ความอัศจรรย์ ที่เขาหินซ้อน
".......ประวัติมีว่าตอนแรกมีที่ดิน 264 ไร่ ที่ผู้ใหญ่บ้านให้เพื่อสร้างตำหนักในปี 2522 ที่เชิงเขาหินซ้อนใกล้วัดเขาหินซ้อน ตอนแรกก็ต้องค้นคว้าว่าที่ตรงนั้นคือตรงไหน ก็พยายามสืบถาม ก็ได้พบบนแผนที่พอดีอยู่มุมบนของระวางของแผนที่ จึงต้องต่อแผนที่ 4 ระวาง สำหรับให้ได้ทราบว่าสถานที่ตรงนั้น อยู่ตรงไหน ก็เลยถามผู้ที่ให้ที่นั้นนะ ถ้าหากไม่ให้สร้างตำหนัก แต่ว่าสร้างเป็นสถานที่ที่จะศึกษาเกี่ยวกับเกษตรจะเอาไหม เขาก็บอกยินดีก็เลยเริ่ม ทำในที่นั้น......."
".......ตอนศึกษาดูพื้นที่นั้น พัฒนายากมากเพราะว่ามีแต่หิน แล้วเขาก็ปลูกมันสำปะหลัง ก็เลยนึก ว่าอาจจะสาธิตการปลูกมันสำปะหลัง มันสำปะหลังนั้นแม้จะไม่มีน้ำ ก็ยังพอปลูกได้โดยง่าย แต่ที่นี่เขาปลูกมันสำปะหลังไม่ขึ้น หมายความว่าอะไร ปุ๋ยไม่มี น้ำไม่มี มีแต่ทราย ก็เลยว่าจะต้องพัฒนาที่นี่ให้เป็นที่ที่สามารถปลูกแม้แต่มันสำปะหลังอย่างนี้ การปลูกมันสำปะหลังก็ต้องรู้การสร้างดิน ไม่ใช่ทราย มีแต่ทราย การสร้างน้ำ เพื่อที่จะมีความชุ่มชื้นหน่อย มันสำปะหลังนี้เขาเข้มแข็งมาก ไม่ต้องน้ำเท่าไร แต่ที่นั่นมันไม่ขึ้น ก็ถามกำนันคนที่ให้ที่ เขายอมรับว่าเขาให้เพราะเขาทำไม่ได้ มหัศจรรย์ แต่เขาก็ยินดีถวาย แล้วก็ 264 ไร่ ก็เห็นว่า น้อยเกินไป ก็เลยบอกว่าที่ตรงนั้นขอซื้อเพิ่มเติมหน่อยได้ไหม เขาก็ขาย ขายตรงนั้น เขาเตรียมปลูกมันสำปะหลังแล้ว แต่ว่าเขาไม่ได้ปลูก......."
จากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พระหลวงของแผ่นดินไทย ที่ทรงพระราชทานแก่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดิ ทำให้ดิฉันเกิดความประทับใจอย่างยิ่งที่มีโอกาสได้ไปศึกษาดูงานของพ่อหลวง ที่ศูนย์ศึกษาการพัฒนาเขาหินซ้อน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทำให้ดิฉันพบกับความน่าอัศจรรย์ใจ ที่น่าเหลือเชื่อ คงไม่มีใครคาดคิดว่าจากพื้นที่เสื่อมโทรม มีแต่หิน เป็นดินทราย ไม่มีน้ำ ไม่มีปุ๋ย แม้กระทั่งมันสำปะหลังยังปลูกไม่ขึ้น แต่บัดนี้กลับกลายเป็นพื้นที่ที่ทรงคุณประโยชน์ ทรงคุณค่าอย่างหาที่สิ้นสุดมิได้ เต็มไปด้วยป่าไม้ ต้นไม้ แหล่งน้ำ ธรรมชาติที่งดงาม อุดมไปด้วยพืชพรรณไม้นานาชนิด มีทั้งสวนรุกขชาติ สวนพฤกษศาสตร์ งานประมง งานปศุสัตว์ งานเกษตร.....ทั้งยังมีศูนย์ให้ผู้ที่ต้องการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงไปศึกษาดูงาน ศูนย์ที่ฝึกอบรมอาชีพให้แก่ผู้ที่สนใจจะประกอบอาชีพแบบพอเพียง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังมีค่าอบรม ค่ารถ อาหารกลางวันให้ฟรี มีพรรณไม้แจกให้กับผู้ที่สนใจ ดิฉันเชื่อค่ะว่าในโลกนี้คงจะไม่มีใครที่จะเสียสละให้ประชาชนชาวไทยอย่างเราได้เท่านี้อีกแล้ว ซึ่งตลอดเวลาที่พระองค์ทรงครองราชย์ พระองค์ทรงเสียสละเวลาส่วนพระองค์ ทรงทุ่มเทพระวรกาย เพื่อช่วยเหลือเพื่อแก้ปัญหา ปัดเป่าทุกข์บำรุงสุขให้พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ไม่มีที่แห่งใดที่พระองค์ไม่เคยเสด็จไป สถานที่แห่งนี้ก็เช่นกันที่พระองค์ทรงช่วยเหลือ สำหรับดิฉันแล้วพระองค์ทรงเปรียบเสมือนเทวดาจากฟากฟ้าที่พระราชทานสายฝนทิพย์ ที่โปรยปรายมาพลิกฟื้นผืนแผ่นดินที่แห้งแล้งเสื่อมโทรม ให้กลายเป็นผืนดินที่ทรงประโยชน์ ด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์ สำหรับผู้ที่ได้มีโอกาสอ่านบันทึกเรื่องนี้ ดิฉันอยากให้ท่านได้ลองไปศึกษาดูงานที่นั่นสักครั้ง แล้วท่านจะได้พบกับความน่าอัศจรรย์ใจอย่างที่ดิฉันได้พบ รับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน.....
หากสนใจลองเข้าไปศึกษาที่เว็บไซต์ก่อนได้นะคะที่ http://khaohinsorn.com
ความเห็น (2)
สุดยอด โครงการพลิกทรายให้เป็นทรัพย์เลยค่ะ
น่าแวะเข้าเยี่ยมเยียนจังค่ะ เขาหินซ้อน