เรื่องของแมว เรื่องของหมา


การเลี้ยงสุนัขและแมว
ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

สุนัขและแมวที่ท่านเลี้ยงไว้นั้น ท่านคุยกับมันรู้เรื่องทุกตัว ดังนั้นการดูแลทุกข์สุขและอาหารการกินจึงสมบูรณ์ พอหน้าหนาวหลวงพ่อจะให้พระก่อไฟเป็นกองๆตามลานซีเมนต์ เพื่อให้สุนัขได้ผิงไฟแก้หนาวเสมอมา

ครั้งหนึ่งหลวงพ่อลงมาสอนกรรมฐานที่กรุงเทพฯ พอกลับไปถึงกุฏิที่วัด คุณเอี่ยมคนเลี้ยงแมวก็มารายงานว่า "พอหลวงพ่อไปกรุงเทพฯ แมวก็ไม่กินข้าว"

หลวงพ่อก็ย้อนทันที่ว่า "แกเรียกมันว่าอีใช่ไหมล่ะ"
คุณเอี่ยมถามว่า "หลวงพ่อรู้ได้ไง"
ท่านตอบว่า "ก็มันฟ้องข้าอยู่นี่ไง"

กลางปี ๒๕๒๖ คุณฉวีวรรณ สรรพกิจ ได้ถวายสุนัขพันธ์ไทยหลังอานเพศเมีย ๑ ตัวและพันธ์ไทยธรรมดา ๑ ตัว ตัวผู้มาจากโคราช หลวงพ่อตั้งชื่อว่า "นิล" เพราะเธอมีสีดำตลอดตัว อกขาวเล็กน้อย เพศเมียตัวเล็ก เป็นลูกสุนัข ขณะที่ถวายไปมีหลังอาน สีน้ำตาล เรียกว่า หลังอานไวโอลิน เธอมาจากจังหวัดตราด หลวงพ่อตั้งชื่อว่า "นาก"

โดยปกติหลวงพ่อท่านก็เลี้ยงสุนัขและแมวเป็นประจำอยู่แล้วหลายสิบตัว ทุกกุฏิที่ท่านอยู่จะต้องมีสัตว์ ๒ ประเภทนี้ประจำการเสมอ เท่าที่สำคัญก็มี สิงห์ดอก โคล่า เจ้าอ้วน เจ้าดม ฯลฯ รวมทั้งสุนัขเดินหลงทาง สุนัขจรจัด ขาดที่พึ่งก็มีมาก คนไปปล่อยวัดก็มีมาก พระในวัดท่าซุงเกือบทุกองค์มีสุนัขอาศัยอยู่ด้วยทั้งสิ้น

หลวงพ่อเลี้ยงเธออย่างอิสระไม่ขังกรง แต่มีอาณาเขตกว้างขวางในรั้วรอบขอบชิด ไม่ปนกับสุนัขภายนอก สุนัขทั้งคู่นี้เธอแสนรู้มาก หลวงพ่อพูดภาษาไทยกับเธอ เธอรู้เรื่องทุกคำ และปฏิบัติตามตลอดไม่เคยลืม คนเราเสียอีกยังมีลืมบ้าง แต่สุนัขไม่ลืม

จาก ๒ ชีวิต ขยายพันธุ์กันในพวกเดียวกันนี่แหละ มิได้ปนกับสุนัขภายนอกเลย เวลานี้ถ้าไม่ตายเสียบ้างก็นับไม่ถ้วน เอาเฉพาะที่ยังอยู่ก็เกือบ ๓๐๐ ชีวิต ปี ๒๕๓๒ หลวงพ่อย้ายที่พักจากตึกกลางน้ำไปอยู่ข้างวิหารแก้ว ๑๐๐ เมตร และอยู่ที่นี่จนวาระสุดท้ายของชีวิตท่าน

หลวงพ่อท่านบอกเสมอทุกครั้งที่สุนัขคลอดลูกออกมาใหม่ ท่านตั้งชื่อให้แล้วบอกว่าตัวนี้เป็นใคร มาจากไหน เดิมชื่ออะไร ตายเพราะอะไร ลงมาเกิดเป็นสุนัขของหลวงพ่อเพราะอะไร และวันไหนที่สุนัขตาย หลวงพ่อจะบอกว่า เธอไปอยู่ที่ไหน มารายงานตัวแล้ว ก่อนตายเธอคิดอย่างไร

ผลสรุปก็คือ สุนัขทุกตัว เธอมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ๙๐ เปอร์เซนต์ นอกนั้นก็มาจากพรหม และจาตุมหาราช ไม่มีมาจากอบายภูมิเลย

ยามเย็นหลวงพ่อกลับจากทำงาน ลงจากตึกรับแขกกลับที่พัก หลวงพ่อจะลงนั่งกับพื้นปล่อยให้สุนัขเล็ก-ใหญ่ ทั้งหลายรุมเล่นท่าน งับแขน เลียมือ ดึงสายรัดเอว งับนิ้ว ดึงกุญแจ ดึงอังสะตามแต่เธอจะทำด้วยความคิดถึง แล้วหลวงพ่อก็ไปเยี่ยมสุนัขแม่ลูกอ่อนทีละห้องจนครบทุกแม่ บางแม่ก็มาตามหลวงพ่อเพราะยังไม่ถึงห้องเขา ก็มาคอยรับหลวงพ่อแล้วพาไปดูลูกเขา หลวงพ่อจะเข้าไปในห้องเขา จัดที่นอนปูให้เรียบร้อย จับลูกเขามานอนตักท่าน สุนัขทุกตัวผ่านการนอนตักหลวงพ่อทั้งนั้น หลวงพ่อท่านทำประดุจเป็นพ่อบังเกิดเกล้าของเธอทุกตัว ดังนั้นสุนัขทุกตัวจึงรักหลวงพ่อ แม้เพียงได้ยินเสียงหลวงพ่อ เขาก็เห่าหอนต้อนรับเกรียวกราว หลวงพ่อบอกว่า ให้หมาติดผ้าเหลืองไว้ ตายแล้วไปสวรรค์ทุกตัว

ยามค่ำคืนเมื่อเกิดฝนตก ฟ้าร้องน่ากลัว สุนัขกลัวเสียงฟ้าร้องมาก เขาจะพากันวิ่งไปรอบหน้ากุฏิหลวงพ่อ ฝ่าฝนเปียกปอนไปให้ถึงหลวงพ่อ แล้วหลวงพ่อก็ออกมานั่งกับพื้นเป็นเพื่อนปลอบใจเขามิให้กลัว จนกว่าฝนฟ้าคะนองจะหมดไป...

ตอนหนึ่งจากหนังสือ "ประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน"


หมายเลขบันทึก: 535409เขียนเมื่อ 10 พฤษภาคม 2013 10:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 พฤษภาคม 2013 10:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

รักและเมตตาเป็น..ธรรมะค้ำจุน โลก...สาธุๆ...ยายธี

ความรักสื่อได้ด้วยการกระทำ ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ย่อมสัมผัสได้

ความรักสื่อได้ด้วยการกระทำ ทั้งคน-สัตว์สามารถสัมผัสได้

 

...Bronco เป็นหมาตัวแรกที่เลี้ยง ...ตายไปเกือบปีแล้ว...แต่ยังคิดถึงอยู่เสมอ...


                         

แมวบ้านยุ้ย ชื่อ "นังสำรวย"  เพราะบุคลิก และแววตาของมันหยิ่งมากเลยค่ะ    เวลาเรียกทำ....เป็นไม่สนใจเรา  แต่ทุกๆวัน พอเช้าตื่นขึ้นมามัน จะวิ่งมานั่งรอที่ถาดอาหาร แล้วทำท่า่หยิ่งๆ แล้วร้องเหมียวๆ  บอกว่า "จัดอาหารมาให้ฉันได้แล้ว"    กวนทีนมากเลย    

ทุกๆ วัน  ยุ้ยจะเอามันมากอดแล้วก็เอามานอนที่ตักเสมอๆ   วันก่อนมันคิดอะไรไม่รู้ อยู่ๆ  มันก็กัดยุ้ย เป็นแผลใหญ่มาก  ยุ้ยเลยแตะมันซะกระเด็นติดผนังเลย  ตื่นเช้ามาทำเป็นมาคลอเคลีย  เอาอกเอาใจ ทำเป็นง้อ ขอคืนดีกับยุ้ย  

ต่อมาอีกสองสามวันก็เกิดเพี้ยนมาอีก  ทั้งกัด...ทั้งข่วน เอาภาพมาลงใน facebook   ยุ้ยเลยต้องเสียเงินไปโรงพยาบาลฉีดยากันพิษสุนัข (แมว) บ้า ไปสามเข็มแล้ว  อาทิตย์หน้าหมอนัดอีกหนึ่งเข็ม ซึ่งเป็นเข็มสุดท้ายแล้ว...ค่ะ

ค่ายา ค่ารักษาฟรี..ค่ะ  แต่ค่ารถจากชายแดนมาโรงพยาบาล เสียครั้งละ 400.- แ่ละเสียเวลาทำสวนด้วย

ไม่รู้จะรัก หรือจะเกลียดมันดี นี่ว่าจะเอามันไปปล่อยวัดแล้ว  ให้มันไปฟังพระเทศน์ซะบ้าง เผื่อจิตใจจะได้สงบ...รู้จักบุญคุณคนเลี้ยง....กันบ้าง   

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท