วันสุดท้าย
การส่งผลงานทางวิชาการเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะในวันสุดท้ายตามที่กำหนดไว้ มักจะมีเรื่องราวต่าง ๆ
มากมายให้พบเจอกันสม่ำเสมอ
บ้างก็เป็นประสบการณ์ใหม่ที่เพิ่งพบเจอในคราวนี้
แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบเดิม ๆ ที่เจอแล้วเจออีกจนเอือมระอา...
เริ่มจากการโทร.มา... “ขอโทษนะ วันนี้กำหนดส่งผลงานวันสุดท้ายใช่ไหม ((( ก็รู้อยู่เต็มอกนี่) เอ่อ ขอส่งพรุ่งนี้ได้ไหม แค่วันเดียวเอง” คำตอบที่ได้รับคือ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ ไม่สามารถส่งเกินกำหนดได้...
หรือโทร.มา...”มีเรื่องจะปรึกษา ตอนนี้ที่เขต ผอ.เขตไม่อยู่ ผช.ผอ.เขตไม่อยู่เลย ไม่มีใครสามารถลงนามบันทึกส่งผลงานได้ ขอส่งวันถัดไปได้ไหม” คำตอบคือ ได้ ยินดีให้ หัวหน้าฝ่ายปกครอง หรือ หัวหน้าฝ่ายศึกษา ลงนามบันทึกส่งผลงานได้ แต่ต้องส่งภายในกำหนดเท่านั้นและลงนามได้เฉพาะในกรณีนี้เท่านั้น
แล้วก็จะมีโทร.มาตอนประมาณบ่ายสามโมงครึ่ง “ตอนนี้กำลังออกไปส่งผลงานแล้ว รถติดมาก ขอให้รอหน่อยนะ นี่ออกจากโรงเรียนแล้วจาก.... ” โอ้พระเจ้า.. จาก...ถึงคลองสาน จะต้องรอถึงยามที่เท่าไหร่หรือจ๊ะ เวลารับผลงานเริ่มตั้งแต่ เก้าโมงเช้า ถึง บ่ายสี่โมงครึ่ง แต่ดันออกมาจาก...ตอนบ่ายสามครึ่งเนี่ยะนะ แล้วก็จะมีในลักษณะนี้เยอะมาก พอใกล้จะหมดเวลาก็จะโทร.มาให้รอ กำลังอยู่บนทางด่วน กำลังเข้าเล่ม กำลังใส่ปก จะเสร็จแล้วรอด้วยนะ.... ซึ่งจากประสบการณ์ที่ผ่านมาทุกครั้ง เจ้าหน้าที่ต้องอยู่รอรับผลงานของบุคลากรกลุ่มนี้บ้างก็ถึงสองทุ่ม สามทุ่ม สี่ทุ่มยังมีเลย...
ในส่วนที่อุตส่าห์ มาถึงที่ส่งตอนประมาณปลาย ๆ บ่ายสี่ครึ่ง หรือห้าโมงกว่า ๆ ก็มีอาการ มือไม้สั่น ตาแดง ๆ ละห้อย เสียงอ่อย ๆ และมีเหตุผลมาบอกกล่าวกันต่าง ๆ นานา เช่น พ่อ แม่ พี่ น้อย ลูก หลาน ป่วย ต้องพาไปหาหมอเข้าโรงพยาบาล งานการที่ทำไว้โดนไวรัสต้องเสียเวลาทำใหม่หมด ลืมเอกสารไว้ในรถแท็กซี่ ต้องไปตามหา และสารพัดสารพันที่พอจะเป็นเหตุผลอันจะร้องขอให้รับผลงานไว้ด้วย แม้จะเกินเวลาปิดรับแล้วก็ตาม...
และก็เป็นเหตุการณ์ที่วนเวียนเป็นวัฎจักรเสมอมา จนทำให้เจ้าหน้าที่คิดว่า เอ๊ะ เหตุการณ์เดิม ๆ วนกลับมาหรืออย่างไร... มิหนำซ้ำ จากการสอบถามพูดคุยคนที่มาส่งช้าในรอบนี้ ก็ได้รับคำตอบว่า รอบที่แล้วก็มาช้าแบบนี้ยังรับเลย แฮ่ม.... กรณีแบบนี้ ก็เลยได้รับการแนะนำกลับไปในลักษณะว่า รอบที่แล้วก็รับไว้เพราะเห็นใจด้วยเหตุผลที่บอกมา แล้วก็กำชับหนักหนาว่าให้เตรียมตัวแต่เนิ่น ๆ หากมาช้าอีกก็จะไม่รับแล้ว แต่ทำไมไม่จำไว้ กลับมาทำผิดซ้ำเดิมอีกล่ะ ... โธ่เอ๊ย คนเรา ที่บอกว่าผิดเป็นครู นี่คงไม่ใช่สำหรับกรณีแบบนี้เป็นแน่
การส่งผลงานทางวิชาการเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะนั้น ได้กำหนดไว้ว่า เมื่อผู้ที่ประสงค์จะขอเลื่อนวิทยฐานะ ยื่นคำขอประเมินในรอบใดแล้ว เมื่อผ่านการประเมินด้านที่ ๑ และ ๒ และได้รับแจ้งว่าให้ส่งผลงานได้นั้น ให้ผู้ขอฯ ส่งผลงานวิชาการภายในรอบปีที่ขอ นั้นก็หมายความว่า ถ้ายื่นคำขอ ๑ – ๑๕ พ.ค. ๕๕ ก็จะต้องส่งผลงานวิชาการภายใน ๑ – ๑๕ พ.ค. ๕๖ จะส่งก่อน กำหนดก็ได้ แต่ไม่อนุญาตให้ส่งหลัง ๑๕ พ.ค. ๕๖ นี่แสดงให้เห็นว่าผู้ขอเลื่อนวิทยฐานะ มีเวลาทำผลงาน มีเวลาตรวจทานแก้ไข มีเวลาปรับปรุงผลงานทางวิชาการให้ดี ให้พร้อมส่งได้เป็นเวลา ๑ ปี หรือบางคนอาจจะเตรียมไว้ก่อนแล้วที่จะยื่นคำขออีก แต่ทำไม หลายต่อหลายคน จึงยังมาส่งช้า มาส่งสาย มาส่งไม่ตรงตามกำหนดกันอีกนะ...
แต่ถึงอย่างไร ในจำนวนของผู้ยื่นคำขอเลื่อนวิทยฐานะในแต่ละรอบแต่ละครั้ง ส่วนใหญ่มาก ๆ ก็จะส่งกันภายในกำหนดระยะเวลา ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีความมุ่งมัน ตั้งใจ และมีระเบียบวินับต่อตนเอง เคารพกฎ ระเบียบ วินัยและข้อตกลงที่กำหนด ขอชื่นชมอย่างจริงใจและเป็นกำลังใจให้บุคคลเหล่านั้นได้รับโอกาสดี ๆ ในการประเมินผลงานทางวิชาการต่อไป
ความเห็น (7)
คล้ายเด็กนักเรียนเหมือนกันนะครับ ;)...
ใช่ครับ อ.Wasawat ครับ บางครั้งในสายตาผม ยิ่งกว่าซะอีกครับ
เหนื่อยไหมคะ มาให้กำลังใจ สู้ สู้
มีข้ออ้างตลอดเลยนะครับ
ถ้ามีการเตรียมการดีๆก็ส่งทันครับ
ขอบคุณครับคุณ tuknarak
อ.ขจิต ครับคนที่รับผิดชอบ ก็จะไม่มีปัญหาครับ และจะเป็นพิมพ์ที่ดีด้วย แต่ถ้าไม่แล้วก็ปัญหาตลอดครับ
คริ คริ เห็นด้วยค่ะ แต่กรณีนี้ไม่รวมครูอิง เพราะครูส่งก่อนกำหนดหลายวัน ไม่ว่าจะเป็นรอบแรก หรือ รอบปรับปรุง จนเจ้าหน้าที่บนเขตบอกว่า ส่งเร็วไปหรือเปล่า เอากลับไปทบทวนก่อนมั้ย 55555+ ที่เป็นเช่นนี้เพราะทุกอย่างเราทำด้วยตัวเราเอง มีเรื่องโจ๊กเหมือนกันนะคะ
ตอนเช้าวันที่จะส่งผลงาน หลายคน ไปออกันอยู่ที่ร้านถ่ายเอกสาร(ทำรูปเล่ม) เต็มไปหมด จนเจ้าของร้านต้องใส่กุญแจร้านไว้ข้างนอก แล้วทำงานอยู่ข้างใน บางทีก็น่าเห็นใจเจ้าหน้าที่ ที่รับส่งงานมาก ๆ เสียภาพพจน์คุณครูหมดเล้ย เห้อ.........
ฉะนั้นเราควรทำอะไรให้เสร็จๆไป โดยไม่ต้องรอให้ใกล้ถึงวันสุดท้ายนะคะ