กำลังอยู่ต่างจังหวัด….มีคนเล่าให้ฟังว่า เพิ่งไปงานแต่งานมา เป็นลูกชายคนเดียวของเพื่อนฝูง ที่มีลูกสาวของใครก็ไม้รู้ตามมาอยู่ด้วย
อยู่ไป ๆ ก็อยากได้มาเป็นสะใภ้ให่ถูกต้องตามกฏหมาย จะได้หลานมาอุ้มเล่น ก็บอกให้
ว่าที่สะใภ้อย่างเป็นทางการ ไปบอกพ่อแม่
ว่าจะแต่งงานให้ให้ ในที่สุดก็พากันไปจัดงานแต่งงานเลี้ยงที่โรงแรมใหญ่ ควักเงินสินสอดทองหมั้นไปสองแสน ค่าอาหารโรงแรมไปอีกแสน แล้วก็ได้ลูกสะใภ้มาสมใจ ยังไม่ทันข้ามวัน ตกเย็นลูกชายมาบอกแม่ว่า โรงแรมมาขอเงินที่ยังขาดอีกสามหมื่น
แม่ก็บอกว่า เฮ้ย!! ฉันควักเงินไปสามแสนแล้ว เอ็งก็ต้องไปบอกแม่ยายเอ็งให้จ่ายแทนซิวะ ลูกแก้วลูกหัวแหวน ก็ไปบอกเจ้าสาวหมาด ๆ ของเขา สักประเดี๋ยวก็กลับมาบอกแม่ว่า แม่ภรรยาบอกว่าเอาไปจ่ายหนี้หมดแล้ว
แม่แก้วเอ๋ย แม่แก้ว เป็นเดือด เลือดพล่าน ชี้หน้าบอกลูกว่า เอ็งไปบอกเลิกมันเดี๋ยวนี้ก่อนที่จะเสียใจซ้ำสอง ไปเลย ๆ สามแสนจ่ายไปแล้ว ไม่เสียใจเพราะพลาดท่า ไม่ได้หาข้อมูลผู้ที่จะมาเกี่ยวดอง จึงบอกลูกขอให้จบกันในวันนี้ จะได้ไม่มาปวดใจในภายหลังอีก เพราะทั้งแม่ยายตัวดีของเอ็งนี่ไม่ธรรมดา และภรรยาของเอ็ง ก็มองไม่เห็นความชอบธรรม หากนำมาเป็นเมีย ลูกเอ๋ย เอ็งจะช้ำไปจนตาย
แม่ยายไม่ทันข้ามคืนก็มายืนเล่าให้คนที่ผมไปพักค้างที่บ้านฟัง และผมก็นำมาเล่าต่อ พอเป็นบทเรียนป้องกันความผลีผลามตามใจลูกตน จนไม่รู้การโกงของ แล้วพ่อหน้ามนลูกชายของแม่ยายไม่ทันข้ามคืน ก็มายืนร้องเพลง “ยี่สิบหมื่นผมเหลือทน ไม่ขอดิ้นรนให้คนขายลูกกิน”
ย้ำอีกที....เรื่องจริงเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าเชื่อใจทาง อย่างวางใจ ว่าที่เขยสะใภ้แม่ยายพ่อตา ผู้ที่จะมาเป็นดอง เพราะอาจหมองใจไปจนตายได้เหมือนกัน
20 หมื่น ขอผ่อนได้ไหม 555
น้อง ดร. ขจิต ครับ 555 น่าจะเป็นนวัตกรรมสินสอดทองหมั้นใหม่ได้ โดยบอกว่าที่ภรรยาว่า "แม่บอกมาว่า เงินสินสอดทองหมั้นสองหมื่นนั้น แม่ขอผ่อนเป็นงวด วันหมั้น 50,000 หลังแต่งแล้ว 1 ปี 50,000 ได้ลูกให้แม่อุ้มเมื่อไร เอาไปอีีกแสน แม่แถมทองอีก 20 บาท" จะลองเอาไปใช้กันดูก็ได้ 555
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ