กรณีขนรถหรูไปขึ้นทะเบียนเลี่ยงภาษี DSI น่าจะหนาวเมื่อเห็นชื่อผู้ครอบครองรถ


จากข่าว……..ดีเอสไอเร่งสอบรถหรู เชื่อพันแก๊งสวมทะเบียน

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน

2 มิถุนายน 2556 21:42 น.

ข่าวจากต้นฉบับที่นี่  http://www.easy.tc?gsu
…………………………………………..ฯลฯ ……………………………………
วานนี้ (2 มิ.ย.) พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร ผู้บัญชาการสำนักปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบก และกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ได้เดินทางไปตรวจสอบรถหรูที่เกิดเพลิงไหม้บนรถเทรลเลอร์ ขณะบรรทุกนำไปส่งลูกค้าที่ จ.ศรีสะเกษ บริเวณทางขึ้นเขาหลัก กม.ที่ 36-37 ถ.มิตรภาพ ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ สภ.กลางดง อ.ปากช่อง เพื่อตรวจสอบหมายเลขเครื่องยนต์ ตัวถังอย่างละเอียด เนื่องจากทางดีเอสไอ เชื่อว่ารถหรูเหล่านี้น่าจะพัวพันกับขบวนการแก๊งสวมทะเบียน หรือปรับแต่งเครื่องของรถหรูส่งขาย

 พ.ต.ท.กรวัชร์ เปิดเผยภายหลังว่า เบื้องต้นพบว่ามีรถหรู 1 ใน 6 คันคือลัมโบกินี สีขาว มีเลขตัวถังตรงกับบัญชีรถเลี่ยงภาษีที่ดีเอสไอตรวจสอบได้ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้จะรอผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการจาก พฐ.อีกครั้ง เพื่อเสนอข้อเท็จจริงให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ในความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ศุลกากร เนื่องจากรถเหล่านี้เป็นรถหรูที่นำเข้ามาทั้งคันแต่เลี่ยงภาษีด้วยการแจ้งว่าเป็นนำเข้าชิ้นส่วนเพื่อนำมาประกอบเป็นรถจดประกอบ ซึ่งจะทำให้เสียภาษีต่ำเพียง 30% ต่อคัน ขณะที่การนำเข้าทั้งคันเสียภาษีประมาณ 200% ต่อคัน

…………………………………………..ฯลฯ …………………………………………………..........................      


หมายเลขบันทึก: 538013เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2013 20:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2013 10:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

ความขี้โกงของคน โกงได้ถ้วนหน้า แต่ที่น่าระอาก็รวยแล้วยังโกง  

DSI is taking charge of this case. There are speculations that this is done to "hide the facts" (once again). Sigh!


วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 13:27 น. ข่าวสดออนไลน์ 

http://www.easy.tc?gsz

.........................................................................ฯลฯ.............................................................................

 “สำหรับรถลัมโบกินีคันที่ไฟไหม้ มีรายละเอียดการครอบครองและนำเข้าทั้งหมด โดยพบว่ามีบุคคลเข้าไปเกี่ยวข้องจำนวน 18 คน  นอกจากนี้ยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่สรรพสามิต ศุลกากร ขนส่งทางบก และวิศวกรตรวจสอบรับรองการติดตั้งถังก๊าซ เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้ยังเชื่อว่ารถหรูทั้ง 6 คัน น่าจะเกี่ยวข้องกับการหลบเลี่ยงภาษีเช่นกัน พร้อมกันนี้พบว่ามีรถลัมโบกินี อีก 3 คันที่อยู่ในเป้าหมาย กำลังจะนำไปจดทะเบียน ซึ่งพบแล้ว 1 คัน คือคันที่เกิดเหตุไฟไหม้ และอยู่ระหว่างติดตามอีก 2 คัน” อธิบดีดีเอสไอ กล่าว

นอกจากนี้ นายธาริต ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเรื่องดังกล่าวอาจมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องนั้น เบื้องต้นจากการสืบสวนยืนยันว่ายังไม่พบหลักฐาน เพียงแต่เชื่อว่าน่าจะมีนักการเมืองเกี่ยวข้องเท่านั้น เพราะกลุ่มผู้ซื้อรถหรูจะเป็นนักการเมืองหรือนักธุรกิจที่มีฐานะ สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร มาตรา 27 ฐานหลบเลี่ยงภาษี  ระวางโทษจำคุก 10 ปี ปรับ 4 เท่าของภาษีรถ ส่วนผู้ที่ซื้อรถมีความผิดเช่นกันฐานรับซื้อรถผิดกฎหมาย ซึ่งต้องดูเจตนาเป็นหลัก และผู้ซื้อเหล่านี้สามารถยุติคดีอาญาได้โดยต้องนำรถที่ซื้อกลับมาคืนให้ตกเป็นของแผ่นดิน ทั้งนี้จากข้อมูลของดีเอสไอพบว่ากลุ่มผู้ซื้อรถจะรู้ที่มาที่ไป และระบบของขบวนการเหล่านี้อยู่แล้ว เนื่องจากประเทศไทยไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพียงพอในการนำรถหรูแบบนี้มาประกอบเอง  อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เราไม่ได้รับคดีเข้ามาทำแบบเลื่อนลอยเรามีฐานข้อมูลรถหรูเลี่ยงภาษีทั้ง 5,832 คันนี้ครบสามารถดำเนินการต่อได้ทันที

   ด้าน พ.ต.ท.กรวัชร์ กล่าวถึงกรณีทีมีมติ ครม.ห้ามไม่ให้มีรถจดประกอบแต่พบว่ายังมีการรับจดทะเบียนรถจดประกอบอยู่นั้นเห็นว่าแม้จะมีมติครม.แล้วแต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ออกประกาศบังคับใช้อย่างเป็นทางการทำให้ยังพบว่ามีการนำชิ้นส่วนรถมาแจ้งจดประกอบในประเทศไทยอยู่  อย่างไรก็ตาม คดีการหลีกเลี่ยงภาษีรถหรูนี้ดีเอสไอได้ทำมานานแล้ว ข้อมูลทั้งหมดที่กว่าจะได้มา จำนวน 5,832 คัน  รวมทั้งชื่อที่อยู่ของผู้เกี่ยวข้องได้ใช้ความพยายามมานานกว่า 2 ปี และก็มีเอกสารประกอบความผิดเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ส่วนกรณีที่มีประเด็นว่าทำไมถึงนิยมไปจดประกอบกับที่ จ.ศรีษะเกษ นั้นคงต้องสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป

รายงานข่าวเปิดเผยว่า สำหรับจังหวัดที่มีการรับจดทะเบียนรถหรูมากที่สุด คือ นนทบุรี 2,253 คัน รองลงมา คือ สระบุรี 1048 คัน  กทม. 891 คัน  พระนครศรีอยุธยา 607 คัน ปราจีนบุรี 290 คัน นครปฐม 239 คัน อ่างทอง 236 คัน นครนายก 114 คัน ชลบุรี 54 คัน กาญจนบุรี 35 คัน ราชบุรี 27 คัน  ศรีษะเกษ 19 คัน จันทบุรี 7 คัน อุบลราชธานี 5 คัน เชียงใหม่ 2 คัน อุตรดิตถ์ 2 คัน และ นครพนม พัทลุง สงขลา สุพรรณบุรี และอุดรธานี จังหวัดละ 1 คัน

ดู ๆ ไปแล้วเป็นโกงใหญ่ โกงใหญ่คราวใด ต้องมีผู้มีอิทธิพล มีสี มีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง 

sr ครับ DSI ยังน่าเชื่อถือ แต่จะสาวถึงตัวการใหญ่ได้หรือไม่ หรือว่าจะลงเอยด้วยทำอะไรไม่ได้ เพราะใหญ่จริง ๆ  ก็คอยจ้องดูกันต่อไป

มีผู้สันทัดกรณี ให้ความเห็นเป็นการภายในว่า  อาจเป็นเพราะลูกนักการเมืองที่พ่อโกงเงินหลวงมา เกิดการเหยียบตาปลา  มองหน้ากันแล้วหยากจะเหยียบหน้าอีกฝ่าย  เงินมากมายอย่างนี้ จะเอามาจากไหน นอกจากโกงเงินหลวงมา หรือว่าจากยาเสพติด คิด ๆ ไปแล้ว สงสัย ๆ ว่าจะเป็นจริง เป็นจริงขึ้นมาตามว่า ก็น่าจะได้หนาวกันทั้ง DSI  และคนไทยที่เฝ้าจับตาดู  ขออวยพรให้  DSI  ทำงานใหญ่นี้ให้สำเร็จนะครับ

เสียงแว่วมา  http://www.easy.tc?gt2

ว่านักการเมืองไม่เกี่ยวข้อง  

เรื่องขอรถหรูมีข้อมูลให้อ่านเพิ่มเติม ที่ชี้ให้เห็นว่า มีการทำมานานทำมามาก ล้วนมาจากบิ๊กรวยกันทั้งนั้น http://www.easy.tc?gt6


ชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ พูดถึงเรื่องรถหรู ดู ๆ แล้วน่าจะเป็นมวยล้ม เพราะน่าจะมีพวกผู้ดึผู้ใหญ่หัวใจโจร เป็นแบบอย่าง จะจริงหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป ฟังหูไว้หูไปก่อน

http://www.easy.tc?gtd

วานนี้ ( 8 มิ.ย.) นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ในชื่อ "ชูวิทย์ I'm No.5"  ถึงกรณีที่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ลงพื้นที่ตรวจสอบรถหรูตามรายชื่อบัญชีที่มีการนำเข้ามาประกอบชิ้นส่วนต่างๆ โดยระบุข้อความว่า

"ผมเห็นคุณธาริตไปตรวจสถานที่ โกดัง อู่เก็บรถต่างๆ เพื่อดูที่มาของรถหรู "ซุปเปอร์คาร์" รวมทั้ง "รถจดประกอบ" ขอกระซิบเบาๆ เชิญคุณธาริตไปตรวจที่จอดรถสภาฯ ทำเนียบรัฐบาล หรือกระทรวงต่างๆ คุณธาริตก็จะพบกับรถแบบที่คุณธาริตว่า มาจากโรงงานกำมะลอ หรือเป็นพวกรถเบนซ์จดประกอบ แยกชิ้นส่วนแล้วเอามาประกอบ เขาซื้อขายกันครึกครื้น คนขี่ก็ล้วนแต่เป็นนักการเมือง หรือไม่ก็มีตำแหน่งใหญ่โต

อย่ามัวแต่ไปจ้อง "นักธุรกิจ" ไปโหนกระแส ถ้ารถหรูไม่ไฟไหม้บนรถเทรลเลอร์คงไม่มีเรื่อง อย่างนี้เขาเรียก "ทำงานตามกระแส"

แล้วเรื่องข้าว ขาดทุนป่นปี้เป็นแสนล้าน คุณธาริตไม่คิดจะตรวจสอบบ้างหรือ  หรือเพราะว่ามันจะไปกระทบกระทั่ง "รัฐบาล" แต่ผมว่าเรื่องข้าวสำคัญกว่าเรื่องรถหรูนะครับ หากคุณธาริตจับเรื่องนี้ ผมรับประกันว่าดังแน่ๆ รับรางวัล "ข้าราชการดีเด่น" ประเทศไทย ไปเลย


ดูชื่อผู้ครอบครองรถหรู  แล้ว  DSI  น่าจะหนาว  ก็คลิ๊กดูกันนะครับ http://www.easy.tc?gth

ข่าวรถหรูว่าเป็นของใคร ก็ต้องฟังหูไว้หู  เพราะข่าวก็คือข่าว  แต่ที่น่าสงสัย ที่ยังไม่มีการแถลงของ DSI  ว่ารถหรูเป็นของใครกันแน่  หรือว่า DSI  นอนหนาวไปเสียแล้ว อ่านข่าวไปก่อนแล้วกันครับ http://www.oknation.net/blog/tigondrager/2013/06/11/entry-2

ไทยโพสต์เขาเขียน ไว้น่าสนใจ 

http://www.thaipost.net/news/100613/74803

...........................................ฯลฯ.......................................

มันไม่ตอบโจทย์คดี รถหรู ๖ คัน ที่ไฟไหม้บนรถเทรลเลอร์เมื่อ ๒๙ พ.ค.ที่มุ่งหน้าไปส่งที่ศรีสะเกษ นั้น มีเบนต์ลีย์ ๒ คัน บีเอ็มดับเบิลยู ๑ คัน เฟอร์รารี ๑ คัน ลัมโบร์กีนี ๑ คัน เบนซ์ รุ่น อี ๓๐๐ ๑ คัน ซึ่งชาวบ้านอยากรู้ว่า

  -เป็นรถของใครบ้าง?
  -ต้นทางมาจากไหน?
  -ส่งไปให้ใครที่ปลายทาง?
  -รถเทรลเลอร์ "ของกลาง" เป็นรถของใคร?
  -นายเอกพัฒน์ วิลามาศ คนขับเทรลเลอร์ รับจ้างใครขน?


  นี่ตะหาก "ประเด็นคดีที่ DSI ต้องทำ" ในคดีที่ให้ สภ.กลางดงโอนมาเป็นคดีพิเศษ เท่าที่ผมสังเกต นับแต่โอนเรื่องมา นายธาริตไม่พูดถึงการสืบสวนคลี่คลายรถหรู ๖ คันนั้นเลย กลับยกประเด็นรถหลบเลี่ยงภาษี "คดีชั่วประจำระบบราชการ" อันมีอยู่แล้วขึ้นมา คล้ายเจตนากลบเกลื่อน เบี่ยงคดีรถหรู ๖ คันนั้น

...............................................ฯลฯ................................................

เจ้าคำ อาจจะคือผู้ วางแผนเผารถหรู เพื่อ ความจริงของฝ่ายอริ ฝ่ายตรงข้าม จะได้เปิดเผยเสียที เพราะ การถูกอิจฉา หรือหวาดกลัวว่า เจ้าคำจะขึ้นมาดังเท่า รวยเท่า ลูกอิจฉาของผู้หวาดกลัวตนจะใหญ่กว่าเขา แล้วก็เข้าเป้า พี่ใหญ่ปากน้ำ โดนสอบ แค้นหนัก ทีนี้ เจ้าคำเลยวิบากบ้าง เอากันเข้าไป. อิจฉา และ ทะเลาะกันเยอะๆ ประชาชาติจะได้ล่วงรู้การสวมรอยชื่อเสียคนดีดี เมื่อ2500 กว่าปี ทำมาหากิน แสวงลาภ ยศ สรรเสริญ รางวัล โล่ ความพึงใจ จับต้องงบประมาณชุมชน มันกว้างขวางเท่าใดกันแล้วในประเทศไทย นำความเบื่อมาแปรเป็นสินค้า และ บริการกัยอย่างชำนิชำนาญด้วยภาพการห่มผ้าสีนั้น สีนี้แค่นั้น

ทำไม ไม่มีใครกล่าวเรื่อง เจ้าคำ ถูกกลุ่มทุนอื่น ที่หวาดกลัวเจ้าคำ เตะขัดขา ล้มตึงกันบ้าง มีเครื่องบิน มีเงิน มีรถ ด้วยทาน และ งบประมาณของผู้ใช้บริการงานพยากรณ์ อวดอุตริของเขามากมาย ขยายอำนาจก็กว้างกว่า. เริ่มกันได้แล้วนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท