อยากรู้_เทคนิควิธีที่ทำให้ท่านเป็นผู้ที่รักการเรียนรู้ตลอดเวลา
คำพูดข้างบนเป็นของลูกชายค่ะ
แม่เคยถามลูกว่า ทำอย่างไรเราถึงจะรู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษ รู้โน่น รู้นี่ รู้นั่น
ลูกตอบแม่สั้น ๆ ว่า
"ถ้าแม่อยากรู้ ก็จะหาวิธีเรียนรู้มันเองแหละ"
ซึ่งแม่มาคิด ๆ ดูว่า นั่นคือ
เราต้องมี
ฉันทะ อยากรู้ มีความพอใจ สนใจใคร่รู้แล้วจึงจะเกิดข้ออื่น ๆ ตามมา
วิริยะ ความเพียร
จิตตะ ความเอาใจใส่จดจ่อ
วิมังสา ความหมั่นสอดส่อง ทบทวนในเหตุผลของสิ่งนั้น ๆ
ซึ่งตรงกับหัวข้อธรรม อิทธิบาทสี่ ของพระพุทธองค์นั่นเอง
คำว่า อิทธิบาท แปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ หมายถึง สิ่งซึ่งมีคุณธรรม เครื่องให้ลุถึงความสำเร็จตามที่ตนประสงค์ ผู้หวังความสำเร็จในสิ่งใด ต้องทำตนให้สมบูรณ์ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า อิทธิบาท ซึ่งจำแนกไว้เป็น ๔ คือ ธรรม ๔ อย่างนี้ ย่อมเนื่องกัน แต่ละอย่างๆ มีหน้าที่เฉพาะของตน ฉันทะ คือความพอใจ ในฐานะเป็นสิ่งที่ ตนถือว่า ดีที่สุด ที่มนุษย์เรา ควรจะได้ ข้อนี้ เป็นกำลังใจ อันแรก ที่ทำให้เกิด คุณธรรม ข้อต่อไป ทุกข้อ วิริยะ คือความพากเพียร หมายถึง การการะทำที่ติดต่อ ไม่ขาดตอน เป็นระยะยาว จนประสบ ความสำเร็จ คำนี้ มีความหมายของ ความกล้าหาญ เจืออยู่ด้วย ส่วนหนึ่ง จิตตะ หมายถึงความไม่ทอดทิ้ง สิ่งนั้น ไปจากความรู้สึก ของตัว ทำสิ่งซึ่งเป็น วัตถุประสงค์ นั้นให้เด่นชัด อยู่ในใจเสมอ คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า สมาธิ อยู่ด้วยอย่างเต็มที่ วิมังสา หมายถึงความสอดส่องใน เหตุและผล แห่งความสำเร็จ เกี่ยวกับเรื่องนั้นๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดเวลา คำนี้ รวมความหมาย ของคำว่า ปัญญา ไว้อย่างเต็มที่
อิทธิบาท 4
จริงหรือเปล่าคะ เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย ยินดีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ภูสุภา
๑๕ เมษายน ๒๕๕๖
..... เรียนรู้จากการปฏิบัติ ...... ดีจังเลยค่ะ ขอบคุณบทความดีดีนี้ค่ะ
ดีจังครับอาจารย์ น่าปลื้มใจแทนอาจารย์เพราะ "ถ้าแม่อยากรู้ ก็จะหาวิธีเรียนรู้มันเองแหละ" การเรียนรู้ของคนมีหลายวิธี และหลายรูปแบบจริงๆ ขอบคุณมากครับอาจารย์ที่แบ่งปัน
ทุกวันนี้ หนูมีอิทธิบาท 4 อยู่ตลอดเวลา...ค่ะ
แต่อาจ่จะมี อีกบาท หรือ 2 บาท จากพระอรหันต์ของหนูด้วย....555
เห็นด้วยกับพี่เปิ้ล ค่ะ
และลูกพูดง่าย ๆ มาคิดดูก็จริงนะคะ ถ้าเรารักจะรู้เราก็จะหาทางเรียนรู้เองนะคะ