เขาเก็บเงินกันอย่างไรได้เป็นล้าน

  ในชีวิตของเรามีโครงการสำคัญ ๆ มากมายที่เราวางแผนไว้ว่าจะทำและเราคงทำไม่สำเร็จถ้าเราไม่ลงมือทำเสียที การมีเงินสักก้อน เป็นล้าน รู้สึกตกใจ จำนวนเงินมากเราจะเก็บได้หรือในชีวิตนี้ และเงินเป็นสิ่งสำคัญมากในโครงการนี้ จริงอยู่เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต แต่เราก็ต้องยอมรับว่าการมีเงินเก็บไม่ใช่เรื่องเลวร้ายแน่ ๆ ในทางตรงกันข้ามเราไม่สามารถทำสิ่งที่มุ่งหวังให้สำเร็จได้โดยง่ายถ้ายังขาดความรู้สึก มั่นคงปลอดภัยในฐานะการเงินของเราเอง
  การมีเงินล้านไม่ใช่เรื่องไกลเกินคิดอีกแล้วในปีปัจจุบัน เศรษฐีเงินล้านเดินปะปนอยู่กับเราทุกเมื่อเชื่อวัน บางคนอาจใช้เวลาสร้างเงินล้านได้รวดเร็ว ถือว่าเป็นความสำเร็จของคน ๆ นั้น แต่บางคนใช้เวลานานนับสิบปีหรือตลอดชีวิตก็เก็บไม่ได้ ด้วยเหตุนี้หลายคนเริ่มรู้สึกว่า ชีวิตเริ่มซ้ำซาก ไม่มีความหมาย ไม่มีแรงบันดาลใจและผลสุดท้ายก็อยู่และประคองชีวิตไปวันต่อวัน ไม่มีการวางแผนในการออม  ดังนั้นควรมี กฎทอง (Pay Yourself First) ของการบริหารเงินส่วนบุคคลคือวีเดียวที่ได้ผลสำหรับคนที่ควบคุมการใช้จ่ายไม่ได้มีดังนี้
1.    จ่ายตัวเองก่อน คือเก็บก่อนแล้วใช้ที่เหลือหรือเหลือเท่าไหร่ค่อยวางแผนใช้
2.   ทำให้เป็นอัตโนมัติ คือ อย่าทำให้การเก็บเงินเป็นเรื่องยุ่งยาก จงใช้วิธีง่ายที่สุดออมเงินอย่างสม่ำเสมอ
3.   10% เป็นอย่างน้อย คือ ไม่ว่ารายได้ของเราจะเป็นเท่าไหร่ จงเก็บเงินไว้อย่างน้อย 10% เพื่อการออมเสมอ สักวันหนึ่งเราอาจกราบตัวเองที่ใจแข็งพอมีเงินเป็นล้านโดยไม่รู้ตัว
4.   เก็บเงินอย่างนักลงทุน เลือกวีที่ง่าย ความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง มีผลตอบแทนคุ้มใช้เงินต่อเงิน
  การเก็บเงินให้ได้เป็นล้าน ไม่ได้ไกลเกินขวัญ แต่สิ่งที่สำคัญ คือ หมั่นออมเงินเพิ่ม หรือลงเพิ่มเป็นประจำสม่ำเสมอทุก ๆ เดือน การลงทุนเพื่อให้ได้เงินล้านที่ดีที่สุดคือ การลงทุนสร้างความรู้ เมื่อมีความรู้นำไปประกอบอาชีพมีรายได้  ทำให้มีเงินออม เพิ่มเงินเรื่อย ๆ ตลอดชีวิตทั้งหมดนี้คือแผนชีวิตของเรา ทุกอักษรคือคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง ทุกตัวเลขที่เพิ่มขึ้นในบัญชีเงินฝาก คือผลงานของเรา

ที่มา  ชื่อหนังสือเขาเก็บเงินกันอย่างไรได้เป็นล้าน
ผู้แต่งชื่อ  อมิตา  อริยอัชฌา   
อาจารย์อุไรวรรณ  รอดทองแก้ว สาขางานการบัญชี