ไปมาเก๊า ไปเข้าบ่อนเหรอ............เจอคำถามนี้ เล่นเอาผู้เขียน "หงายเงิบ" เลย ทำให้รู้ว่า หลาย ๆ ท่านไม่ทราบว่ามาเก๊าเป็นเมืองมรดกโลกแหล่งหนึ่งที่มีอะไรน่าดู น่าศึกษามากกว่าบ่อนคาสิโน ซึ่งองค์การยูเนสโกได้กำหนดให้เมืองมาเก๊าเป็นมรดกโลก ที่ถูกค้นพบครั้งแรกโดย นายพันเอก ลีโอเนบ เดอ โซซ่า ทหารเรือชาวโปรตุเกส ที่อาสามาปราบโจรสลัดในเกาะมาเก๊า โดยทำสัญญาตกลงกับเจ้าเมืองกวางตุ้ง เมื่อทำได้สำเร็จทางการจีนจึงอนุญาตให้ชาวโปรตุเกสเข้ามาตั้งรกรากและทำการค้าขายในเก๊าะนี้ ทำให้เกาะมาเก๊ามีมนต์เสน่ห์ที่เป็นโปรตุเกสและจีนผสมกันอย่างลงตัว
ต่อมาปี ค.ศ.1999 โปรตุเกสได้ทำสัญญาตกลงคืนเกาะมาเก๊าให้กับจีน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ.1999 ทำให้มาเก๊าเป็นเขตปกครองพิเศษของจีน แต่ทางการจีนก็ปล่อยให้มาเก๊าบริหารปกครองตนเองแบบเมืองสองระบบได้อย่างลงตัว เอาประวัติศาสตร์มาเก๊ามาเล่าแบบย่อ ๆ ให้ฟังพอเรียกน้ำย่อยน่ะค่ะ จะได้เข้าใจตรงกันว่าทำไมผู้เขียนถึงได้หลงไหลและใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวมาเก๊ามาก โดยเฉพาะการเที่ยวแบบ แบกเป้ กางแผนที่ หาที่พักเอง ตามผู้เขียนมาเลยน่ะค่ะ จะพาเที่ยวมาเก๊าแบบลุย ๆ กับซอกแซกทัวร์ค่ะ
บินจากกรุงเทพใช้เวลาสองชั่วโมงเศษ ๆ ก็ถึงสนามบินมาเก๊า เวลาประมาณ 10.27 น. ฟ้าลัว ๆ แบบนี้แหล่ะค่ะ อากาศเย็นสบายประมาณ 18C สนามบินเล็กนิดเดียว เครื่องจิ้มหัวลงแล้วจอดจึกเลย เล่นเอาผู้เขียนตื่นเต้นพอสมควรเพราะเคยแต่แตะรันเวย์แล้ววิ่ง ๆ ต่อไปสักพักค่อยจอด นี่เล่นเสียบหัวลงแล้วจอดจึก เพราะสนามบินเล็กและแคบมาก ๆ นี่เอง ต้องขอชมนักบินค่ะเค้าเก่งจริง ๆ สนามบินยื่นออกไปในทะเล เอาขยะมาถมทะเลทำเป็นสนามบินค่ะ
เดินออกจากสนามบิน มาขึ้นรถฟรีของบ่อนคาสิโน ที่นี่เค้าเรียกว่า Suttle Bus แต่บ้านเราเรียก Mini Bus ค่ะ
รีบเข้าบ่อนคาสิโนทันทีค่ะ อ่ะ ๆๆ อย่าพึ่งเข้าใจผิดน่ะค่ะ ผู้เขียนแวะมาฝากกระเป๋าไว้ที่นี่เพราะมี Lobby Bag Free ค่ะ สังเกตพื้นจะเป็นภาพลวงตา ดูแล้วจะมึน ๆ งง ๆ เป็นทางเดินเข้าบ่อนที่สามารถดูดพลังในตัวคุณ ก่อนที่จะเข้าไปละลายทรัพย์ในบ่อน มาเก๊า ขึ้นชื่อในเรื่องฮวงจุ้ยมาก ๆ ค่ะ
เดินออกมาด้านหน้าบ่อนคาสิโนเวเนเซียน คนที่นี่เค้าออกเสียง "เวเนซี่" ติดสำเนียงโปรตุเกสค่ะ ตึกรามบ้านช่องเค้าจะออกสไตล์โปรตุเกสผสมกับจีนได้อย่างลงตัว
มุมไกล ๆ ของเวเนเซียนคาสิโนค่ะ
นั่งรถเมล์ไปเรื่อย ๆ ตามที่ Review ไว้ ลงจุดหมายแรกเสร็จ เริ่มงง ๆๆ จะไปทางไหนต่อดีนี่ เดินขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ
เอาละซิคราวนี้เริ่มงง ๆ แต่กลับเป็นจุดที่สร้างความประทับใจให้กับผู้เขียนเป็นอย่างมาก จุดแรกที่มาถึงแต่ไม่อยู่ในโปรแกรม เพราะหลงทางเป็นชุมชนเก่าแก่ที่ถูกอนุรักษ์ไว้อย่างดี มีคนอาศัยอยู่ในตึกจริง สังเกตที่มีคนเข้าออกตลอดเวลา สวยขนาด Wedding Studio มาถ่ายภาพหลายคู่เชียวค่ะ คิดดูสิค่ะว่ามุมหลงทางนี้จะสวยขนาดไหน บ๊ะเก่งแท้ ๆ เรา ใครจะต่อเติมซ่อมแซมจะต้องขออนุญาตจากทางรัฐบาลก่อน
เดินไปเรื่อย ๆ เริ่มมองหาแผนที่ข้างทาง ปรากฏว่า แผนที่เป็นภาษาโปรตุเกสที่เขียนแบบ De Du Da Lu la etc., ถามคนท้องถิ่นส่วนใหญ่กลับพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ แผนที่ในมือผู้เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ความมันของทริปเริ่มส่งสัญญามาเป็นระยะ ๆๆ เอิ๊กกกกกกกก
มิเตอร์หยอดเหรียญจอดรถค่ะ คันนึงตกราว ๆ เดือนละ สองหมื่นกว่าบาท ใครมีรถก็พอ ๆ กับเลี้ยงลูกไปจนตลอดชีวิตเลยค่ะ ที่นี่การคมนาคมเขาสะดวกรถเมล์ รถไฟ ถึงกันตลอด เรื่องรถยนต์ส่วนตัวกลายเป็นสิ่งไม่จำเป็นไปเลยค่ะ เมืองอุดรธานี น่าจะนำมิเตอร์แบบนี้มาใช้น่ะค่ะ เพราะรถเริ่มเยอะและจอดไม่เป็นระเบียบเลย
ซากประตูเซนต์ปอลที่หลงเหลือจากการถูกเพลิงไหม้เป็นจุดไคล์แม๊กซ์ของทุกคนต้องมาค่ะ และอยู่ในกลุ่มมรดกโลกของมาเก๊าด้วยค่ะ
เดินลงทางลาดชันมาเรื่อย ๆ จะเจอ Senado Square ค่ะ สังเกตพื้นจะเป็นเกลียวคลื่นทะเลทุก ๆ ที่เพราะมาเก๊าเป็นเกาะที่ล้อมรอบด้วยทะเลนั่นเองค่ะ ............แต่ถ้าใครคิดจะมานุ่งบิกินี่อาบแดดแถว ๆ ชาดหาด ขอบอกว่าผิดหวังอย่างแรงค่ะ มาเก๊าไม่มีชาดหาดเลยน่ะค่ะ ไปอาบแถวภูเก๊ต กระบี่ สุราษฎร์ ทะเลอันดามันบ้านเราสวยติดอันดับโลกดีกว่าค่ะ
ที่สารภาพบาปในโบสถ์ เซนต์ เอากุสติน ซึ่งเป็นโบสถ์ในกลุ่มมรดกโลกเช่นกันค่ะ ด้านหนึ่งชาวคริสต์จะมานคุกเข่าส่วนอีกด้านหนึ่งบาทหลวงหรือหลวงพ่อจะนั่งฟังอีกด้านหนึ่งค่ะ
หมูแผ่นที่ขึ้นชื่อของมาเก๊ามีขายตลอดเส้นทาง ชิมฟรีแต่ผู้เขียนว่ารสชาติออกจืด ๆ หวานนิด ๆ สู้หมูแผ่นบ้านเราไม่ได้ มีเค็มนิด ๆ ผสมพริกไทยหน่อย ๆ อร่อยกว่ากันเยอะ ...........แต่งานนี้ผู้เขียนเดินชิมทุกร้านจนอิ่ม ประหยัดไปหนึ่งมื้อค่ะ อิ่มจัง ตังค์อยู่ครบ เอิ๊กกกกกกกกก
ท๊ากไข่ ขนมพื้นเมืองของมาเก๊า อร่อยมากค่ะ ชิ้นหนึ่ง 20 บาท อร่อยจนต้องขอถ่ายรูปกับเจ้เค้าเลยน่ะค่ะ
เชื่อไหมค่ะ..........เมืองนี้แทบจะไม่มีไฟแดงเลย ใครอยากข้ามถนนกดเจ้าปุ่มนี่รอประมาณ 30 วินาทีจะมีรูปคนสีเขียว ๆ ขึ้นพร้อมกับเสียงเร่ง ๆ ให้เรารีบเดินข้ามถนน เป็นอีกจุดที่ประทับใจ รถที่นี่กลัวคนเดินมาก ขับมาเร็วแค่ไหนก็ต้องจอดให้คนข้ามก่อน มาหลายวันไม่ยักกะเห็นอุบัติเหตุเลยค่ะ เพราะกฏหมายที่นี่แรงได้ใจจริง ๆ
ข้ามจาก Senado Square มาเจออาคารรัฐสภา อยู่ในกลุ่มมรดกโลกเช่นกันค่ะ ชั้นล่างเป็นสวนหย่อม ชั้นสองเป็น Libary หรือห้องสมุดประชาชน ส่วนชั้นสามจะเป็นที่ทำการรัฐสภา สส.ทั้งหลายก็จะมาใช้อาคารนี้ประชุมค่ะ ชอบความคิดของเค้าน่ะค่ะ การเมืองเป็นเรื่องที่แตะต้อง สัมผัสได้ เราสามารถนำเด็กนักเรียนตัวเล็ก ๆ มาซึมซับเรื่องการเมืองผ่านเรื่องราวของอาคารได้ เมืองไทยน่าเอาแบบอย่าง กระเบื้องข้างฝาเป็นกระเบื้องโบราณและของแท้ค่ะ ลวดลายสวยงามมาก ทีแรกผู้เขียนไม่รู้น่ะค่ะ คนที่ยืนเฝ้าเค้าเห็นผู้เขียนยืนชื่นชมอยู่นาน เขาจึงเดินเข้ามาอธิบายให้ฟัง ทำเอาผู้เขียนเซอร์ไพรส์สุด ๆ เลยค่ะ
เกี้ยวที่ใช้หามอาม่าเทพเจ้าที่คนมาเก๊านับถือ จาก A-Ma Temple มาไว้อีกวัดหนึ่ง ปัจจุบันเกี๊ยวนี้จัดตั้งแสดง ณ พิพิธภัณฑ์มาเก๊าค่ะ เทศกาลจะจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ของทุก ๆ ปีค่ะ
ขึ้นไปชมวิวที่สูงที่สุดในมาเก๊า ณ 360 View of Macau ค่ะ ลิฟท์ขึ้นไปเป็นลิฟท์แก้ว วิ่งเร็วมาก แถมมองเห็นด้านนอกทั้งหมด งานนี้เล่นเอาผู้เขียนหน้าขาเกร็งไปหมด เกร็งจนปวดขาทันที ยอมรับว่ากลัวมากค่ะ แถมตื่นเต้นด้วย แต่พอขึ้นไปแล้ววิวสวยมากค่ะ เป็นอีกจุดที่ประทับใจ ผู้เขียนใช้วิธีซื้อตั๋วผ่าน Agency จากเมืองไทยแล้วค่ะจะได้ไม่เสียเวลามาต่อคิวซื้ออีก
ภาพสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ขอนำเสนอภาพวิวสวย ๆ ของมาเก๊าน่ะค่ะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเล่าต่อว่าไปเจออะไรมาบ้างค่ะ
ติตตาม Link ที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่น่ะค่ะ
ซอกแซกทัวร์มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 2 http://www.gotoknow.org/posts/532852
ซอกแซกทัวร์มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 3 http://www.gotoknow.org/posts/532861
ซอกแซกทัวร์มาเก๊า ฮ่องกง ตอนที่ 4 http://www.gotoknow.org/posts/532883
ค่าใช้จ่ายตลอด 4 วัน 3 คืนกับสองประเทศ มีรายจ่ายดังนี้ค่ะ
1. ค่าเครื่องจาก อุดร-มาเก๊า-ฮ่องกง-อุดร 4,182 บาท (จองข้ามปี)
2. ค่าโรงแรม 3 คืน /2 เมือง 2,264 บาท
3. ค่าอาหารและรถเมล์ 3,740 บาท
4. ตั๋วเข้าชมจุดต่าง ๆ 2,382 บาท
.รวมทริปนี้ 4 วัน 3 คืน หมดไป 12,568 บาท
เพิ่งไปมาค่ะ หลงทางกันสนุกสนาน แวะมาชม แลกเปลี่ยนกันได้นะคะ
คุณแพร
หลงทางไปไหนบ้าง เล่าสู่กันฟังบ้างน่ะค่ะ มุดลงทะเลเหมือนผู้เขียนไหมน้อ เอิ๊กกกก
...แวะชมภาพสวยๆทั้งวิวทั้งคน...ท่องเที่ยวสนุกแถม...ได้ความรู้ประวัติศาสตร์เมืองมรดกโลกนะคะ
ดร.พจนา แย้มนัยนา
ขอบพระคุณสำหรับดอกไม้ และกำลังใจดี ๆ ที่มอบให้น่ะค่ะ