโพสพผลเจริญ
4. เผยแพร่ผลงานนักเรียนในกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาไทย
ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย ในการเข้ารับการต่อยอดมุมหนังสือ ธปท. ของโรงเรียนในระดับ
ภาคกลางที่มีผลงานจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่านยอดเยี่ยม เมื่อ ปี 2553
5. เผยแพร่ผลงานทางเว็บไซด์ของโรงเรียนวัดราษฎรบำรุงhttp://www.rdb.ac.th/
6. http://www.gotoknow.org/dashboard/home#/posts/538020
7. https://www.facebook.com/profile.php?id=100000861506497&ref=tn_tnmn
8. เผยแพร่ให้คณะกรรมที่มาตรวจเยี่ยมเพื่อรับรองเป็นต้นแบบโรงเรียนในฝัน
( โรงเรียนดีประจำอำเภอ ) รุ่นที่ 3
ขอบคุณสำหรับแนวทางค่ะ...จะนำไปปรับใช้กับลูกหลานน่ะค่ะ
กิจกรรมดีมีประโยชน์ขออนุญาตนำไปปรับใช้นะคะ
ขอบคุณมากค่ะ ที่นำเสนอกิจกรรมที่ดีมีประโยชน์