เรื่องเก่ามาเกือบหกปี กลับมาเป็นข่าวใหม่ (ปราสาทพระวิหารไทย) สำหรับท่านที่ยังไม่ได้อ่่าน
วันนี้ (26 มี.ค.) ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกา ได้ลงมติเลือกองค์คณะผู้พิพากษาจำนวน 9 คน เพื่อพิจารณาคดีหมายเลขดำ อม.3/2556 ที่ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายนพดล ปัทมะ อดีต รมว.ต่างประเทศ และที่ปรึกษากฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ใดผู้หนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ถูกใจอ่่านต่อได้ที่นี่ครับ
http://www.dailynews.co.th/crime/193191
"จะใหญ่แค่ไหน ผิดได้ ติดคุกได้ ถ้าไม่หนี"
ความเห็น (4)
ในชีวิตมีหลายสิ่ง ที่เราไม่รู้ เข้าใจ เข้าไม่ถึงได้ ตัดสินความถูกผิดไม่ได้ เราจึงต้องพึ่งศาล ฟังศาล ระบบศาลต้องเชื่อว่าถูกต้องเสมอ แม้จะมีผิดมีแพะให้เห็นอยู่บ้่าง แต่ผมขอเชื่อไว้ก่อน เพราะคิิดว่าเป็นที่พึงสุดท้ายของความถูกต้องและเป็นธรรม
ศาลยุติธรรมตามหลักการและหลักฐาน ค่ะ ถ้าคนผิดสร้างหลักฐานให้เชื่อว่าถูกได้
อาศัยช่องโหว่ของกฎหมาย ศาลก็ว่าไปตามนั้น ดั้งนั้น ศาลยุติธรรมเสมอ
แต่คนที่ไม่มีธรรม ในหัวใจต่างหากที่ทำให้ความยุติธรรมหายไป
One who acts righteously shall live a happy life.
(ถ้าให้ผมแปล)
ขอบคุณทั้งสองท่านที่เข้ามาแจม ขอแปลอังกฤษกลับมาเป็นไทยอีกที "รอดคุกกายก็ใช่จะไม่ทุกข์เพราะความสุขคือความถูกต้องใด ๆ ในการกระทำ"