@ ก่อนอื่น.. ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้สามารถทำงานกับผู้อื่นได้ก่อนนะคะ
เคยเจอ.. พี่ที่ทำงานด้วย.. ทำงานเก่งมาก ผลงานเป็นที่ชื่นชอบ รวดเร็ว มีคุณภาพ ได้รับคำชมเป็นประจำ ได้รับรางวัลก็บ่อย kunrapee รู้สึกชื่นชมพี่เค้ามาก แต่เมื่อต้องทำงานด้วยกัน.. พี่คนนี้กลับกลายเป็นคนที่ไม่น่าทำงานด้วยเลย หลายคนบ่นแปลกจริง.. ไม่แปลกหรอกค่ะ ก็พี่เค้าไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของใคร เอาแต่ใจตัวเอง ใจร้อน (เพียงแค่นี้ ก็ถือว่ามากเกินไปแล้วสำหรับการทำงานเป็นทีม) ส่งผลให้คนทำงานด้วยไม่มีความสุข หลายคนไม่อยากเสนออะไร.. กลายเป็นทำงานคนเดียวท่ามกลางชื่อกลุ่ม
@ ต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจบุคคลอื่นๆในทีม ทั้งด้านความต้องการ ความคาดหวัง ความชอบ ความไม่ชอบ ความรู้-ความสามารถ ความสนใจ ความถนัด จุดเด่น-จุดด้อย อารมณ์ รวมถึงนิสัยใจคอด้วย
เคยเจอ.. คนในทีมมีความหลากหลาย ส่งผลให้การทำงานล่าช้า
ไม่ได้ประเด็น ทุกคนไม่ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น (
ทำให้ยากต่อการทำงาน) ฉะนั้นการมอบหมายงานที่ต้องทำเป้นทีม ต้องเลือกทีมงานให้เหมาะสมค่ะ
@ สมาชิกในทีมต้องทำความเข้าใจจุดประสงค์ (Purpose) และผลลัพท์ (Performance) ให้ชัดเจน
เคยเจอ.. บางคนในทีมไม่รู้ด้วยซ้ำว่างานชิ้นนั้นๆคืออะไร ต้องการอะไร เพื่ออะไร (เฮ้ออออ)
@ ร่วมด้วยช่วยกันออกความคิด เสนอความเห็นของตนเอง
- ควรแสดงความเห็นอย่างเปิดเผย แจ้งข้อโต้แย้งประเด็นที่ตนเองไม่เห็นด้วยในทางสร้างสรรค์ มีเหตุผล
ตรงไปตรงมา
- ไม่ควรพูดในลักษณะที่แสดงตนเหนือกว่า
ผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด เสียหน้า อับอาย เจ็บใจ
ไม่โจมตีว่าใครผิดใครถูก
- ลดอัตตา (Ego) ของตนเอง
@ ยอมรับข้อตกลงของทีม (ผลสรุปของทีม ถือว่าสิ้นสุด)
ถ้ายังไม่เข้าใจ ไม่เครียร์ ต้องสอบถามให้เข้าใจตรงกัน ยอมรับในเหตุและผล
@ ไม่พูดนอกรอบ ในประเด็นที่ไม่ตรงกับความเห็นของตน
เคยเจอ.. บางคนชอบออกมาพูดนอกกลุ่มว่า ไม่เห็นด้วย ไม่ชอบอย่างนั้น-อย่างนี้ จะคอยดูว่าทำแล้วจะได้ผลหรือไม่.. เฮ้อ.. แบบนี้ก็มีด้วย
จากประสบการณ์ตรงค่ะ
ทำงานเป็นทีมต้องใจกว้างด้วยค่ะ คิดบวก มองบวก ประชาธิปไตยมาอันดับหนึ่งยอมรับข้อตกลงร่วม
ขอบคุณมากครับบันทึกสั้นหลายข้อปรับใช้ในชีวิตได้จริงๆ บางครั้งผมก็เคยเผลอไปโต้กลับความคิดที่คิดว่าไม่ใช่ แต่เมื่อเป็นมติกลุ่มก็อาจลองก่อน และหลายๆขอทีเดียวที่ทำให้ผมได้ความคิดดีๆครับ
ขอบคุณค่ะ tuktun บางคนชอบทำเองทันที ไม่ชอบรอฟังความเห็นของผู้อื่น
คุณลูกหมูเต้นระบำ เป็นธรรมดาค่ะ คงต้องฝึกกันต่อไป
ใช่ว่า kunrapee จะสามารถทำได้นะคะ บางเรื่องเราไม่มีความรู้เลย ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยทีมงานได้อย่างไร ฉะนั้นการเลือกคนมาทำงานเป็นทีม ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน จริงไหมคะ
การทำงานเป็นทีมที่ไม่ประสบความสำเร็จก็อยู่ที่ข้อ 1 นี่แหละจ้ะ
" ต้องปรับเปลี่ยนตัวเองให้สามารถทำงานกับผู้อื่นได้ก่อน "
ข้อนี้ยากที่สุดค่ะคุณมะเดื่อ
และถ้างานชิ้นนั้นๆต้องใช้เวลานาน.. เราจะยิ่งควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้
ต้องใช้ความอดทนสูง kunrapee หลุดบ่อยเหมือนกัน
ตามมาเชียร์การทำงานครับ
เห็นด้วยครับ
บางคนเก่งแต่อีโก้สูงมากๆ
ขอบคุณค่ะอ.ขจิต
ถ้า Ego สูงเกินไปก็คงต้องทำงานคนเดียวแล้วหละค่ะ เข้ากับผู้อื่นยากส์ (เติมเอสซะเลย)
เป๊ะมากคุณพี่ เห็นด้วยทุกประการ
ปัญหาการทำงานเป็นทีม ตามที่ kunrapee พูดถึง ดูจะพบได้ทั่วไปในสังคมไทยนะคะ
จึงมีคำกล่าวที่ว่า สู้กับต่างชาติตัวต่อตัว คนไทยสู้ได้สบายมาก แต่ให้สู้เป็นคู่ คนไทยมีโอกาสทำได้แค่เสมอ และถ้าให้สู้แบบทีม 3 คนขึ้นไป คนไทยมีแต่ประตูแพ้ เพราะลักษณะการทำงานของคนไทย มักจะเป็น "การประสานงา" มากกว่า "การประสานงาน"
มาเชียร์ด้วยคนค่ะ
ที่ทำงานบางคนเอาแต่ความคิดตัวเองเป็นใหญ่ ร่วมงานด้วยน่าเบื่อค่ะ ถ้าไม่เห็นด้วยมีโกรธกันอีกต่างหาก แล้วมันจะเป็นทีมได้งัยนะค่ะ ไม่ฟังความเห็นใครเลย ตรงกับข้อหนึ่งเป๊ะเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะน้องชลัญที่เห็นด้วยทุกประการ อิอิ
หมือนกับกีฬาที่เราส่งแข่งใช่ไหมคะคุณไอดิน-กลิ่นไม้ ส่วนใหญ่รางวัลระดับโลกที่เราได้รับคือรางวัลเดี่ยวทั้งนั้น เช่นชกมวย แบตมินตั้น ว่ายน้ำ เป็นต้น
ขอบคุณสำหรับแรงเชียร์ค่ะคุณ tuknarak
หลายคนมองว่าข้อ ๑ สำคัญที่สุด ยากที่สุดค่ะคุณกอหญ้า